Module 1  People of the World

Unit 2  Lifestyles

รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน                                                                                                           ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)                                                                  เวลาเรียน 8 ชั่วโมง

 

 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัดช่วงชั้น     

  มาตรฐาน  ต 1.1:        เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล

1.    ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานต่างๆ คำชี้แจง คำอธิบาย และคำบรรยายที่ฟังและอ่าน

2.    อ่านออกเสียง ข้อความ  ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น(skit) ถูกต้องตามหลักการอ่าน

3.    อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และข้อความที่ฟังหรืออ่าน

4.    จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ  สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่องที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ 

  มาตรฐาน  ต 1.2:        มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ

1.    สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์  ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม  และสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม

2.    เลือกและใช้คำขอร้อง  ให้คำแนะนำ คำชี้แจง  คำอธิบายอย่างคล่องแคล่ว

3.    พูดและเขียนแสดงความต้องการ   เสนอ  ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ  ในสถานการณ์จำลองหรือสถานการณ์จริงอย่างเหมาะสม

4.    พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล  บรรยาย อธิบาย  เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม

5.    พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ  กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์อย่างมีเหตุผล

   มาตรฐาน  ต 1.3:       นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูดและ

                                          การเขียน

1.    พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์  เรื่อง และประเด็นต่างๆ ตามความสนใจของสังคม

3.    พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์  และเหตุการณ์ ทั้งในท้องถิ่น  สังคม  และโลก พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ

   มาตรฐาน ต 2.1:        เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้

                                          อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

1.    เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล  โอกาส และสถานที่ ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

2.    อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจ้าของภาษา

3.    เข้าร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม

   มาตรฐาน ต 2.2:        เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

1.    อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิตและบทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

2.    วิเคราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล

   มาตรฐาน ต 3.1:        ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน

1.    ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก  สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน

    มาตรฐาน ต 4.1       ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

1.    ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา  ชุมชน  และสังคม

    มาตรฐาน ต 4.2        ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ

         การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก

1.    ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุปความรู้/ข้อมูลต่างๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ

2.    เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน  ชุมชน  และท้องถิ่น/ประเทศชาติ เป็นภาษาต่างประเทศ

     2. สาระสำคัญ 

ระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และข้อความที่ฟังหรืออ่านเช่น การสอบถามและบอกทิศทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ การอ่านเพื่อจับใจความสำคัญ (Reading for gist) และเก็บรายละเอียดข้อมูล(Reading for information) การแสดงความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ การอธิบายการขอและให้ข้อมูล หรือสนทนาเกี่ยวกับคุณสมบัติของบุคคลในการทำงาน การขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับทิศทาง การสัมภาษณ์เพื่อสมัครเข้าทำงาน การเขียนบรรยายเกี่ยวกับสถานที่ เพื่อนบ้าน การสรุปความ ตีความเรื่องที่เป็นสารคดี บันเทิงคดี เขียน วิเคราะห์แยกแยะเนื้อหาสาระ

      3.สาระการเรียนรู้ (ความรู้ เจตคติ และทักษะ - K, A, P)

                3.1เมื่อเรียนจบหน่วยการเรียนรู้นี้แล้ว ผู้เรียนจะมีความรู้ความเข้าใจ (Knowledge)เกี่ยวกับ

·       Functional Exponents:

- Expressing likes/ dislikes/ preferences

- Asking for and giving directions

- Acting out a  job interview

·      Language Structure:

-  Comparative / superlative forms

-  Phrasal verbs: put

·      Phonology:

- City-related compound nouns

            3.2 เมื่อเรียนจบหน่วยการเรียนรู้นี้แล้ว ผู้เรียนจะมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และเจตคติ (Attitudes) ดังต่อไปนี้

·      การใช้ภาษา ท่าทาง น้ำเสียงที่สุภาพ เหมาะสมในการอธิบาย แสดงความรู้สึก และการให้เหตุผล

·      มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน และรักการทำงาน

                3.3 เมื่อเรียนจบหน่วยการเรียนรู้นี้แล้ว ผู้เรียนจะมีความสามารถ (Process / Skills)

1.            อ่านออกเสียงข้อความถูกต้องตามหลักการอ่าน

2.            ปฏิบัติตามคำชี้แจง คำอธิบาย และคำบรรยายที่ฟังและอ่านได้

3.            สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัวได้

4.            ฟังเรื่องราวแล้วจับใจความสำคัญ เก็บข้อมูลรายละเอียดที่ฟังได้

5.            แสดงความรู้สึก likes/ dislikes/ preferences ได้

6.            สอบถามและบอกทิศทางได้

7.            แสดงบทบาทสมมติในการสัมภาษณ์สมัครงานได้

8.            เขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเองและสถานที่พักอาศัยประมาณ 50-60 คำ ได้

9.            เขียนไปรษณียบัตรเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว และเพื่อนบ้านของตนเองได้

  10.   เขียนจดหมายสมัครงานได้

                      11.             เขียนเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหว่างประเทศไทยและของเจ้าของภาษาได้

    4.ชิ้นงาน / ภาระงาน (รวบยอด)

1.            ทำแบบทดสอบก่อน/หลังเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 2

2.            การสอบถาม วาดแผนที่ และบอกทิศทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ

3.            การแสดงบทบาทสมมติในการสัมภาษณ์สมัครงาน

4.            งานเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเองและสถานที่อยู่อาศัย

5.            งานเขียน Ideal Town และจดหมายสมัครงาน

6.            Quizทดสอบความรู้เกี่ยวกับเมืองหลวงของไทย

    5. การประเมินผลการเรียนรู้   

การประเมินชิ้นงาน / ภาระงานรวบยอด

1.            ประเมินผลก่อน/หลังเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 2

2.            ประเมินผลการอธิบาย บอกใจความสำคัญและรายละเอียดเรื่องที่ฟัง

3.            ประเมินผลการแสดงความรู้สึก likes/ dislikes/ preferences

4.            ประเมินผลการสอบถามและบอกทิศทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ

5.            ประเมินผลการแสดงบทบาทสมมติในการสัมภาษณ์สมัครงาน

6.            ประเมินผลงานเขียนบรรยายสั้น ๆ เกี่ยวกับตนเองและสถานที่อยู่อาศัยได้

7.            ประเมินผลงานเขียนไปรษณียบัตรเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว และเพื่อนบ้านของตนเอง

8.            ประเมินผลงานเขียนจดหมายสมัครงาน

9.            ประเมินผล Quiz ทดสอบความรู้เกี่ยวกับเมืองหลวงของไทย

    6.กิจกรรมการเรียนรู้    

    6.1  ชั่วโมงที่ 1-2:                                                      Unit 2a

    กิจกรรมนำสู่การเรียน

1.            นักเรียนทำแบบทดสอบความรู้ก่อนเรียนโดยใช้ Test 1B (Module 1) จาก Test booklet pp. 7-10

2.            นำเข้าสู่บทเรียนด้วยการชี้แจงให้นักเรียนทราบว่าModule 1: People of the World, Unit 2: Lifestyles นี้ นักเรียนจะได้เรียนรู้เพื่อให้ผ่านตัวชี้วัดตามที่กำหนดในมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดช่วงชั้น โดยเป็นการเรียนรู้ผ่านเนื้อหาสาระเกี่ยวกับ

·       Vocabulary: city life/ country life; jobs & jobs qualities; describing places; parts of a town; job interviews

Word building – compound nouns

·       Grammar: comparatives/superlative; -ing/ infinitive forms

Phrasal verb – put

·       Reading: true/ false (article); multiple choice cloze

Skills – signs & notices (multiple choice)

·       Listening: true/ false; multiple matching (missing sentences)

Skills – listening for gist, listening for detail

·       Speaking: expressing likes and dislikes; talking about job qualities; asking for/ giving directions; expressing preferences; a job interview; pronunciation – word stress in compound nouns

·      Pronunciation: city-related compound nouns

·       Writing: a postcard;

Portfolio – short article describing a place; description of your neighbourhood; questions for a quiz

3.   ครูเตรียมความพร้อมนักเรียนเข้าสู่บทเรียน Unit 2a โดยให้นักเรียนแนะนำตัวเองด้วยการใช้คำที่

กำหนดให้ใน Ex.1, p.16 ซึ่งได้แก่ • your name • where you come from • where you live • home • family •job เป็นหัวข้อสำหรับการนำเสนอข้อมูลประกอบการใช้รูปแบบโครงสร้าง(The skeleton dialogue) “…My name’s…and I’m…years old. I come from…but I live in…I’ve got… (brothers/sisters)…I am a…”

ทั้งนี้ ครูควรให้เวลาสำหรับการเตรียมตัวของผู้เรียน จากนั้นจึงสุ่มชื่อนักเรียนในการแนะนำตัวเองให้กับชั้นเรียนได้รับทราบ 

    กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้

       1.  ให้นักเรียนทำ Ex.2โดยดูรูปภาพ A – E ใน pp.16-17 แล้วครูอธิบายคำศัพท์ที่กำกับรูปภาพที่

              นักเรียนไม่ทราบความหมาย จากนั้น ให้นักเรียนจับคู่กันใช้ Prompts A – E ในการอธิบายรูปภาพ

                แต่ละภาพผลัดกันเล่าให้เพื่อนฟัง ในขั้นตอนนี้ครูควรอำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือทำให้

นักเรียนสามารถทำกิจกรรมให้บรรลุตัวชี้วัด/มาตรฐานการเรียนรู้ที่ว่าด้วยการพูดบรรยายความรู้สึก และแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ อย่างมีเหตุผล ในที่นี้เป็นการ Describing pictures

Suggested Answer Key:

Picture A shows fantastic scenery. I can see a clear lake and high mountains. There are trees by the side of the lake and the air is fresh and clean.

Picture B shows traffic congestion. I can see a busy motorway. There are a lot of cars and their exhaust fumes are producing air pollution.

Picture C shows convenient public transport. I can see a bus stop. There are well-dressed passengers in a queue, waiting to get on the bus.

Picture D shows a large shopping centre. I can see a variety of expensive shops. There are some shoppers going up the escalators.

Picture E shows a peaceful neighbourhood. I can see a cosy suburban house. There is a pretty garden with lots of flowers and bushes.

 

2.             นักเรียนฝึก Listening for detail โดยให้นักเรียนฟังCD 1 Track 11 ใน Ex.3, p.16 ประมาณ 2 ครั้ง และจดรายละเอียดของเรื่องที่ฟัง แล้วตอบคำถามว่าบุคคลแต่ละคน (Bill – Anne – John & Mary) พักอาศัยอยู่ที่ใด และแต่ละคนได้ให้เหตุผลในการเลือกอาศัยอยู่ ณ จุดนั้น ๆ อย่างไร

Bill: I’m not really the sort of person who enjoys going out a lot or

meeting new people. I prefer a quiet life, to be honest. That’s why

I don’t want to sell this house and move to the city, I suppose. Of

course, there’s more work in the city, but I seem to get by out

here in the countryside. A lot of the locals rely on me, as I’m the

only lawyer in the area, and I’ve got several close friends around

me, so I’m quite happy to stay here for the time being.

Anne: I grew up in the country and I couldn’t wait to escape.

It was so boring – no cinema, no cafés, no nightclubs. When I

left home, I moved straight to the city and I can’t imagine

 

 

 

living anywhere else now. I love the energy and excitement –

everything you could ever need, right on your doorstep.

There’s never a dull moment, that’s for sure!

John and Mary: (J)We moved out of the city about two years

ago now. Our second daughter, Rosie, had just been born and we

thought it would be a pity for the girls to grow up in all that noise

and pollution. (M) We wanted them to have more space to play in

and to be safer, really. The village we live in now is perfect for

children. It’s quiet and clean, and there’s plenty to do. (J) Anyway,

if we miss the bustle of the city it’s only 20 minutes’ drive away.

 

 

·       Bill: countryside - prefers a quiet life; he gets by; the local people rely on him; has several close friends.

·       Anne: city - more things to do; loves the energy and excitement; everything is on your doorstep.

·       John & Mary: village – didn’t want their daughters to grow up in all the noise and pollution of the city; good for children – space to play, safer; quiet, clean; plenty to do.

 

3.   ครูเปิด CD 1 / Track 12 ให้นักเรียนฟังและทำEx.4, p.16 เพื่อฝึกทักษะ Reading for gist ด้วยการอ่านชื่อเรื่อง A City Slicker or a Country Lover? และเนื้อเรื่องในย่อหน้าแรกที่เป็น Introduction ครูอธิบายความหมายของคำศัพท์ใหม่ จากนั้น ให้นักเรียนขีดเส้นใต้คำสำคัญที่จะช่วยให้ได้คำตอบว่าบทความที่อ่านนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร

                            e.g.    city slicker/country lover, …might suit some people, …but others prefer…,…

                                        Stephen and Marianna…,… to get both sides of the story…

 

                                Suggested Answer Key:

The text must be about living in the city or country. It probably wants to show why some people prefer the city to the country and vice versa. I suppose “Down Town” is the name of the magazine or newspaper which published the article, and the two people will give opposing viewpoints.

4.   นักเรียนเปิดหนังสือแบบเรียนp.17 อ่าน Study Skills: Readingfor specific information ซึ่งบอกเทคนิคการอ่านเรื่องเพื่อจับใจความสำคัญ ด้วยการขีดเส้นใต้คำสำคัญ แล้วอ่านเพื่อจับประเด็นสำคัญของเรื่อง จากนั้นอ่านอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยมองหาคำที่เป็นคำเหมือน (Synonym) คำที่มีความหมายตรงกันข้ามกัน (Opposite) หรือ กลุ่มคำ/ วลีที่มีความหมายเหมือนกัน หรือต่างกันกับคำสำคัญที่ขีดเส้นใต้ไว้ ครูอธิบายคำศัพท์ใหม่ด้วยการใช้คำเหมือน (Synonym)หรือคำที่มีความหมายตรงกันข้ามกัน (Opposite) ประกอบการอธิบาย

5.  เมื่อนักเรียนอ่าน Reading for specific information แล้วให้นักเรียนทำ Ex.5, p.17 โดยครูและนักเรียนช่วยกันทำข้อที่ 1 พร้อมกัน จากนั้น ให้นักเรียนอ่านเนื้อเรื่องเพื่อมองหาคำ/ กลุ่มคำ/วลีที่มีความหมายเหมือน (Synonym) คล้ายคลึง (Similar)หรือตรงกันข้ามกัน (Opposite) กับคำสำคัญที่ขีดเส้นใต้ไว้ จากนั้น ให้นักเรียนอ่านอีกครั้งหนึ่ง แล้วจับคู่กันหาคำตอบสำหรับข้อที่ 2 – 8 ที่เหลือ

               

                                        1. F                                2. T            3. T                 4. F

                                        5. F                                6. T              7. T                                8. F

 

  6.  นักเรียนจับคู่ช่วยกันหาความหมายที่เหมือนกัน(Synonym) หรือตรงกันข้ามกัน (Opposite) ของคำที่ถูกแรเงาเป็นตัวดำหนาทึบ ครูแนะนำให้นักเรียนใช้ A thesaurus ซึ่งมีลักษณะคล้ายa dictionary ที่บอกคำเหมือน (Synonym)และคำที่มีความหมายตรงกันข้ามกัน (Opposite)  แต่ไม่มีการอธิบายความหมายของคำเหมือน Dictionaryทั่วไป

                               

                                Suggested Answer Key:

dull (adj) :  boring

hustle and bustle (exp) : noise, movement and activity

inspiration (n) :  source of new and creative ideas

close at hand (exp) :  near by, convenient

chat (v) :  have informal conversation with sb

    community spirit (n) :  friendliness and understanding among the people in

                                                  a particular area

put up with (phr v) :  tolerate

constant (adj) :  continuous, never ending

(to be) in one’s element (exp) :  to be happy because you are doing what you like or can do best

down under (exp) :  Australia

huge (adj) :  enormous, very big

ranch (n):  farm with animals rather than crops

healthy (adj):  good for you, makes you fit and strong

fresh (adj) :  clean and cool; found outside, not in a room

drought (n) :  a long period when there is little or no rain

crops (n) :  grains or vegetables grown by a farmer

isolated (adj) :  remote, cut off

local facilities (noun-phrase) : buildings, equipment, service, etc, provided for the public in your area

 

  7.  นักเรียนอ่านเนื้อเรื่องอีกครั้ง จากนั้น ให้นักเรียนจับคู่กันเพื่อวิเคราะห์ว่ามีสิ่งใดที่เป็น Advantages/ Disadvantages ในการอาศัยอยู่ในชนบท / ในเมืองใหญ่ แล้วใช้คำที่ใช้สำหรับการแสดงความคิดเห็นในตารางที่กำหนดให้ในEx.6, p.17 ประกอบในการสะท้อนความคิดเห็นของตนเองลงในสมุด และเล่าให้เพื่อนฟัง

Suggested Answer Key:

City

Pros:  interesting life; inspiration for work; facilities close at hand; easy to get around; shopping centres, art galleries, museums

Additional Pros:  get to meet new people; better job prospects; latest film releases and theatre productions; centre of activity, etc

Cons:  people don’t chat to each other, less community spirit; noise, pollution, traffic congestion

Additional Cons:  high cost of living; traffic hazards; dirty streets; ugly blocks of flats; high crime rate; people are always in a hurry and stressed, etc

Countryside

Pros:  fantastic scenery, healthy lifestyle, space, peace and quiet, clean and fresh air; produce own food

Additional Pros:  have your own home, and garden; are involved in the community; can do outdoor sports; most things are cheaper than in the city; have time to take up sports and hobbies, etc

 

 

Cons:  droughts, no crops; isolation; not many things available, no local facilities; problems when sb is ill

Additional Cons:  may get bored; small social circle; there isn’t a wide variety of goods, brand names, etc

Suggested Answer Key:

S1:     I like living in the city because life is so interesting here and all the facilities are close by … museums, opera houses, theatres – you name it!

S2:     I just hate living in the city. I can’t stand the noise and the traffic congestion!

S3:     It’s difficult to choose between the two. What I don’t like about the city is the traffic, and people are too busy to talk to each other. But I think I would be bored in the country, too.

 

     กิจกรรมรวบยอด

1.            ให้นักเรียนทำกิจกรรม Writing ในหนังสือแบบเรียน p.17 โดยการเขียนบทความสั้นๆ ประมาณ  50-60 คำ เกี่ยวกับตัวเองและสถานที่พักอาศัยอยู่ ภายใต้หัวข้อที่กำหนดให้

• full name 

• jobs/ studies/ habits

• name of the place you live in

• reasons why you (don’t) like it

                    Suggested Answer Key:

Exciting and colourful Amsterdam

My name is Lucy Adams and I live in Amsterdam. I am a student. There are many things which make living in Amsterdam a wonderful experience. We’ve got museums, cafés, and theatres, but what I love most about this city is its canals. I also like spring in Amsterdam. There are different kinds of flowers everywhere and the parks are full of ducks and other birds.

Of course there are things I don’t like about the city. For instance, I hate it when pedestrians walk in the bicycle lanes. I don’t like how crowded it becomes at certain times of the year, either, but I wouldn’t want to live anywhere else.

 

2.            ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด Ex.1- 2, p.12 ในหนังสือแบบฝึกหัดเป็นการบ้าน

 

6.2   ชั่วโมงที่ 3 – 4:                                                            Unit 2b

   กิจกรรมนำสู่การเรียน

1.            ครูบอกนักเรียนว่า ในชั่วโมงนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับAdjective-noun phrase, reading to identify information, pairs of opposite, describing locations on a map, giving directions listening for specific information และ talking about Ss’ own qualities

2.            นักเรียนอ่านออกเสียงคำคุณศัพท์ที่กำกับรูปภาพสถานที่ต่างๆ เช่น shop, street, village, house, town, restaurant ในหนังสือแบบเรียน Ex.1, p.18 และช่วยกันแปลความหมายคำศัพท์ใหม่ที่นักเรียนยังไม่ทราบ

     กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้

1.            นักเรียนอ่านออกเสียง Study Skills (Learning new words: adjective-noun phrases) และครูอธิบายให้นักเรียนทราบว่าวิธีการหนึ่งที่จะช่วยทำให้สามารถจดจำความหมายของคำคุณศัพท์ และสามารถใช้คำคุณศัพท์ได้อย่างถูกต้องก็คือ การเรียนรู้การใช้คำคุณศัพท์ควบคู่ไปกับคำนามที่คำคุณศัพท์

นั้น ๆ ทำหน้าที่ขยายความ

2.            นักเรียนจับคู่กันทำ Ex.1, p.18 โดยช่วยกันคิดคำคุณศัพท์ที่จะสามารถใช้ได้กับคำนามที่กำหนดให้ได้มากที่สุด แล้วช่วยกันจดบันทึกลงในสมุด เช่น

Suggested Answer Key:

SHOP:big; crowned; small

STREET:quiet; busy; deserted; empty

VILLAGE:traditional; picturesque; friendly

HOUSE:small; expensive; big; old; new

TOWN:small; lively; quiet; historic; seaside

RESTAURANT:seafood; expensive; traditional; quiet

 

จากนั้นให้ใช้คำคุณศัพท์นั้นๆ ทำเป็น Adjective-noun phrases จากนั้น เขียนบรรยายสถานที่ที่ตนเองและเพื่อนอาศัยอยู่ (Talk about where you live and where a friend lives) โดยใช้โครงสร้างประโยคตัวอย่างประกอบการบรรยาย

Suggested Answer Key:

a)    I live in a quiet, friendly village. I love it there. It is very picturesque with lots of narrow streets full of small houses. My house is not spacious, but it is comfortable enough for us. We only have a few local shops in the village so they are usually very busy. In the evenings we sometimes go out to eat. There are a couple of traditional restaurants that are quite expensive.

b)    My friend, Barry, lives in a large industrial town. It has wide, noisy, congested streets and lots of crowded, busy shops. He lives in a small, semi-detached house. There is a corner stop and a fast food restaurant in his neighbourhood.

 

3.   ให้นักเรียนดูป้าย (Signs) 1 – 3 ครูถามว่านักเรียนเห็นป้ายเหล่านี้จากที่ไหนบ้าง และเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็น โดยครูอธิบายถึงความจำเป็นในการแยกแยะ และจดจำป้ายบอกข้อความ เพราะป้ายต่างๆ มักจะบอกรายละเอียดข้อมูลที่สำคัญเสมอ แล้วให้นักเรียนจับคู่กันทำEx.2, p.18 แล้วตรวจคำตอบด้วยกัน

You might see sign 1 ina park, sign 2 ina field and sign 3 ina restaurant.

 

4.    นักเรียนอ่านออกเสียงวลีที่อยู่ใน Ex.3, p.18 แล้วหาคำคุณศัพท์ที่มีความหมายตรงกันข้ามกับคำคุณศัพท์ที่เป็นตัวอักษรทึบ จากนั้น ครูกับนักเรียนลองทำ ข้อ 1 เป็นตัวอย่างพร้อมกัน เสร็จแล้วให้นักเรียนจับคู่กันทำแบบฝึกหัดที่เหลือ โดยครูทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ของนักเรียน

 

busy ≠  quiet            dirty ≠  clean     expensive ≠  cheap         small  ≠  big   

 

5.  ให้นักเรียนดูแผนที่ Oaksville ใน p.19 แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกว่าเห็นตึก/อาคารอะไรบ้างใน      

      แผนที่ จากนั้น ให้นักเรียนอ่านออกเสียงคำที่ใช้บอก Adverb of place และแปลความหมายให้เข้าใจ  

      ตรงกัน

6.    นักเรียนจับคู่กันใช้ Adverb of placeใน Ex.4, p.18 ผลัดกันบรรยายที่ตั้งบนแผนที่ โดยครูทำให้

      นักเรียนดูเป็นตัวอย่างก่อนที่จะเดินสังเกตพฤติกรรม และส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน

 

A: It’s opposite the restaurant. B: It’s the café. A: It’s in front of the office block. B: It’s the block of flats. A: It’s to the left of the concert hall. B: It’s the museum.

Suggested Answer Key:

  A: It’s next to the shopping centre.

  B: It’s the supermarket.

  A: It’s on the corner of King’s Street and High Street.

  B: It’s the school.

  A: It’s between the post office and the café.

  B: It’s the chemist’s.

 

7.    นักเรียนฟังCD 1 Track 13 ใน Ex.5, p.18 แล้ววาดแผนที่การเดินทางตามข้อมูลที่ตนเองได้ยินลงในแผนที่ หน้า 19 ครูอาจให้นักเรียนฟัง 2 ครั้ง เสร็จแล้วให้นักเรียนตรวจสอบคำตอบกับคู่ หรือเฉลยพร้อมกันทั้งชั้น

Man: Excuse me. Could you tell me where the museum is, please?

Woman: Yes, of course. You come out of the station and go across Station Road.

Go down Prince’s Street, past the restaurant and the Concert Hall ...

Man: Sorry, did you say Prince’s Street?

Woman: Yes, that’s right. Then turn right into High Street.

Man: Right into High Street. OK.

Woman: Turn right again into West Street. The museum is on your right, opposite

an office block.

Man: Thank you very much.

Woman: You’re welcome.

 

Key words:across Station Road, go down Prince’s Street, turn right onto High Street, turn right again onto West Street, museum is on your right, opposite an office block.

 

8.   ให้นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความในช่องตารางที่บอกAsking directions & giving directions แล้ว

        ช่วยกันหาความหมายของคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ จากนั้น ครูจึงกำหนดสถานที่ที่เป็นจุดหมายปลายทาง  

        แล้วให้นักเรียนจับคู่ฝึกทักษะการพูดใน Ex.6, p.19 ด้วยการช่วยกันอธิบายถึงเส้นทางในการ

        เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว โดยใช้ข้อความที่กำหนดให้ในตาราง เช่น ask for and give directions

       to the bank, the museum, etc. ในที่นี้ ครูทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก และนักเรียนอาจจด

        โน้ตข้อความที่ช่วยกันอธิบายบอกเส้นทางเก็บไว้ทบทวนด้วยก็ได้ ทั้งนี้ เมื่อนักเรียนได้ฝึกกันแล้ว

        ครูควรเปิดโอกาสให้นักเรียนแต่ละคู่มานำเสนอทักษะการพูดหน้าชั้นเรียน

e.g.         A:   Excuse me, could you tell me the way to the concert hall?

                B:   Sure. Just cross the street, go right and take the first turning on your left (into Prince’s Street). Go down this street and turn right into High Street. The concert hall is the building on the corner, opposite the shopping centre.

9.   นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์ที่บอกอาชีพใน Ex.7, p.19 และช่วยกันคิดว่าคนที่ประกอบอาชีพ

แต่ละประเภทในรายการที่อ่านนั้น มีสถานที่ทำงานอยู่ ณ จุดใดในแผนที่บ้าง

teacher: school traffic warden: street bank clerk: bank journalist: newspaper office, TV/radio station nurse: hospital, doctor’s surgery sales assistant: shop

Suggested Answer Key:

secretary:office

librarian:library

security guard:bank, office block,

shopping centre

dentist:dentist’s surgery

waiter:restaurant, café

waiter:restaurant, café

 

 

10.  นอกจากนี้ ควรให้นักเรียนคิดชื่ออาชีพ และสถานที่ทำงานเพิ่มเติมจากที่ปรากฏในหนังสือแบบเรียน   

      โดยครูเขียนคำศัพท์ที่นักเรียนบอกบนกระดาน และให้นักเรียนจดลงในสมุดของตนเองด้วย

Suggested Answer Key:

pharmacist:chemist                       curator:museum

mayor: town hall                             chef:restaurant

 

       11.  ครูถามนักเรียนว่า เรามักจะใช้คำบุพบทใดเมื่อพูดถึงการทำงานในตัวอาคาร(indoor) ซึ่งคำบุพบท

              นั้นคือคำว่า in พร้อมกับยกตัวอย่างประโยค

12.  นักเรียนจับคู่คำที่บ่งบอกคุณสมบัติในการทำงานในEx.8, p.19  กับชื่อของตำแหน่งงาน/อาชีพใน

Ex.7 โดยใช้โครงสร้างประโยคเหมือนกับที่ยกตัวอย่างให้  ครูควรร่วมกับนักเรียนในการแปลความหมายของคำศัพท์แต่ละคำก่อน

 

Suggested Answer Key:

sincere :  journalist, bank clerk

friendly :  waiter, sales assistant, bank clerk, teacher, nurse, traffic warden

patient:  teacher, nurse, sales assistant

honest:bank clerk, journalist

caring :nurse, dentist

calm :  security guard

cheerful :  waiter, bank-clerk, sales assistant

responsible :secretary, security guard, librarian, dentist, teacher, nurse, bank clerk, traffic warden

careful :  secretary, dentist, traffic warden, nurse, bank clerk

organised :  secretary, librarian, teacher

practical :  secretary, librarian, teacher, traffic warden

polite :  secretary, librarian, waiter, bank clerk, sales assistant, traffic warden

 

       13.  นักเรียนจับคู่กันฝึกทักษะการพูดตาม Ex.9, p.19 โดยดูว่าตำแหน่งงาน/อาชีพใดที่เหมาะสมกับ

              นักเรียน พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบคำอธิบาย ทั้งนี้ ครูสุ่มเลือกนักเรียน 2 -3 คู่  หรือมากกว่านั้นถ้า

              มีเวลามาพูดหน้าชั้นเรียน

Suggested Answer Key:

A: Do you think you’d be a good dentist?

B: I think so. I’m careful and responsible. / Not really. I’m not careful enough.

A: Do you think you’d be a good nurse?

B: I think so. I’m patient and caring. / Not really. I’m not caring enough.

 

       14.  นักเรียนแบ่งกันเป็นทีม แล้วเล่มเกมทายชื่ออาชีพของบุคคล โดยให้ทีมแรกบอกข้อความที่เป็น

การบอกใบ้อาชีพ แล้วให้อีกทีมหนึ่งทาย ทีมที่ตอบถูกจะได้เข้ารอบต่อไป ทั้งนี้ ให้แข่งกันไปจนกว่าจะได้ทีมที่ชนะเลิศ แต่ละทีมมีสิทธิ์ในการที่จะเข้ามาเล่นเพื่อทายคำตอบเพียงรอบละ 1 ครั้งเท่านั้น ทีมที่ทายผิดก็จะตกรอบ

 

Suggested Answer Key:

waiter :  Are you ready to order, sir?

secretary : You have a meeting with Mr Smith at 1 pm.

security guard :  1 am and everything’s quiet. Over and out.

librarian :  Please return the book in two weeks.

dentist :  Open wide.

journalist :  I’d like to ask you some questions, please.

teacher :  For homework, please do the exercises on page 5.

traffic warden :  You can’t park here, sir.

nurse :  Let’s take your temperature and see how you are.

bank clerk :  How much would you like to pay in?

sales assistant :  Here’s your change.

 

    กิจกรรมรวบยอด

1.            นักเรียนทำกิจกรรม Writing p.19 ด้วยการวาดแผนที่และเขียนคำอธิบายเส้นทางการเดินทางไป

ยังบ้านเพื่อนของตนเอง ที่มีความยาว 30-50 คำ โดยให้ใช้ข้อความที่กล่าวถึง building, streets,

shops, facilities และดูตัวอย่างโครงสร้างงานเขียนตามที่กำหนดให้ ถ้าทำงานในชั่วโมงไม่เสร็จ

ให้นักเรียนทำต่อเป็นการบ้าน

Suggested Answer Key:

                (Students’ own answers)

2.    นักเรียนทำ Ex.3-6, p.13ในหนังสือแบบฝึกหัด เป็นการบ้าน

 

     6.3   ชั่วโมงที่ 5:                                                     Unit 2c

   กิจกรรมนำสู่การเรียน

1.            ครูบอกจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบว่า ในชั่วโมงนี้จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ที่

ใช้ประกอบในการเปรียบเทียบ (Comparison – Comparing languages)

2.            นักเรียนอ่านหัวข้อเรื่องและหัวข้อย่อย Quiz Time ในหนังสือแบบเรียน Ex.1a, p.20 โดย

ครูตรวจเช็คว่านักเรียนมีความเข้าใจในความหมายของคำศัพท์capital, tourist, attractions,

shopping and transport หรือไม่ ด้วยการให้นักเรียนยกตัวอย่างประกอบคำชี้แจง จากนั้นให้

ช่วยกันตอบว่าแบบทดสอบ Quiz Time เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับอะไร

The quiz is about tourist attractions, shopping and transport in London.

 

3.  นักเรียนลงมือทำ Quiz Time ใน Ex.1b, p.20 เสร็จแล้วให้เปรียบเทียบคำตอบกับของเพื่อน จากนั้น           

     ฟัง CD 1 Track 14 เพื่อตรวจสอบคำตอบที่ถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง

Presenter:(fade in) ... is our next contestant in today’s Capital City

quiz. Remember, Frank, ten questions, but only one minute to

answer as many of them as possible. Ready?

Contestant: Ready.

Presenter: OK. Your time starts ... now. Question 1: Which is

London’s most popular tourist attraction – the British Museum,

Buckingham Palace or the Tower of London?

Contestant: Um ... Buckingham Palace?

Presenter:(buzz) The British Museum. Question 2: What’s the tallest

landmark in London – Big Ben, the London Eye or the Houses ...

Contestant: It’s the London Eye.

Presenter:(beep) Correct. Question 3: How many shops are there

in London– more than 50,000, more than 20,000 or more than

30,000?

Contestant: Um ... what was the first one – 50,000?

Presenter:(buzz) Sorry, it’s more than 30,000. Question 4: Which

is the busiest shopping street in London – Regent Street, Oxford

Street or Piccadilly?

Contestant: Regent – no, no, it’s Oxford Street.

Presenter:(beep) Correct. Question 5: Which is the most

expensive shopping district in London – Camden, Knightsbridge

or Chelsea?

 

 

 

Contestant: Oh, uh ... it must be Knightsbridge.

Presenter:(beep) Correct. Question 6: The London Underground

is the fastest in the world, the busiest in the world or the oldest

in the world?

Contestant: I think it’s the oldest.

Presenter:(beep) Correct. Question 7: Where would you find

(long buzz) – ah, time up. Not bad, Frank! That’s four correct

answers, so you’re still in the running for our final round ... (fade)

 

 

1. A                2. B           3. C           4. B               5. B            6. C

 

    กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้

1.            ครูอธิบายหลักการใช้คำคุณศัพท์ที่แสดงถึงการเปรียบเทียบ(Comparative & Superlative Forms) โดยใช้ Grammar Reference ในหนังสือแบบเรียน p.132 ประกอบการอธิบาย จากนั้น ให้นักเรียนวงกลมรอบคำคุณศัพท์ที่บอกการเปรียบเทียบขั้นกว่า(Comparative Degree) และขั้นสูงสุด (Superlative Degree) จากคำที่ปรากฏใน Quiz ทั้งหมด แล้วเติมคำคุณศัพท์นั้น ๆ ลงในช่องตารางของ Ex.2, p.20 ก่อนที่จะตรวจสอบคำตอบกับเพื่อนๆ พร้อมกัน โดยครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้

			the most popular the most expensive more than

the oldest

the busiest

the tallest

the fastest

 

2.            ครูและนักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ตารางเปรียบเทียบ และสรุปกฎการเปลี่ยนคำคุณศัพท์ขั้นธรรมดาให้เป็นขั้นกว่า และขั้นสูงสุด รวมทั้งการใช้ as…as ที่เป็นการเปรียบเทียบคน หรือสิ่งของ 2 สิ่ง ที่มีความเหมือนกัน/เท่าเทียมกันในด้านใดด้านหนึ่ง จากนั้นให้นักเรียนทำEx.3, p.20 โดยลองคิดเปรียบเทียบดูว่า วิธีการเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ของเจ้าของภาษากับของไทยเหมือนกัน หรือแตกต่างกันอย่างไรหรือไม่

3.            ให้นักเรียนเลือกคำคุณศัพท์ที่เป็นขั้นกว่า หรือขั้นสูงสุดจากตารางใน Ex.2 มาประมาณ 3 คำ จากนั้นให้ใช้คำคุณศัพท์ดังกล่าวแต่งประโยคที่อธิบายถึงลักษณะของถิ่นที่อยู่ของตัวเอง

Suggested Answer Key:

The Town Hall is the oldest building in my town.

Churchill Street is busier than Rosewood Road.

Renting a house in the centre of town is less expensive than in the suburbs.

The library is the tallestbuilding in my town.

The south district is the least populated area in my town.

The Carlton is the most expensive hotel in my town.

 

4.    ให้นักเรียนทำ Ex.5a, p.20 โดยจับคู่คำคุณศัพท์ที่มีความหมายตรงข้ามกัน และพูดบรรยายข้อมูล

        ที่กำหนดด้วยคำคุณศัพท์ เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบให้นักเรียนฟัง

 

The numbers in the first row are in sq  km and they measure the size of a country;

the numbers in the second row show the population  (how many people there are

in a country); in the third row the numbers are in metres (m) and show the height

of the mountains listed; in the last row the numbers are in kilometres (km) and show

the length of the rivers listed.

Long – short    →     River

High – low       →      Mountain

Big – small       →      Size / Population

 

 5.   ให้นักเรียนฝึกทักษะการพูด โดยใช้คำคุณศัพท์ที่ระบุใน Ex.5a, p.20 เปรียบเทียบขนาด จำนวน

        ประชากร ความสูงของภูเขา และความยาวของแม่น้ำของประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา

 

 

 

 

 

A:  Is Ben Nevishigher than Carrauntoohill?

B:  Yes, Ben Nevisis higher than Carrauntoohill, but not as high as Mt McKinley.

A:  That’s right – Mt McKinley is the highest of the three.

A:  Is the Shannon river shorter than the Severn?

B:  No! The Shannon river is longer than the Severn, but not as long as the Mississippi.

A:  Yes, the Mississippi is the longest of the three.

 

6.            นักเรียนทำ Ex.5b, p.20 โดยอาจสืบค้นข้อมูลจากencyclopedia หรืออินเทอร์เน็ต เพื่อทำตารางเช่นเดียวกับตัวอย่างในEx.5a แล้วจับคู่ผลัดกันพูดเปรียบเทียบข้อมูลในด้านต่าง ๆ ของประเทศไทยกับของประเทศอังกฤษ และอเมริกา ทั้งนี้ ในระหว่างการฝึกหัด ครูจะเดินสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน สนับสนุนส่งเสริมการเรียนรู้แก่นักเรียนคู่ที่มีปัญหา  และจดบันทึกปัญหาที่พบ เพื่อนำมาใช้ปรับวิธีการจัดการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียนในโอกาสต่อไป  (*อย่างไรก็ตาม ในการจัดทำกิจกรรมนี้ ครูอาจจะต้องพิจารณาดูความเหมาะสมของระยะเวลา ถ้าเวลาในการทำกิจกรรมในชั้นเรียนไม่เพียงพอ ครูควรมอบหมายให้นักเรียนหาข้อมูลและเตรียมงานมาก่อนล่วงหน้า แล้วจึงฝึกทักษะการพูดในชั้น)

7.    ให้นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความในEx.6, p.21 พร้อมกัน จากนั้นให้ขีดเส้นใต้คำกริยาที่อยู่ในรูป

– ing forms และวงกลมคำกริยาที่อยู่ในรูปinfinitive forms แล้วตอบคำถามข้อ 1 –4 และเฉลยคำตอบพร้อมกัน ในที่นี้ ครูอาจใช้กฎไวยากรณ์ใน Grammar Reference (-ing form และ infinitive) p.133 ประกอบการอธิบาย

1.            -ing – (good at) gardening/(get tired of) working

2.            bare infinitive – (could) make

3.            -ing – (liked) working/(loves most is) being

4.            full infinitive – (to) train

 

8.    นักเรียนทำ Ex.7, p.21 ข้อ 1 – 4 ในหนังสือแบบเรียน จากนั้นเฉลยคำตอบพร้อมกัน

3.  A: walking                    B: living 4.  A: travelling                 B: to drive

1.  A:to move                    B: be

2.  A:to come                    B: to get

9.    นักเรียนทำ Ex.8, p.21 ข้อ 1 – 5 ด้วยการเติมข้อความในรูปของ-ing/infinitive forms ที่เกี่ยวข้องกับตัวนักเรียนลงในช่องว่างที่กำหนดให้

                               

                                Suggested Answer Key:

1.            I can’t stand living in the city.

2.            I hate travelling by plane.

3.            I could live in the countryside.

4.            I’m tired of working long hours.

5.            I’ve decided to move to Paris.

 

7.            นักเรียนทำ Ex.9, p.21 ข้อ 1 – 4 ด้วยการเติมข้อความที่มีจำนวนไม่เกิน 3 คำ ลงในประโยคที่สองของแต่ละข้อ โดยไม่ทำให้ความหมายของประโยคแตกต่างจากความหมายของประโยคเดิม

                               

                                Suggested Answer Key:

1.            to travel

2.            many parks

3.            as expensive as

4.            more than

 

8.            นักเรียนเรียนรู้การใช้ phrasal verbs ‘put’ ใน Ex.10, p.21 ด้วยการอ่านออกเสียง verbs & particles: put away, put up with, put on, put somebody up, put off, and put through โดยครูเขียน phrasal verbs ที่นักเรียนอ่านลงบนกระดาน จากนั้น ครูและนักเรียนช่วยกันแปลความหมาย phrasal verbsและคำศัพท์ใหม่ในแบบฝึกหัดข้อที่ 1 - 4 พร้อมยกตัวอย่างประกอบ

9.            นักเรียนทำ Ex.10 โดยหา phrasal verbs ที่มีความหมายเหมือนกับคำศัพท์ที่เป็นตัวหนาทึบในแบบฝึกหัดข้อที่ 1 - 4

 

            1. put out              2. put me through              3. put on               4. put off

 

10.     นักเรียนทำ Ex.11, p.21 โดยเติมคำบุพบทwith, to, from, of และ for ลงในช่องว่างที่กำหนดให้ แล้วเฉลยคำตอบพร้อมกัน จากนั้น ให้นักเรียนใช้ phrasal verbs ดังกล่าวแต่งประโยคแลกเปลี่ยนกับเพื่อนเพื่อช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำส่งครูต่อไป

 

            1. different from               2. crowded with                                                3.famous for    

            4. full of                               5. familiarwith (place)                  6. familiar to (persons)

 

                Suggested Answer Key:

1.            Living in my town is very different from living in the village.

2.            Most of the cafés are usually crowded with people.

3.            My town is famous for its monuments.

4.            The city centre is full of cafés and restaurants.

5.            I’m not familiar with the centre of the city.

6.            This neighbourhood is very familiar to me.

 

    กิจกรรมรวบยอด

1.            นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ ละ 5-6 คน ทำการบ้านในกิจกรรมWriting p.21 โดยจัดทำแบบทดสอบความรู้ Quiz เกี่ยวกับเมืองหลวง กลุ่มละ 10 - 12 ข้อ แล้วเขียนลงในกระดาษ flip chart มาติดที่ผนังห้อง จากนั้นเปิดโอกาสให้นักเรียนต่างกลุ่มมาทดลองทำ Quizที่ไม่ใช่ของกลุ่มตัวเอง กลุ่มใดสามารถทำแบบทดสอบได้มากที่สุด จะได้รับป้ายกระดาษรูปดาวแสดงความเก่งของกลุ่ม (ในที่นี้ นักเรียนสามารถเข้าไปหาข้อมูลประกอบการทำ Quizได้ที่ http://www.triv.net/qmenu.htm)

2.            นักเรียนทำ Ex.1 – 7, pp.14 - 15 ในหนังสือแบบฝึกหัดเป็นการบ้าน

 

     6.4 ชั่วโมงที่ 6:                                                                    Unit 2d

   กิจกรรมนำสู่การเรียน

1.            ครูบอกจุดประสงค์การเรียนรู้ของ Unit 2d ว่าจะเป็นการฝึกทักษะการฟัง และพูดเปรียบเทียบเกี่ยวกับสถานที่ การแสดงความต้องการ(expressing preference)  การสัมภาษณ์สมัครงาน และการเดาความหมายจากบริบทในการฟัง

2.            ให้นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคใน Ex.1a, p.22 ข้อที่ 1-6 และลองเดากับเพื่อนที่นั่งอยู่ใกล้กันว่า ข้อความที่อ่านนั้นข้อใดเป็นจริง (True) หรือเป็นเท็จ (False)โดยครูช่วยอธิบายคำศัพท์ใหม่ให้กับผู้เรียน จากนั้นให้นักเรียนฟัง CDบทสนทนาของคนสองคนซึ่งเป็นเพื่อนกันพูดคุยเกี่ยวกับเมือง Budapest (Listening for confirmation) แล้วทำแบบฝึกหัดใน Ex.1a พร้อมกัน

   กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้

1.            ให้นักเรียนทำ Ex.1b, p.22 โดยฟังบทสนทนาในEx.1a อีกครั้งเพื่อตรวจสอบคำตอบว่าถูกต้องหรือไม่

1. F                2. T                3. T                4. T                5. T                6. F

2.            ให้นักเรียนฟังบทสนทนาใน CD 1 Track 15  แต่ในคราวนี้ในขณะที่ฟังให้นักเรียนจดรายละเอียดของข้อมูลเกี่ยวกับกรุงBudapest ภายใต้หัวข้อต่อไปนี้

• traffic     • shopping     • restaurant     • public transport     • weather 

Judy: Hi! It’s great to see you, Matt!

Matt: Welcome to Budapest, Judy. How was your flight?

Judy: It was fine – no problems at all. Oh, I can’t wait to see Budapest!

Matt: Well, let’s have coffee and a chat first, then I’ll take you to your hotel.

Judy: OK. Tell me about Budapest, though. What’s the best way to get around?

Matt: Well, you can walk short distances, of course. For longer distances,

it’s best to take the Metro or tram, and the tickets are cheap. Don’t bother

renting a car – there can be lots of traffic, especially on the bridges across

the river.

Judy: OK. I’d like to do some shopping, too. Are things expensive here?

Matt: It depends. The nicest shopping centre is called Vaci Utca, but it is

expensive. Generally speaking, souvenirs are expensive, but a lot of the

things are are really beautiful and make perfect presents.

Judy: So is Budapest an expensive place to live?

 

 

 

Matt: Oh, no, the cost of living isn’t that high. Supermarket shopping is cheap,

and if you want to eat out in a restaurant the prices are very reasonable.

You can have a three-course meal for much less money than in most

other European cities. And as I said, public transport is cheap, so don’t

worry about money.                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                       

Judy:Thanks, Matt, that’s really helpful. Ouf, I’m hot! I must take my coat off.

Matt: Yes, you won’t need that ... after all, it’s July, so it’s really warm here –

as much as 30°C, most days. It’s the winter that gets cold. It can be minus

3 or 4 degrees in December.

Judy: Brr! I’m glad I’m here in summer, then.

Matt: Well, we’d better get going. Let’s get a taxi to your hotel. Here, I’ll take

your bag ...

 

นำเอาข้อมูลที่จดโน้ตจากการฟังมาทำEx.2, p.22 ด้วยการเขียนเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหว่างกรุง Budapest กับเมืองหลวงของไทยคือกรุงเทพมหานคร เช่น Traffic in Budapestis as heavy as in my town.

 

traffic:heavy congestion, delays

shopping:expensive shops, expensive souvenirs, beautiful gifts, cheap supermarkets

restaurants:reasonable prices

public transport:metro, tram, taxi, cheap

weather:cold winters, hot summers

(Ss’own answers)

 

3.            นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความที่ใช้ Asking about specific preference and expressing specific preference ในตาราง Ex.3a, p.22 โดยครูอธิบายโครงสร้างของประโยคที่ใช้ถามและตอบเพื่อแสดงความต้องการ(preference) จากนั้น ให้นักเรียนจับคู่ใช้รูปแบบโครงสร้างที่กำหนดให้ หรือใช้ความคิดของตนเองแต่งบทสนทนา ทั้งนี้ ในขณะที่นักเรียนแต่งบทสนทนาอยู่นั้น ครูควรเดินอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ให้กับนักเรียน และจดบันทึกประเด็นปัญหา/ข้อผิดพลาดของนักเรียน เขียนประเด็นดังกล่าวบนกระดาน แล้วชี้แจง/อธิบายให้นักเรียนได้เข้าใจ ในที่นี้ ให้ครูสุ่มนักเรียนบางคู่ออกมาแสดงบทบาทสมมติโดยอาจใช้บทสนทนาที่ตัวเองกับเพื่อนช่วยกันคิดก็ได้

Suggested Answer Key:

A: Do you fancy seeing a film tonight?

B:  Not really. I’d rather go dancing.

A: Do you want to play golf this weekend?

B:  I would rather play football (than play golf this weekend).

A: Do you fancy eating Chinese food tonight?

B: Well, I’d prefer to eat Indian food.

A: Would you like to have dinner with us?

B: No, I’m tired. I’d rather have an early night.

A: Do you want to go to a football match?

B:Actually, I’d rather go to rugby match.

A: Do you fancy eating out?

B: I’d rather get a takeaway.

 

4.            นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความในกรอบGeneral preference แล้วทำ Ex.3, p.22 ด้วยการแต่งประโยคโดยใช้ข้อความในกรอบเป็นแนวทางในการเขียนบอกความต้องการของตนเอง

Suggested Answer Key:

·      I prefer watching films at the cinema to going to the theatre.

·      I prefer (eating) Italian food to (eating) Chinese food.

·      I prefer to walk to work rather than drive.

·      I prefer to go to football matches rather than watch them on TV at home.

 

5.            ครูอธิบายว่า Compound nouns คือคำนามที่มาจากการเชื่อมnoun – noun หรือ adjective - noun เข้าด้วยกัน แล้วให้นักเรียนทำ Ex.4, p.22 ด้วยการจับคู่คำในคอลัมน์ Aและ B เพื่อสร้าง compound nouns จากนั้น ให้นักเรียนฟัง CD เพื่อตรวจสอบคำตอบ และขีดเส้นใต้การลงเสียงหนักในแต่ละคำ

 

 

 

A	B
local traffic community public city	facilities congestion spirit transport centre

 

6.            ให้นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคใน Ex.5, p.23 โดยครูตรวจเช็คความเข้าใจในความหมาย และอธิบายคำศัพท์ใหม่ให้เข้าใจตรงกัน จากนั้น นักเรียนพิจารณาว่าใครคือผู้ที่จะเป็นผู้พูดประโยคดังกล่าวในข้อ 1- 5 (Employer หรือ  a prospective employee) 

 

1. employer                      2. prospective employee                  3. employer

4. employer                      5. employer

 

7.            นักเรียนฟังบทสนทนาการสัมภาษณ์สมัครงานจาก CD Track 17 แล้วใช้ประโยคข้อความ 1 – 5 ใน Ex.5 มาเติมบทสนทนาใน Ex.6a, p.23 ให้สมบูรณ์ จากนั้น ฟังบทสนทนาซ้ำอีกครั้งเพื่อตรวจสอบคำตอบ

A: Good afternoon, Ms Harris. Did you have any trouble finding us?

B: No, not at all.

A: Please have a seat.

B: Thank you.

A: I understand you are applying for the position of Tour Guide.

B: Yes, that’s right.

A: Could you tell me what your qualifications are?

B: Certainly. I’ve got a degree in British History. Oh, and I speak four languages.

A: I see. What work experience have you had?

B: I worked for two years as a tour guide at the Tower of London, and as a clerk in the                       

    Tourist Information Centre at Victoria Station for three years.

a/3               b/1               c/5                d/2               e/4

8.            นักเรียนจับคู่กันทำ Ex.6b, p.23 โดยเดาเนื้อเรื่องต่อว่า Ms Harris จะผ่านการสัมภาษณ์เข้าทำงานหรือไม่ เพราะเหตุผลใด จากนั้น นักเรียนฟังบทสนทนาจาก CD 1 Track 18 เพื่อตรวจสอบคำตอบว่าตนเองและเพื่อนเดาตอนจบของเรื่องถูกต้องหรือไม่

Interviewer: Well, Ms Harris, it sounds like you’re just the

person we’re looking for. Would you like to ask any questions?

Ms Harris: Yes, I’d like to know what my duties will be.

Interviewer: Our tour guides pick up the tour groups from

their hotel and take them on day tours of London. You are

responsible for their comfort and safety and you must be able

to answer their questions about the sights they visit. You’ll

also need to be able to drive the tour bus in case of an

emergency. You do have a current driving licence, don’t you?

Ms Harris: Um… well… unfortunately I don’t. I failed my

driving test.

Interviewer: Oh dear – what a pity! I’m sorry, but we need

someone who can drive. Well, it was nice meeting you, Ms

Harris. Goodbye and good luck.

Ms Harris: So ... you mean I didn’t get the job?

Interviewer: No, I’m afraid not. But please get in touch with us

when you get your driving licence. Your other qualifications

are excellent ...

 

Ms Harris couldn’t get a job. This is because she doesn’t have a driving license which is needed for driving a car in case of emergency.

 

9.    ครูและนักเรียนร่วมกันศึกษา Study Skills เกี่ยวกับแนวทางการแสดงบทบาทสมมติที่เหมือนจริง ซึ่งในส่วนนี้ได้มีข้อแนะนำว่า การแสดงบทบาทสมมติจะต้องอาศัยจินตนาการที่ผู้แสดงต้องแสดงอารมณ์ความรู้สึก ลักษณะท่าทางให้เหมาะสมกับสถานการณ์  และฉากการแสดงที่กำหนดให้  จากนั้นครูให้นักเรียนจับคู่กัน แล้วลองใช้บทสนทนาใน Ex.6c ฝึกทักษะการพูดและแสดงบทบาทสมมติ

10.                 นักเรียนทำแบบฝึกหัด Ex.3 – 5, p.17 ในหนังสือแบบฝึกหัด โดยการอ่าน ตอบคำถาม และต่อเติมบทสนทนาระหว่าง John และ Mike และฟังบทสนทนาระหว่าง Greg and Pam จากนั้นเฉลยคำตอบร่วมกัน

   กิจกรรมรวบยอด

1.            นักเรียนจับคู่กันและใช้ข้อมูลจากโฆษณาใน Ex.7, p.23  แต่งบทสนทนาในลักษณะเดียวกันกับที่ปรากฏในEx.6a จากนั้น ให้แต่ละคู่ผลัดกันออกมาแสดงบทบาทสมมติหน้าชั้นเรียน โดยในขณะที่นักเรียนชมการแสดงบทบาทสมมติของเพื่อน ครูควรแนะนำให้นักเรียนจดโน้ตข้อดี/ข้อด้อยที่สังเกตเห็นและนำมาพัฒนาปรับปรุงตนเองต่อไป

 

Suggested Answer Key:

A:  Good afternoon, Ms Jones. Did you have any trouble finding us?

B:  No, not at all.

A:  Please have a seat.

B:  Thank you.

A:  I understand you are applying for the position of Head Chef.

B:  Yes, that’s right.

A:  Could you tell me what your qualifications are?

B:  Certainly, I’ve got an NVQ Level 3 and I speak fluent French.

A:  I see. What work experience have you had?

B:  I work for 5 years as second chef at Isle Restaurant in Paris.

 

(*NVQ Level 3 – National Vocational Qualification Level 3 เป็นประกาศนียบัตรรับรองการสอบผ่านการอบรมและฝึกประสบการณ์ทางด้านวิชาชีพ เพื่อเป็นการประกันคุณภาพของผู้เรียนก่อนเข้าสู่การประกอบวิชาชีพ ตามระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.qca.org.uk/qca_13406.aspx)  

2.            นักเรียนจับคู่กันทำ Ex.8a, p.23 โดยดูรูปภาพของนักธุรกิจคนหนึ่งที่กำลังขับรถ เสร็จแล้วหาคำที่เหมาะสม 1 คำเติมลงในช่องว่างแต่ละข้อ ทั้งนี้ ครูและนักเรียนช่วยกันทำข้อแรกพร้อมกันเพื่อให้มองเห็นตัวอย่างการทำแบบฝึกหัด

Suggested Answer Key:

1. in               2. of               3. on              4. and            5. in               6. because

 

3.             ให้นักเรียนดูรูปภาพใน Ex.6 แล้วอ่านออกเสียงคำถามในEx.8b, p.23 พร้อมกัน จากนั้น ให้เวลานักเรียนเขียนบทบรรยายภาพโดยใช้เค้าโครงคำถามที่อ่านเป็นแนวในการเขียน ประมาณ 5-10 นาที ครูเดินอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ และเลือกสุ่มนักเรียนบางคนออกมานำเสนองานเพื่อเป็นตัวอย่างแก่เพื่อน เสร็จแล้วให้เก็บงานเขียนของนักเรียนมาตรวจความถูกต้องในด้านการใช้คำศัพท์ ไวยากรณ์ และการนำเสนอที่ตรงประเด็น

Suggested Answer Key:

This picture shows two business people, probably during a job interview. The man must be an employer, and the woman a prospective employee. They are wearing smart business suits. They are in the employer’s office. He is probably asking questions about her qualifications and work experience, because he is pointing to her CV. She must be anxious to get the job because she looks a little of nervous.

 

4.            ครูและนักเรียนจบบทเรียนด้วยการอ่านการ์ตูน (Fun Time) พร้อมกัน ในที่นี้ กระทาชายที่สวมสูทบอกเพื่อนว่า ที่เจ้านายของเขากำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เนื่องมาจากการที่เขาจะลาออกจากงานในเดือนหน้า ไม่ใช่ในเดือนนี้อย่างที่เจ้านายเขาเข้าใจ

5.            นักเรียนทำ Ex.1 - 4, p.16 และ Ex.1- 2, p.17 ในหนังสือแบบฝึกหัด เป็นการบ้าน

 

    6.5  ชั่วโมงที่ 7:                                                                  Unit 2e

    กิจกรรมนำสู่การเรียน

1.            ครูบอกจุดประสงค์การเรียนรู้ใน Unit 2e & Culture Clip ว่านักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนจดหมายสมัครงาน (Writing a letter of application) และการอ่านเพื่อจับใจความสำคัญ(Reading for gist)

2.            ครูให้นักเรียนดูจดหมายสมัครงานใน Ex.3, p.24 แล้วถามนักเรียนว่าเรื่องที่จะเรียนต่อไปนี้ น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร นักเรียนเคยเขียนจดหมายสมัครงานบ้างหรือไม่ ถ้าเคย เขียนจดหมายสมัครเข้าทำงานอะไร

3.            นำเข้าสู่บทเรียนด้วยการทำEx.1, p.24 โดยถามนักเรียนว่า What do you think we should include in a letter of application for a job? ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความรู้พื้นฐานร่วมกันเกี่ยวกับการเขียนจดหมายสมัครงาน โดยครูเขียนคำตอบของนักเรียนลงบนกระดานในรูปของความเรียง เพื่อตรวจสอบกับสิ่งที่จะได้เรียนรู้ต่อไป

Suggested Answer Key:

We should include all factual information about ourselves, such as name/surname, date/place of birth, nationality, marital status, (mobile) phone number, contact

address and email address. We should also mention our qualifications, such as: name

of school/university/college we went to, any foreign languages we know, what

certificates we hold, level of computer skills, and a detailed account of any work experience we have had and what it entailed. Finally, we must give a brief description

of our likes/dislikes and character qualities, saying why we think we would be suitable

for the job/position.

 

    กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้

1.            ครูอ่านคำที่ใช้ขึ้นต้นและลงท้ายจดหมายสมัครงาน 3 รูปแบบในEx.2a, p.24 แล้วถามนักเรียนว่าการใช้คำขึ้นต้นและลงท้ายจดหมายใดในข้อA – C ที่มีความเหมาะสมมากที่สุด

A and C (B is too informal.)

 

2.            นักเรียนทำ Ex.2b โดยดูคำขึ้นต้น และลงท้ายใน A & C และพิจารณาว่าการใช้คำขึ้นต้นและลงท้ายจดหมายทั้งสองแบบนี้แตกต่างกันอย่างไร

 

In A we don’t know the recipient’s name so we end the letter with “Yours faithfully”, whereas in C we know the recipient’s name so we end the letter with “Yours sincerely”.

3.            นักเรียนจับคู่กันทำ Ex.3, p.24 โดยอ่านจดหมาย แล้วจับคู่เนื้อความของจดหมายในแต่ละย่อหน้ากับหัวข้อเรื่องย่อย  A – D ทั้งนี้ ครูควรอธิบายคำศัพท์ใหม่ที่นักเรียนไม่รู้จักก่อนที่จะให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดดังกล่าว

 

1. C                        2. A                        3. D                        4. B 

 

4.            นักเรียนทำ Ex.4a, p.24 โดยใช้เงื่อนไขที่กำหนดให้นักเรียนไปสมัครงานเป็นดีเจหลังจากที่อ่านพบโฆษณาการรับสมัครงานในหนังสือพิมพ์ ทั้งนี้ ให้นักเรียนขีดเส้นใต้คำสำคัญในโฆษณา แล้วเติมคำลงในช่องว่างของ Curriculum Vitae

“DJ wanted, Latin American Club, pleasant personality, experience necessary, knowledge of Spanish preferred, young and energetic person”.

Suggested Answer Key:

                                Name/Surname :  Massimo Bianco

                                Address : 21 Wandsworth Road, London SW1 5PJ

                                Tel.: 0208 5381618

                                Date of birth : 21/02/1984                              Nationality :  Italian

                                Education

                                Qualifications :  level ID certificate in violin playing. Very good command of Spanish and English. Fluent in Italian.

                                Work Experience

                                El Peccado: Two years experience as DJ at popular club in Ibiza, Spain.

                                Musicland : one year as sales assistant at a large music store in Rome.

                                RAI Orchestra, Rome: part-time violin player.

                                Personal Qualities

                                I am a friendly, outgoing, cheerful person and I always enjoy meeting new people.

                                I am very active and I’m keen on taking up new and interesting hobbies.

                                My favourite time activities are white water rafting and abseiling, as well as

                                playing music with my band.

 

5.            นักเรียนจับคู่กันทำ Ex.4b, p.24 ด้วยการพิจารณาว่าประโยคใดเป็นประโยคนำเข้าสู่เนื้อความของจดหมาย (Opening remarks) และประโยคใดเป็นประโยคที่จบเนื้อความ (Closing remarks)

1. Opening remark                                2. Closing remark

3. Closing remark                  4. Opening remark

 

·      ขีดเส้นใต้คำสำคัญ (Key words) ในข้อกังวลที่ปรากฏใน email

·       ระดมความคิดที่จะใช้ในการให้คำแนะนำ

·       จดบันทึกความคิดที่ได้ทั้งหมด แล้วพิจารณาเลือกเอาแนวคิด/ข้อคิดที่คิดว่าสำคัญที่สุดมาใช้ในการเขียนให้คำแนะนำ

จากนั้น ให้นักเรียนอ่าน a part of a letter you got from an English pen friend แล้วขีดเส้นใต้

Key words ที่เป็นข้อกังวล /complain

Suggested Answer Key:

Very lonely, new neighbourhood, no friends, depressed, advice

 

6.            นักเรียนศึกษา the plan (of writing) โดยครูอธิบายให้ทราบถึงโครงสร้างขั้นตอนในการเขียนจดหมาย และให้นักเรียนศึกษาเปรียบเทียบขั้นตอนดังกล่าวกับรูปแบบของจดหมาย Email ใน Ex.3, p.24

7.            นักเรียนจับคู่กันทำแบบฝึกหัด Ex.1 – 5, p.18–19 ในหนังสือแบบฝึกหัด แล้วเฉลยคำตอบร่วมกัน

    กิจกรรมรวบยอด

1.            นักเรียนทำ Ex.5, p.24 โดยอ่านคำถามในPlan จากนั้นเขียนจดหมายสมัครงานเป็นการบ้าน โดยใช้ข้อมูลของตัวเองทั้งหมด

2.            ครูและนักเรียนอ่าน Amazing Facts! ร่วมกัน และได้ทราบข้อเท็จจริงว่าการเดินทางรอบดวงจันทร์ใช้ระยะเวลาเท่ากับการเดินทางไป- กลับนิวยอร์ค – ลอนดอน จากนั้น เปิดโอกาสให้นักเรียนเล่าเรื่องเหลือเชื่อให้กับเพื่อนฟังบ้าง

3.            นักเรียนทำEx.6–7, p.19 ซึ่งเป็นการเขียนเล่าให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเอง และการเขียน email ถึงเพื่อนชาวอังกฤษ ความยาว 80-100คำ  ในหนังสือแบบฝึกหัดเป็นการบ้าน

 

 

 

 

     6.6    ชั่วโมงที่ 8:                                Culture-Clip & Curricular Cuts

    กิจกรรมนำสู่การเรียน

1.            ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่า ในหน่วยการเรียนรู้นี้ นักเรียนจะได้ฝึกทักษะการอ่าน การฟัง และการแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นต่อเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น(สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศสหรัฐอเมริกา/Celebration – Dream Town USA) และ Curricular Cutsที่เป็นพระราชประวัติของ Queen Elizabeth I

2.            นำเข้าสู่บทเรียนด้วยการให้นักเรียนดูภาพและชื่อหัวข้อเรื่องในCulture Clip ใน Ex.1, p.25 และถามนักเรียนว่าน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร: What is Celebration?    Where is it? 

Suggested Answer Key:

Celebration is a town in the USAwhere people would like to live.

 

    กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้

1.            นักเรียนทำ Ex.2, p.25 โดยนักเรียนอ่านออกเสียงlist รายการคำ/วลีที่ปรากฏในหนังสือแบบฝึกหัด ครูช่วยเหลือในการสร้างความเข้าใจความหมายของคำ/วลีที่เป็นคำศัพท์ใหม่สำหรับนักเรียน จากนั้น ให้นักเรียนอ่านออกเสียงเนื้อเรื่อง “Celebration – Dream Town USA”พร้อมกัน และตรวจสอบดูว่าคำที่อ่านแต่ละคำนั้นสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องที่อ่านอย่างไร

There are tree-lined streets around a clear blue lake.

All the houses have small backyards and low fences so that people can talk to their neighbours.

Children can play happily in the parks and playgrounds.

The town’s facilities include a medical centre, fitness centre, bank and post office.

 

2.            นักเรียนทำ Ex.3, p.25 ด้วยการอ่านเนื้อเรื่องซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แล้วเลือกคำตอบที่ถูกต้อง (a multiple choice cloze)  ในที่นี้ ครูควรชี้แจงทบทวนเทคนิคการทำแบบทดสอบที่เป็นCloze Test  ด้วยการอ่านตัวเลือกตอบให้ครบทุกตัวเลือกก่อนที่จะตัดสินใจเลือกคำตอบที่ถูกต้อง และควรจะต้องดูคำ/กลุ่มคำที่วางอยู่ข้างหน้า และวางอยู่ข้างหลังของช่องว่างให้มั่นใจด้วยว่า ตัวเลือกที่ตัดสินใจเลือกมาเป็นคำตอบนั้น ทำให้การเติมความลงในช่องว่างนั้นสมบูรณ์ ในที่นี้ ครูกับนักเรียนทดลองทำแบบฝึกหัดข้อแรกด้วยกัน และแสดงให้เห็นการใช้เทคนิคการทำแบบทดสอบCloze Test  ตามที่ครูได้อธิบายให้นักเรียนทราบแล้ว

               

1. C            2. D            3. A            4. C            5. C            6. C            7. D             8. D

 

3.            นักเรียนอ่านออกเสียงคำถามข้อที่ 1 – 3 ในEx.4, p.25 แล้วฟังเนื้อเรื่องใน CD 1 / Track 19 เพื่อตอบคำถาม Reading for general information

1.            Because it is the perfect town – pretty, peaceful, safe and well-equipped.

2.            The writer wants to publicise the dream town.

3.            The text is definitely an article because there is a title and it is accompanied by pictures. It would probably appear in a lifestyle magazine because the style is informal, and chatty, and there are short forms and exclamation marks.

 

    กิจกรรมรวบยอด

1.            นักเรียนแต่ละคนทำ Ex.4 หัวข้อSpeaking  p.25 โดยลองพิจารณาว่า ในประเทศไทย หรือในสังคมที่นักเรียนอาศัยอยู่มีหมู่บ้าน หรือชุมชนใดที่มีลักษณะเป็น “Ideal Town” ในลักษณะเดียวกันกับเรื่องที่นักเรียนได้อ่านบ้างหรือไม่ อย่างไร จากนั้น ให้เขียนบรรยาย “Ideal Town” ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ

•name                   •location              • what to see and do

จากนั้น ให้นักเรียนจับคู่ผลัดกันเล่าเรื่อง “Ideal Town”ให้กันและกัน ทั้งนี้ ในระหว่างที่นักเรียนทำกิจกรรม ครูเดินสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ และจดบันทึกข้อบกพร่อง/ข้อผิดพลาดต่างๆ ในระหว่างการฝึกหัด แล้วเขียนบนกระดานดำ และอธิบายชี้แจงความถูกต้องให้นักเรียนได้ทราบ/เรียนรู้ร่วมกัน (Ss’ own answers)

ในที่นี้ ถ้านักเรียนอยากทราบข้อมูล Celebration Town เพิ่มเติม สามารถเข้าไปศึกษาได้ที่ www.abfla.com/1tocf/disney/celeb.html

2.            นักเรียนทำ Post-Test / Self-Assessment Module 1ในหนังสือแบบเรียน pp.26 – 27 โดยให้นักเรียนฟังCD ก่อนทำแบบทดสอบในข้อนั้นๆ (ถ้ามี) เสร็จแล้วครูให้แลกเปลี่ยนหนังสือแบบเรียนเพื่อตรวจสอบคำตอบ

 

1.       1. like                                 6. bustle

   2. honest                            7. on

   3. on                                  8. up

   4. calm                               9. than

                                     5. does                             10. the

2.     1. B               2. B               3.C               4. A              5. A

                       6. C               7. C               8. A              9. C            10. B

3.        1.         looks like

2.                        is putting

3.                        the most beautiful

4.                        remember to

5.                        to travel

4.      1. with               2. of               3. with               4. with

                        5.      1.        Take the first turning on your right.

                                    2.        I’d rather order pizza.

                                    3.        Hi, there. How are you?

                                    4.        Bless you!

                                    5.        Thanks you.

 

               

ให้นักเรียนฟังCD 1 Track 20 ก่อนทำ Ex.6, p.27

Self Assessment 1

Barcelona is one of the most exciting cities in Western

Europe. The best times to visit are in spring, early summer or

autumn – the weather’s good and there aren’t so many

tourists. Avoid the middle of summer, though, because it’s

much too hot and all the tourist attractions are crowded. If

 

you can come to Barcelona when the city is having one of its

many festivals, then your visit will be even better.

The easiest way to travel around the city is on the Metro. Buses

and taxis are also quite good. Many of the local people ride around

on mopeds, but visitors would probably find this a bit dangerous.

Barcelona is a mix of the modern and the ancient. It has lots of

big, brand-new shops and huge office buildings, as well as narrow

streets and hidden squares that are hundreds of years old.

Barcelona’s most famous street is La Rambla. No cars are

allowed, and there are lots of street entertainers and stalls

selling everything from flowers to jewellery. You’ll also find a

spectacular food market, called Mercat de la Boqueria, on La

Rambla – as well as a noisy bird market, a famous 19th

century opera house and the Columbus Monument.

At the bottom of La Rambla, near the harbour, is

Maremagnum. This is a big area full of museums, cafés and

shops. Then, in the old town, there is the Gothic Quarter,

where you can visit the cathedral and ancient palace, and the

Picasso museum is just a short walk away.

One place you must visit – even if you don’t have much time

in Barcelona– is La Sagrada Fam›lia cathedral. This is an

amazing building, even though it still isn’t finished. It’s worth

climbing up inside the towers for a great view of the

unfinished building and of the city itself.

Barcelona has so much to offer(fade) that any visit is ...

 

  *6.       1. A        2. C       3. A       4. B       5. C        6. B

7.        1. D        2. B        3. C         4. D         5. A

         6. C           7. A         8. A         9. B      10. C

 

8.

Dear Sam,

                                                     I’m writing to tell you that I’ve moved, as you can see from

the change of address at the top of my letter. 

                                                    My new neighbourhood is near the centre of the city, and

there is such a lot to see and do. There are lots of cafés and

open-air markets, and many of the city’s famous theatres,

museums and art galleries are here.

         I love all the hustle and bustle, and everything is close at

hand. Of course there are some problems, such as the

constant noise of traffic. It never stops – not even at 3 o’clock

in the morning!

        My old neighbourhood was very quiet, but it was also

rather boring. It’s much more exciting here, and I’m really

glad I moved.

        That’s all my news, really. Write soon (to my new address,

of course!) and tell me all your news.

Take care

Juan

 

 

3.    เมื่อทำแบบทดสอบเสร็จแล้ว ให้นักเรียนทำแบบประเมินตนเองตามกรอบ  Now I can…

       

      Curricular Cuts

   กิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียน 

1.            บอกนักเรียนว่า ในส่วนนี้ จะเป็นการเรียนรู้พระราชประวัติของQueen Elizabeth I

2.            นักเรียนทำ Ex.1a, p.28 โดยถามนักเรียนว่ารู้จักสมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 1 (Queen Elizabeth I) หรือไม่ และให้ช่วยกันระดมความคิดว่าคือใคร มีความสำคัญอย่างไร 

Suggested Answer Key:

Elizabeth I was Queen of England about three hundred and fifty  years  ago. Her  father was  Henry VIII  and  her mother was Anne Boleyn. She was queen for a very long time, but she never married or had any children.

   กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้

1.            ให้นักเรียนดูภาพวาดของ Queen Elizabeth I ภาพ A และภาพ Bและช่วยกันบรรยายความแตกต่าง

Suggested Answer Key

In portrait A Elizabeth is wearing an elaborate red and black dress with lots of  jewels and pearls and a big  ruff collar. Her hand  is resting on a globe and she  looks very regal and powerful.  Through the windows behind her  I can see  two scenes. One  is of some ships on a calm sea and the other is of a stormy sea with sailors in the water. In portrait B  Elizabeth  looks very  young.  She may have just  been  crowned queen  because  she  is  wearing the crown  and  carrying the  orb  and sceptre.  She  is also  wearing  lots of  fur  and other  jewels.

 

2.            นักเรียนฟัง CD 1 / Track 21 ใน Ex.2 , p.128 และอ่านข้อความ “Elizabeth’s Portraits” ทีละบรรทัด แล้วให้ใส่ตัวเลขกำกับลำดับของภาพตามเสียงบรรยายที่ได้ฟัง

A  2                                 B  1

 

3.            นักเรียนอ่านเนื้อเรื่องใน textซ้ำอีกครั้งแล้ว list และอธิบายถึงสัญลักษณ์ของรูปภาพทั้ง 2 รูป (Symbols in the portraits)  จากนั้นให้อธิบายความหมายของคำศัพท์ที่เป็นตัวอักษรทึบ โดยอาจใช้ Synonym การอธิบายบอกความหมาย หรือการยกตัวอย่างประกอบ  ทั้งนี้ นักเรียนอาจใช้ Dictionary ประกอบการหาความหมายของคำศัพท์ ถ้าจำเป็น

Suggested Answer Key

Coronation Portrait: pink cheeks and long hair – innocence

rich gown, jewels and fur – wealth

crown, Orb and Sceptre – royal authority/power

Armada Portrait: globe – England’s global power

 

 

 

 

Suggested Answer Key

coronation  (n):  the ceremony when  a  king or  queen  is crowned

gown (n):a long formal dress

wealth (n):having lots of money and land

orb (n):an ornamental ball with a cross on/up carried by the queen at royal ceremonies

sceptre (n):an ornamental staff carried by the queen at royal ceremonies

imprisoned (adj): put into prison

defeat (v):win a victory over an opponent in battle

authority (n):the right to have power over others

rule (v):govern

victory (n): to win/succeed in a battle/competition

globe (n):a model of the earth with a map of the world

global (adj): in all parts of the world

crown (n):  an object made of gold and covered with jewels that a king or queen wears

on their head to show their position

 

4.            นักเรียนจับคู่กันเลือกคำAdjectiveใน Ex.4, p.28  ที่คิดว่าเหมาะสมต่อการบรรยาย  Elizabeth’s paintings ทั้ง 2 รูปภาพได้มากที่สุด จากนั้นให้แต่งบทสนทนา ครูสุ่มนักเรียนบางคู่ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน  แล้วให้นักเรียนคู่อื่นๆ ที่นั่งฟังร่วมแสดงความคิดเห็นว่า คู่ของตนเองเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร

Suggested Answer Key:

S1: I think Elizabeth seems strong in the Armada Portrait because  she  looks very  impressive  in that  elegant dress and with all those beautiful jewels.

S2: I  agree and  the way  she fills  the  painting gives  the impression of strength and power.

S1: Also, her hand  resting on the globe makes her seem ambitious because  it seems as  if  she wishes/ to own the world.

S2: Yes. You’re right.

S3: In the Coronation Portrait, Elizabeth seems young and innocent because her hair is untied and she has a young face and rosy cheeks.

S4: Yes, I agree, but I also think she seems strong and she has a determined look on her face.

S3: Yes, I think you’re right.

    กิจกรรมรวบยอด

นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ทำ Project Work ในการค้นคว้ารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Elizabeth Family Tree ตามที่กำหนดในEx.5, p.28 โดยอาจศึกษาค้นคว้ารวบรวมจาก The Internet,  school textbooks,  encyclopedias, etc. จัดทำเป็น chart/โปสเตอร์ ติดผนังหน้าห้องเรียนเพื่อแสดงผลงาน และช่วยกันตัดสินให้คะแนนว่ากลุ่มใดทำได้ดีที่สุด

Suggested Answer Key:

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แบบการประเมินตนเองของผู้เรียน

(Now I can…)

คำชี้แจง: ใส่เครื่องหมายüลงในช่องตามระดับความสามารถที่นักเรียนคิดว่าตัวเองมี   หลังจากที่ได้เรียนรู้จนจบหน่วยการเรียนรู้ Module 1 (Units 1-2)แล้ว

รายการประเมิน   Now I can…	ระดับความสามารถ
	4	3	2	1
• Introduce myself
• Talk about -     character & appearance
-      habits/ routines/ lifestyles
-      job/ workplaces/ job qualities
• Express my likes/dislikes/preferences
• Ask for/give directions
• Act out a job interview
• Write         -      a short paragraph about my favourite hero(ine) or villain
-          a classified ad
-          an email to a friend
-          an informal letter of advice
-          a short article about myself and where I live
-          a short description of my neighbourhood
-          a letter of application