เรื่องสั้น: รักต้องกาลเวลา (แนวคิดของวัยรุ่น)
สมาชิกเลขที่13279 | 28 ก.ค. 54
128K views

เรื่องสั้น:

<!--[if !vml]-->กล่องข้อความ: เรื่องสั้น:"รักต้องการเวลา"

 

เชื่อกันว่าในหมู่ของวัยรุ่นนี้เป็นวัยที่มีความร้อนแรงอยู่พอตัว เป็นบุคคลที่รักง่ายหน่ายเร็ว จะรักก็รักสุดๆจะทิ้งก็ทิ้งไปง่ายๆโดยไม่แยแสต่อคนรักของตนเลย  รักแล้วเลิกราซึ่งเป็นความรักที่ไม่ยั้งยืนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อาจเป็นเพราะว่าอยู่ในวัยทดลองตัวของตัวเอง หรือเรียกง่ายๆก็คืออยากรู้ด้วยตนเองมากกว่าคำแนะนำของคนอื่นๆ อยากจะเจอเหตุการณ์ต่างๆด้วยตัวเอง แต่ก็ยังไม่พร้อมอายุยังน้อยความคิดความอ่านยังเป็นเด็กอยู่ จะอ่อนไหวง่ายจะเชื่อคนง่ายหรือเชื่อเพื่อนมากกว่าบุคคลอื่นๆ แม้จะเป็นบุคคลใกล้ชิดก็ไม่อยากจะเชื่อฟัง เพราะคิดว่าไม่มีคนเข้าใจเราหรอก ตอนนี้มันเป็นคนละยุคคนละสมัยกันแล้วจะเหมือนกันไปทุกอย่างก็คงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งอีกแง่มุมหนึ่งของความรัก มีทั้งการรักพ่อแม่ รักเพื่อน รักคนที่เรารัก และรักตนเองถ้าเกิดว่าเป็นคุณ...? คุณจะเลือกรักใครมากกว่ากัน...? ซึ่งความรักทั้งหมดนี้ก็สำคัญและอยากรักหมดนั้นแหละแต่ต้องเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลังเท่านั้นเอง รักพ่อแม่ก็เป็นการแสดงความกตัญญูต่อท่าน รักเพื่อนก็เพราะเราอยู่ด้วยกันมานานจนเป็นถึงเพื่อนสนิทให้คำปรึกษาที่ดีต่อเราเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายกับเรามานาน การรักคนที่เรารักหรือแฟนที่วัยรุ่นเรียกกันนั้นก็เหมือนเราทุ้มเททั้งกายทั้งใจ เอาหัวใจส่วนหนึ่งไปให้เขาแล้ว และอยากให้เขาคนนั้นรักและดูแลเราเหมือนที่เราดูแลเขาและรักเขา คนรักที่เรารักนั้นก็จะร่วมฝ่าฟันปัญหาไปด้วยกับเรา ให้กำลังใจซึ่งกันและกันยามท้อแท้ ส่วนการรักตัวเองนั้นก็คือ การรู้จักใช้ชีวิตที่ดี ระวังตัวเองอยู่เสมอ อยากดูดีที่สุดตลอดเวลา และการรักษาตนเองไม่ให้พลาดพลั้งในชีวิตนั้นเอง มันจะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับเวลาที่เราเจอกับเนื้อคู่ของเรา แล้วเราก็จะมอบให้เขาในเวลาที่สมควรและเหมาะสม ทุกสิ่งที่กล่าวมานั้นสำคัญมากเลยทีเดียว แต่ก็อยู่ที่ว่าอันไหนที่คุณคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ?ในเรื่องราวของความรักของแต่ละคน ก็ต่างกันไปในวัยหนุ่มสาว คือความรักแบบผู้ชายกับผู้หญิง ,ผู้ชายกับผู้ชาย ,ผู้หญิงกับผู้หญิง มันแล้วแต่ว่าคนเราจะเลือกรักแบบไหน มันอยู่ที่จิตใจของแต่คน ว่ามีความจริงใจต่อกันและกันไหม ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบไหนความรักเหล่านั้นก็ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์อยู่ดี เมื่อรักกันแล้วไม่มีสิ่งไหนจะมาขวางกั้นสายใยความรักความผูกพันที่เหนียวแน่นได้หรอก  ความรักก็เป็นอะไรที่หวานอยู่ตลอด ขึ้นอยู่ว่าคนเราจะทำความรักให้โรเมนติกขนาดไหน ความรักจะทำให้โลกนั้นกลายเป็นสีชมพู เป็นสิ่งที่ยากต่อการอธิบายเป็นคำพูดได้ ต้องให้คนที่อยู่ในห้วงของความรักมาอธิบายให้ฟัง ความรักของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป ไม่มีใครที่มีความรักสตายเดียวกันหรอก หรือถ้ามีทั้งโลกใบนี้ก็คงจะรักคนๆเดียวกันนั่นแหละ ส่วนเรื่องสั้น “รักต้องการเวลา”นี้จะเป็นเรื่องราวของความรักที่ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ต้องใช้เวลา เรื่องราวของผู้ชายหนึ่งคนกับผู้หญิงสามคนที่เป็นเพื่อนรักกัน แต่จะเป็นอย่างอื่นที่มากกว่าคำว่า “เพื่อน” หรือไม่นั้นต้องอ่านเนื้อเรื่อง เพราะเรื่องนี้จะสอดแทรกแง่คิดคติเตือนใจ ความเป็นไปได้ของเรื่องราวความรักนั้นจะเป็นอย่างไร จะเป็นเพื่อนเหมือนเดิมหรือจะเป็นอย่างอื่นที่นอกเหนือจากคำว่า “เพื่อน” หรือมากกว่าเพื่อนนั้นเอง โดยมีตัวละครดังนี้

1. “เอ็ม”เด็กผู้ชายที่อารมณ์ดี มุ่งมั่น แต่จิตใจโลเลในบางเรื่อง…!

2. “ตูน”  เด็กผู้หญิงคนเดียวที่กล้าอยู่กับเอ็ม นิสัยห้าว แต่ชอบในเรื่องราวของความรัก…!

3. “แจน”เด็กผู้หญิงที่เก่ง น่ารักนิสัยดี พูดคำไหนคำนั้น…!

4. “หนิง” เด็กผู้หญิงที่ให้ความหวังแก่คนอื่น สนุกสนาน เฮฮา…!

.....................................................เรื่องราวทั้งหมดนี้มีอยู่ว่า.....................................................

ในช่วงเวลาเปิดเทอมใหม่หลังจากสอบเข้าเรียนชั้นม.๔ ก็มีเอ็มและตูน ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันมานาน ได้สอบติดอยู่ห้องเดียวกัน ทำให้ทั้งสองคนดีใจมาก! ทั้งสองสอบอยู่ห้องแนวหน้าของโรงเรียน และไม่นานเอ็มและตูนก็ได้เจอกับเพื่อนใหม่ คือ แจนกับหนิง และรู้จักกันเป็นอย่างดีจนเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันมาก  อยู่มาวันหนึ่ง ตูน,แจน และหนิงก็วิพากษ์วิจารณ์กันในเรื่องราวความรัก ดูเหมือนว่าทั้งสามเหมือนจะเคยมีความรักมาก่อน ทั้งสามพูดกันอย่างสนุกสนานหัวเราะมีความสุขกันใหญ่ แต่เอ็มก็นั่งเงียบได้แต่ฟังอย่างเดียวเรื่องอื่นๆเอ็มสามารถพูดคุยได้ตลอดยกเว้นเรื่องความรักเพราะเอ็มไม่เคยมีความรักเลย ถึงแม้ว่าเอ็มจะดูหล่อหน้าตาดีเป็นสุภาพบุรุษ มีสาวๆจีบมากมายแต่เอ็มก็ไม่เคยสนใจใครได้เรียนอย่างเดียวไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลย เพื่อนผู้ชายคนอื่นๆคิดว่าเอ็มเป็นเกย์ เพราะอยู่กับตูนซึ่งเป็นทอม เวลาผ่านไปเนินนานขึ้นทำให้เอ็มใจโลเล และสับสนใจในตัวเอง เอ็มพยายามไม่คิดถึงเรื่องนั้น แต่เพื่อนผู้ชายก็ล้อเอ็มอยู่เสมอ  ทำให้เอ็มเก็บกด และทนเก็บไว้ในใจไม่ไหว เพราะเอ็มเก็บมานานพอสมควร เลยตัดสินใจไปปรึกษาตูนเพื่อนรักฟัง ตูนเลยบอกว่า “เธอลองเป็นอย่างอื่นที่เขาว่าดูสิ” ถ้าเกิดมันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้วเธอคงเจอกับสิ่งที่ใช่สำหรับเธอ แต่ยังไงเอ็มก็ไม่เข้าใจในคำพูดของตูนอยู่ดี จนมาถึงวันหนึ่งเอ็มไปหาแจนกับหนิง แต่ว่าด้วยความรีบเร่งของเอ็มก็เลยสดุดที่ขาโต๊ะ โผล่เข้าไปกอดแจนจังๆ เมื่อสัมผัสตัวแจนความรู้สึกของเอ็มเปลี่ยนไป เอ็มทำอะไรไม่ถูกเลย พูดก็ติดๆขัดๆ แล้วเดินออกไปนอกห้องเรียนทันที แล้วก็มีอาการที่คิดกับแจนทันที ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นผู้ชาย  วันต่อมาเอ็มก็เลยตัดสินเข้าไปถามแจนว่า “แจนเราคิดกับแจนเป็นอย่างอื่นที่นอกเหนือจากเพื่อนอะนะ แจนรับรักเราได้ไหม” หลังจากนั้นท่าทางของแจนก็เมินเฉยต่อเอ็มทันที แต่หนิงก็เข้ามาปลอบใจเอ็ม เอ็มก็ทำใจเป็นปกติได้ แต่ในตอนนี้เอ็มรู้แล้วว่าตัวเองเป็นผู้ชายจริงๆไม่ได้เป็นอย่างที่เพื่อนผู้ชายล้อเลย ทำให้เอ็มโลเลแบบว่าแอบรักทั้งแจน และหนิง ก็เลยไปปรึกษาตูนที่สวนหย่อม เอ็มเล่าทุกอย่างให้ตูนฟัง ตูนก็บอกว่า “เอ็มเธอคงรักหนิงไปแล้ว ไม่ใช่แจน” พอเอ็มได้ฟัง เอ็มก็ตัดสินใจทันที ว่าตัวเองคงจะรักหนิงเหมือนที่ตูนบอก ไม่นานหนิงก็เข้ามาหาเอ็มกับตูน เอ็มตัดสินใจเลยพูดว่า “ฉันรักเธอนะหนิง” เป็นแฟนเรานะหนิง! เอ็มก็ตื้อไม่เลิกลาอยู่นานกว่าหนิงจะตอบตกลงเป็นแฟนก็หลายเดือนเมื่อหนิงตอบว่า “ตกลง”ให้เอ็มดีใจมาก เอ็มก็เลยมีคนรักคนแรกคือหนิง บรรดาสาวๆที่จีบเอ็มก็อกหักไปตามๆกัน เอ็มและหนิงไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกัน ถึงแม้จะเป็นคนรักกันก็จริง แต่ก็มีตูนกับแจนไปด้วยทุกที่ และไม่ละทิ้งการเรียนในขณะที่มีความรัก เวลาเนิ้นนานผ่านไปเมื่อเอ็มไปเจอกับหนิงอยู่กับเพื่อนผู้ชาย จึงเกิดการทะเลาะวิวาทกับผู้ชายคนนั้น เพราะเอ็มหึงและโกรธมาก แล้วหนิงก็งอนเอ็มอยู่นาน เอ็มง้อเท่าไหร่ หนิงก็ไม่สนใจ อยู่มาวันหนึ่งหนิงบอกให้เอ็มพิจารณาตัวเอง เพราะคิดว่าความขี้หึงของเอ็มอาจจะทำให้ไปกันไม่รอด หนิงอยากใช้เวลาพิสูจน์ความรักของเอ็มที่มีต่อหนิงอีกครั้งหนึ่ง จนทั้งสองก็แน่ใจแล้วว่าไปกันไม่รอดแน่นอน จึงเลิกเป็นแฟนกัน ในวันนั้นนั่นเอง เอ็มพูดต่อหน้า ตูน, แจน และหนิง ว่า “เราเป็นเพื่อนกันเถอะ เป็นเพื่อนที่รักและสนิทกันเหมือนเดิมดีกว่านะ” หนิงตอบ “ตกลงกับเอ็ม” และดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเขาทั้งสองคน  และทั้งสี่คือ เอ็ม,ตูน,แจน และหนิงก็ได้มาเป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิมตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสืออย่างมุ่งมั่น ทำให้ความผูกพันทั้งสี่คนเหนียวแน่นมากขึ้น ทั้งสี่คนไปไหนก็ไปด้วยกันทุกที่โดยมีเอ็มคอยปกป้องเสมอ อยู่มาวันหนึ่งในขณะที่ทั้งสี่เดินไปตามถนน เอ็มก็พูดขึ้นมาว่า “เมื่อถึงเวลาคงเจอกับคนที่รักเราจริงๆความรักนั้นต้องการเวลาในการพิสูจน์ระหว่างคนสองคน แต่อย่าลืมนะเพื่อนๆตอนนี้เรามีหน้าที่เรียน ต้องตั้งใจเรียนหนังสือ อย่างไรก็ตามเรื่องเรียนก็มาก่อนอยู่ดี การเรียนจะเป็นตัววัดคุณภาพของตัวเราเอง เรื่องความรักนั้นเป็นรอง ความรักต้องการเวลาพิสูจน์ตัวบุคคล ค่อยๆเป็นค่อยๆไป  แต่อย่างไรก็ตามเราทั้งสี่คนจะเป็นรักกันตลอดไป.

 

...ผู้แต่ง....

          กัญญารัตน์ ตาโม่ง

อ้นส่งประกวดเรื่องสั้นเรื่องนี้ไม่ทัน อ้นเลยอยากนำเสนอแนวคิดเรื่องสั้นของอ้นให้ทุกท่านได้รับฟัง

หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่ด้วย (มือใหม่หัดแต่ง) 

Share this