พรรคประชาธิปัตย์ (Democrat Party) ถือเป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย ก่อนที่จะมีพระราชบัญญัติพรรคการเมือง ก่อตั้งขึ้นเพื่อคานอำนาจรัฐบาลในสมัยของนายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นเผด็จการในยุคนั้น โดยมีนายควง อภัยวงศ์ เป็นหัวหน้าพรรค, หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เป็นรองหัวหน้าพรรค และหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นเลขาธิการพรรคคนแรก
ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช รองหัวหน้าพรรคได้บัญญัติชื่อ “พรรคประชาธิปัตย์” (Democrat Party) ซึ่งมีความหมายว่า "ผู้บำเพ็ญประชาธิปไตย" หรือ “ประชาชนเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตย”
สัญลักษณ์ของพรรคเป็นรูป “พระแม่ธรณีบีบมวยผม มีฟ่อนข้าวประดับอยู่เป็นขอบ” หมายถึง การเอาชนะมาร หรือความชั่วร้ายต่าง ๆ ส่วนฟ่อนข้าว หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์
โดยมีข้อสันนิษฐานมากมายเกี่ยวกับที่มาของสัญลักษณ์พรรค ดังนี้
1) เกิดการจัดปราศรัยที่สนามหลวงแล้วฝนเกิดตกลงมา จึงมีผู้ปรารภขึ้นมาว่าพรรคน่าจะใช้สัญลักษณ์เกี่ยวกับน้ำ ต่อมาเมื่อ "นายควง อภัยวงศ์" หัวหน้าพรรคได้จัดรถช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ภาคเหนือ ได้เหลือบไปเห็นข้างรถตู้คันหนึ่งมีสัญลักษณ์รูปพระแม่ธรณีบีบมวยผมติดอยู่ จึงนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์พรรค
2) ในวันที่ประชุมเพื่อก่อตั้งพรรค มีผู้ตั้งคำถามว่าพรรคจะสัญลักษณ์เป็นรูปใด ประธานในที่ประชุมได้เสนอให้ใช้รูปแม่พระธรณี เพราะบังเอิญเหลือบไปเห็นปฏิทินที่มีรูปแม่พระธรณีบีบมวยผมอยู่ ปรากฏว่าในที่ประชุมเห็นชอบเพราะมีความหมายดี คือ การให้ความร่มเย็นแก่ประชาชน
3) เมษายน พ.ศ. 2525 ภายหลังจาก "นายพิชัย รัตตกุล" ขึ้นรับตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค และได้ย้ายที่ทำการพรรคจากสวนรื่นฤดีมาที่ถนนเศรษฐศิริ จึงมีความคิดว่าน่าจะมีสัญลักษณ์พรรค จึงให้บรรดาสมาชิกช่วยกันคิด โดยมีนายปราโมทย์ สุขุม ส.ส.กรุงเทพฯ เป็นผู้เสนอให้ใช้รูปแม่พระธรณีบีบมวยผม
สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่แจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองไว้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,874,860 คน และมีสาขาพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 195 สาขา นับแต่วันก่อตั้งพรรคจนถึงปัจจุบันมีหัวหน้าพรรคมาแล้วรวม 7 คน
ในจำนวนนี้ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย 4 คน คือ พันตรีควง อภัยวงศ์ ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคคนแรก ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 4 สมัย, หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 4 สมัย, นายชวน หลีกภัย ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 สมัย และนายอภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 1 สมัย