ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน [1] ตอน ชื่อนั้นสำคัญแน่ ๆ บุญช่วย มีจิต
เมื่อครั้งก่อนได้พูดถึงการอ่าน การพูดที่ผิด ๆ มาแล้ว มาคราวนี้อยากจะพูดถึงการเขียน หรือ การสะกดคำที่ผิดกันบ้าง การเขียนหรือการสะกดคำนี้เป็นปัญหาใหญ่มากในภาษาไทย ลำพังการพูดการอ่านนั้น ผ่านแล้วก็ผ่านเลย หายไปกับอากาศ แต่การเขียนนี่สิยังคงอยู่ตลอดไป ไม่สามารถลบหรือทำลายได้นอกจากการเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ยังเป็นภาพติดตาเป็นที่อับอายขายหน้าเขาไปทั้งพารา บางครั้งเป็นโปสเตอร์ แผ่นปลิว แจกไปทั่วบ้านทั่วเมือง ซ้ำบางรายเป็นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ติดอยู่ตามที่สาธารณะ มีชื่อบริษัท ห้างร้านและข้อความผิด ๆ ติดอยู่ให้เราเห็นจนเกลื่อนเมือง
ที่พบอยู่บ่อย ๆ เป็นคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ ภาษาบาลี-สันสกฤต คำที่แผลงและผันตามระดับเสียงวรรณยุกต์ และคำที่ประวิสรรชนีย์ เป็นต้น
“ อเนก ” ( อ่านว่า อะ – เหนก) มีหลายคนเขียนผิดเป็น เอนก ไม่ยกเว้นแม้กระทั่งสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เอนกประสงค์ เป็นคำที่พบบ่อยที่สุด
อเนก ( อ. อยู่นอก สระ เอ ) คำนี้มีรากศัพท์มาจากภาษาบาลี นปุงสกลิงค์ คือ อเนกํ แปลว่า มากมาย หรือ หลายประการ แต่พอมาเป็นชื่อคนเขียน เด็กชายเอนก นายเอนก กันทั้งนั้น
“ ปีติ” อีกคำหนึ่งที่มักเขียนผิดเป็น “ ปิติ” อยู่เสมอ ๆ คำนี้ก็มาจากภาษาบาลีคำเดิมก็คือ ปีติ แปลว่า ความพอใจ ดีใจ แต่พอมาถึงไทยไหงกลายเป็น ปิติ ไปได้อย่างไร โดยเฉพาะชื่อคน เป็นเด็กชาย ปิติ นายปิติ เหมือนกันหมด
“ จำนง” ก็มีหลายคนเขียนเป็น “ จำนงค์ ” นี่ก็คงจะเทียบผิด นำไปเทียบคำว่า อนงค์ หรือ องค์ ในภาษาบาลีแน่ ๆ ที่แท้แล้วจำนงไม่ใช่ภาษาบาลี แต่เป็นคำที่แผลงมาจากคำว่า “ จง” (พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานฉบับ พ.ศ. 2493 หน้า 226 )
คำประเภทเดียวกันเห็นจะได้แก่ “ ดำรง” แผลงมาจาก “ตรง” และ “ ธำรง ” แผงมาจาก “ ทรง” เป็นต้น
จึงไม่ต้องมี “ ค์ ” ตามหลัง
ดำริ( อ่าน ดำ – หริ) เป็นคำแผลงมาจาก “ ตริ ” ก็เขียนเป็น “ ดำริห์” ไป
“สะอาด” คำไทยแท้ ๆ แต่ก็เขียนผิดเป็น “ สอาด” อยู่ประจำ
สะอาง สำอาง สองคำนี้ก็เป็นคำแผลงมาจาก “ สาง” แต่ก็ลากเข้าหาภาษาบาลีเขียนเป็น “ สะอางค์”
“ สำอางค์ ” ไปหมด
“ สังวาล” เด็กชายสังวาล นายสังวาล ก็เขียนผิดเป็น “ สังวาลย์” ทั้งที่รูปคำเดิมของเขาไม่มี “ ย์ ” เลย
“ สังวร” คำนี้ก็เขียนผิดเป็น “ สังวรณ์” คงจะเทียบกับนิวรณ์ อุทธรณ์ สังหรณ์ ละกระมัง
“ ปรานี” ( น หนู) .ในความหมายว่า น่ารักใคร่ น่าเอ็นดู ก็จะเขียนเป็น “ ปราณี” ( น.เณร) ในความหมายว่า
ผู้มีชีวิตในภาษาสันสกฤตไปฉิบ
คำ” อารี” นี่ก็เขียนผิดเป็น “ อารีย์” อยู่ประจำ คงจะนึก(เอาเอง)ว่า มาจากคำว่า “ อริยะ” อารยะ” ในภาษาบาลี สันสกฤตเป็นแน่ ที่แท้แล้ว “ อารี” เป็นภาษาไทยเราแท้ ๆ (พจนานุกรม พ.ศ. 2493 หน้า 903 )
“ ชะลอ” อีกคำหนึ่งที่เขียนผิดกันมากเป็น “ ชลอ” มาตลอด
ทั้งหมดนี้มักจะเป็นชื่อของคนเสียทั้งนั้น หลายท่านบอกว่า ไม่เป็นไร ชื่อคน เป็นคำเฉพาะ จะเขียนอย่างไรก็ได้ในทำนองว่า “ ชื่อนั้นสำคัญไฉน” มันก็ถูกของท่าน แต่ถ้าคนคนนั้นเป็นคนสำคัญระดับประเทศล่ะ เวลาเขียนชื่อของท่าน หรือเวลาท่านเซ็นหนังสือคำสั่งต่าง ๆ ก็จะกระจายออกไปทั่วประเทศ ผู้ที่แยกไม่ออกว่า นี่เป็นเพียงชื่อคน ส่วนคำที่ถูกต้องเขียนอีกอย่างหนึ่ง ก็จะเหมารวมเอาว่า คำที่เป็นชื่อของท่านนั้น ๆ เป็นคำที่ถูกต้อง ซึ่งเคยเจอเคยถกเถียงกันมาประจำ ผู้ที่เขียนถูกก็จะกลายเป็นเขียนผิดไปเลย
เคยสงสัยมานานแล้วว่า เหตุใดคณะกรรมการผู้แต่งตำราภาษาไทยระดับประถมศึกษา (หลักสูตร พ.ศ. 2520 ) จึงตั้งชื่อตัวละครเอกตัวหนึ่งคือ เด็กชายปิติ รักเผ่า แทนที่จะเขียนเป็นเด็กชาย ปีติ รักเผ่า เพราะนักเรียนตั้งชั้น ป.1 ถึง ป.6 คุ้นเคยกับชื่อ ปิติ ตลอดเวลา อีกอย่างหนึ่ง หนังสือชุดนี้เป็นตำราเรียนของทางราชการ ใคร ๆ ก็ยึดถือเอาแบบอย่าง เคยทดสอบกับนักเรียน ป. 6 โรงเรียนวัดปากบึงจำนวน 3 รุ่น ( พ.ศ. 2523-2525)จำนวน 180 คน ปรากฏว่า
ร้อยละ 80 เห็นว่า “ ปิติ ” (สระ อิ )ถูกต้อง อีกร้อยละ 20 ไม่แน่ใจ ส่วนคำว่า “ ปีติ ” (สระ อี ) ไม่มีใครตอบเลย จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จึงสรุปได้ว่า
ชื่อนั้นสำคัญแน่ ๆ
[1] เป็นบทความเชิงวิชาการ เขียนลงวารสารข่าวการศึกษาของ สำนักการศึกษา เป็นตอน ๆ ประมาณ 14 ตอน และได้รวบรวมเป็นเล่ม ทำผลงานอาจารย์ 3 ระดับ 8 รอบแรก แต่ไม่ผ่าน ตอนที่นำมาลง ณ ที่นี้ เป็นตอนที่ 8 ลงพิมพ์ในวารสารข่าวการศึกษา ปักษ์หลัง ปีที่ 11 ฉบับที่ 278 ตุลาคม 2532 ็น็