วธ.ล้อมคอกเขมรขึ้นทะเบียนรำไทย-หนังใหญ่ ชง ครม.ชี้ขาดร่วมภาคีวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้ เผยปี 54 เล็งส่งยูเนสโกตีตรา 30 รายการ พร้อมผลักดันว่าว-กระบี่กระบอง นักวิชาการโวยแก้ไม่ตรงจุด หวั่นซ้ำรอยเสียพระวิหาร แนะแสดงจุดยืนไม่ยอมรับมติฝรั่ง
การแก้ปัญหาเพื่อนบ้านแอบนำศิลปวัฒนธรรมประจำชาติไปขึ้นทะเบียนกับองค์การการศึกษา วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์แห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยนั้น เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ขอย้ำอีกครั้งว่าการขึ้นทะเบียนท่ารำ หนังใหญ่ของกัมพูชาภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก เป็นการขึ้นทะเบียนเพื่อให้ทราบว่ามีวัฒนธรรมเรื่องนี้อยู่ในประเทศนั้นๆ ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย เพราะว่าเป็นวัฒนธรรมร่วม หลายประเทศก็มีวัฒนธรรมคล้ายคลึงกัน มีหลายรายการที่มีการยื่นขึ้นทะเบียนร่วมกัน
ส่วนที่สมาคมกีฬาไทยในพระบรมราชูปถัมภ์จะมาเสนอขึ้นทะเบียนกีฬาไทยอย่าง ว่าว และกระบี่กระบอง นางสุกุมลกล่าวว่า ถือว่ามีความเป็นไปได้สูง โดยจะให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้ระดับชาติ กับกรมส่งเสริมวัฒนธรรมก่อน โดยมี ศ.ดร.อภินันท์ โปษยนนท์ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นผู้ดูแลอยู่ ทั้งนี้ในปี 2554 จะมีการขอขึ้นจดทะเบียนวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้อีก 30 รายการ หนึ่งในนั้นรวมถึงกีฬาว่าวไทยด้วย การขึ้นทะเบียนไม่เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องให้เวลานิดหนึ่ง
"ส่วนเรื่องที่ประเทศไทยจะเสนอตัวเข้าอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโกนั้น ขณะนี้ได้เตรียมร่างหนังสือขอเสนอตัวเข้าร่วมเรียบร้อยแล้ว เตรียมเสนอต่อ ครม.ทราบต่อไป ในอนาคตหากไทยจะมีการขอขึ้นทะเบียนท่ารำกับยูเนสโก ก็สามารถทำได้ ไม่ถือว่ามีการซ้ำซ้อน เป็นการแจ้งให้คนทั่วไปทราบว่ามีวัฒนธรรมนี้อยู่ในประเทศเรา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ละเอียดอ่อน เป็นเรื่องระหว่างประเทศ อยากให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ กระทรวงวัฒนธรรมต้องหารือหลายๆ ฝ่ายก่อน รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศด้วย”