อวสานโลก
ทั้งนี้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ทาง ดร.ธวัช วิรัตติพงศ์ คนไทยที่ไปทำงานอยู่ในโครงการของนาซาหรือองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ได้เขียนบทความส่งมาที่ “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าพิจารณา โดยสังเขปคือ...เรื่องโลกแตกในปี 2555 เป็นที่โจษขานกันทั่วโลก จากการทำนายโดยผู้เชื่อเรื่องนี้บางกลุ่มว่าโลกจะเกิดอภิมหาภัยพิบัติใน วันที่ 21 ธ.ค. ปี พ.ศ. 2555 วันสุดท้ายของปฏิทินของชนเผ่ามายา
ดร.ธวัช ระบุว่า...การพยากรณ์โลกแตกมีมานาน เกิดขึ้นบ่อย และมีกลุ่มคนที่เชื่อถือพอสมควร บางครั้งก็เป็นเหตุนำไปสู่ความรุนแรง เช่นการฆ่าตัวตายหนีโลกแตก อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้จัดการด้านวิจัยพัฒนา ของ NASA-JPL Deep Space Station ที่มีนักวิทยาศาสตร์มาทำโครงการค้นหามนุษย์ต่างดาว (Search for Extraterrestrial Intelligence, SETI) และติดตามอุกกาบาตที่อาจพุ่งชนโลกได้ ใคร่ขอเสนอความเห็น
ก่อนอื่นต้องขอให้ความหมายของ “โลกแตก” ว่าหมายถึงอภิมหาภัยพิบัติที่ทำให้คนตายมากหลายร้อยล้านคนหรือเป็นพันล้านคน หรือถึงขนาดทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ ซึ่ง คำถาม...โลกแตก เป็นไปได้หรือไม่?? คำตอบ...เป็นไปได้!! และอาจเกิดเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องปี 2555 แต่โอกาสน้อยมาก
สรุปความเชื่อของบางคน กับสาเหตุที่มีผลทำให้โลกแตกโดยเฉพาะในเดือน ธ.ค. 2555 คือ...1. ดาว Nibiru วิ่งเข้าประชิดหรือชนโลก 2. พายุอนุภาคจากดวงอาทิตย์ (Solar Storm) พุ่งเข้าสู่โลกอย่างรุนแรง 3. โลกและดาวนพเคราะห์อื่น ๆ เรียงตัวอยู่ในแนวเดียวกัน 4. ขั้วแม่เหล็กโลกสลับกลับทิศจากขั้วเหนือเป็นขั้วใต้
“นักวิทยาศาสตร์ของ NASA-JPL คือ Dr.Don Yeomans ซึ่งทำงานที่เดียวกับผม ปัจจุบันเป็นผู้จัดการ NASA’s Near-Earth Object Program ที่ติดตามอุกกาบาตที่อาจพุ่งชนโลกในอนาคต ได้แถลงเป็นทางการว่า ข้ออ้างทั้ง 4 ข้อไม่เป็นความจริง ซึ่งใน www.jpl.nasa.gov/asteroidwatch/ มีรายละเอียดอยู่”...ดร.ธวัช ระบุ
พร้อมสรุปคำอธิบายของ Dr.Don ว่า...1. ดาว Nibiru ไม่มีจริง ถ้ามีจริง กล้องเทเลสโคปจากหอดูดาวต่าง ๆ ต้องจับภาพเจอแน่นอน เพราะมีขนาดใหญ่และอยู่ใกล้โลก 2. พายุอนุภาคจากดวงอาทิตย์จะเกิดแบบรุนแรงถึงจุดสูงสุดทุก 11 ปี เป็นเช่นนี้มาหลายล้านปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยทำให้โลกแตก เพียงแต่จะรบกวนหรือทำความเสียหายต่อระบบสื่อสารต่าง ๆ ได้ 3. การเรียงตัวของดาวนพเคราะห์จะยังไม่เกิดอีกหลายสิบปี และถึงจะเกิดขึ้นตอนนี้ปีนี้ก็มีผลต่อโลกน้อยมาก เพราะดาวนพเคราะห์ส่วนใหญ่อยู่ไกลจากโลกมาก 4. ขั้วแม่เหล็กโลกจะหมุนเปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ โดยใช้เวลาเฉลี่ย 400,000 ปี จึงจะสลับกลับขั้วจากขั้วเหนือเป็นขั้วใต้ ดังนั้นจึงไม่มีผลอย่างทันทีทันใด
ดร.ธวัช ระบุอีกว่า...การทำนายหายนะโลกเกิดขึ้นบ่อย ๆ บ้างว่าจะเกิด 21 พ.ค. 2554 แล้วขยับเป็น 21 ต.ค. 2554 บ้างบอกว่าจะมีดาวชนโลกในเดือน พ.ค. 2546 ซึ่งจนวันนี้โลกก็ไม่แตก โดยในความเห็นส่วนตัว และความเห็นนักวิทยาศาสตร์อีกหลายคน ถ้าโลกจะแตกคงมาจากสาเหตุอื่น เช่น...1. การระบาดของเชื้อโรคตัวใหม่ที่แพร่กระจายรวดเร็วมาก และไม่สามารถหายาหรือวัคซีนมารักษาหรือป้องกันได้ทัน
2. เกิดสงครามนิวเคลียร์โดยไม่ตั้งใจ ระหว่างประเทศมหาอำนาจ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและรัสเซียที่มีนิวเคลียร์มาก หากเกิดการผิดพลาดทางเทคนิค สงครามนิวเคลียร์ก็อาจเกิดขึ้นได้ 3. อุกกาบาตขนาดใหญ่วิ่งเข้าชนโลก เหมือนเมื่อครั้งที่ทำลายล้างเผ่าพันธุ์ไดโนเสาร์ 65 ล้านปีที่แล้ว เรื่องนี้ทางนาซาให้ความสนใจและจัดทีมเฝ้าติดตามอุกกาบาตต่าง ๆ ที่อาจพุ่งชนโลกได้ เพื่อจะได้หาทางแก้ไขได้ทันหากเกิดขึ้นจริง ซึ่งเท่าที่ทราบอุกกาบาตลูกถัดไปจะผ่านใกล้โลกในวันที่ 26 ต.ค. 2571 แต่ก็เชื่อว่าจะไม่ชนโลกอย่างแน่นอน
4. ซูเปอร์วอลเคโน (Supervolcano) ภูเขาไฟขนาดใหญ่มาก ๆ เกิดระเบิดรุนแรงขึ้น ซึ่งภูเขาไฟใหญ่มาก ๆ มีอยู่ 6 แห่ง อยู่ที่สหรัฐอเมริกา 3 แห่ง คือที่ Yellow Stone (Wyoming), Long Valley (California), Valles Caldera (New Mexico) อีก 3 แห่งอยู่ที่อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ ซึ่งไม่มีใครทราบแน่ว่าจะเกิดระเบิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ โดยเมื่อครั้งที่ระเบิดที่ Lake Toba ประเทศอินโดนีเซีย ผ่านมาประมาณ 74,000 ปีแล้ว
’ที่กล่าวมาแม้จะดูน่ากลัว แต่ก็ไม่ควรตื่นตระหนกจนเป็นเหยื่อความกลัว เพราะโอกาสเกิดมีน้อยมาก แต่ก็ควรใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท และช่วยกันรักษาดูแลสิ่งแวดล้อมและโลกใบนี้ให้ดี ส่วนคำทำนายโลกจะแตกวันที่ 21 ธ.ค. 2555 ก็ต้องใช้วิจารณญาณว่าสมควรเชื่อหรือไม่?“...ดร.ธวัช ทิ้งท้าย
นี่ก็เป็นเรื่อง ’อวสานโลก-โลกแตก“ ที่โยงกับปี 2555
’โปรดใช้วิจารณญาณ“ พินิจพิเคราะห์ก่อนจะเชื่อ!!!.
ที่มา:หนังสือพิมพ์เดลินิวส์