H.A.C.K 9
สมาชิกเลขที่44889 | 25 ก.ค. 54
1.9K views
เขาเป็น Hacker ที่มีฝีมือพอสมควรอาจจะไม่ทัดเทียมกับคุณ แต่ถือว่ามีฝีมืออยู่ไม่น้อยเลยที่เดียว
เพราะเราได้ทดสอบเด็กคนนั้นเหมือนที่เราทดสอบคุณ เขาผ่านทั้งหมด 3 ขั้นตอนแต่ไม่สามารถทำความเสียหายให้กับ
เมนเซอร์เวอร์ของเราได้เหมือนกับคุณ แต่ขณะที่เรากำลังจะส่งเอเยนต์ไปเพื่อนำทางให้กับเขานั้นเอง
เขากลับประสบกับเหตุการณ์ประหลาดเหมือนตามข่าวที่ออกมา
เด็กชายลองนึกทบทวนดู ไม่นานเขาก็นึกออก
“อ๋อผมจำได้ หลายวันก่อนที่มีข่าวว่ามีเด็กชายคนหนึ่งล้มฟุบสลบลงไปหน้าคอมพิวเตอร์ โดยแพทย์วินิฉัยโรคว่าเป็นเพราะเส้นเลือดในสมองแตกใช่ไหม”
“ใช่ครับ คุณพันธรัตน์แต่เด็กชายคนนั้นไม่ใช่รายแรกที่สลบฟุบลงไปหน้าคอมแบบนี้เฉย”
“คุณหมายความว่า ยังมีเด็กอีกหลายคนเหรอที่ล้มฟุบลงไปเฉยๆแบบนี้”
“ใช่ครับ แต่ที่ไม่ออกมาเป็นข่าวก็เพราะว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย ตามการรายงานขององค์กรพบว่ามีเด็กชายและหญิงอีกหลายคนที่สลบลงไปหน้า คอมพิวเตอร์โดยไม่ทราบสาเหตุแบบนี้ในอีกหลายประเทศแถบเอเชีย อเมริกาและยุโรปถ้านับจำนวนรวมแล้วคงจะได้ประมาณ 10-30 คน ซึ่งนับว่าน้อยมากเพราะมาจากหลายๆประเทศรวมกัน ดังนั้นข่าวที่ออกมาจึงเป็นแค่ข่าวภายในประเทศเท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสังเกตก็คือเด็กทั้งหมดจะมีอายุไม่เกิน 20 ปี และที่สำคัญพวกเขาทั้งหมดเป็น Hacker ที่พอจะมีฝีมือ”
“เพราะฉะนั้น คุณพันธรัตน์ที่หลายๆวันมานี้เราเฝ้าจับตาดูคุณเพราะเราห่วงความปลอดภัย
โทรศัพท์ที่เราโทรเข้ามาแล้วไม่พูดนั้นเป็นการสแกนชุมสายโทรศัพท์แถวบ้านของ คุณเพื่อตรวจสอบดูว่ามีคนดักฟังรึเปล่า เพราะว่าคุณอาจจะเป็นรายต่อไปที่ต้องเจอกับเรื่องประหลาดเหมือนกับที่เคย เกิดขึ้นกับ Hacker หลายๆคน พูดง่ายๆองค์กรเราต้องการให้คุณเข้าร่วมก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง เพราะอัจฉริยะบุคลนั้นเป็นเสมือนขุมพลังอันยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ”
ตอนนี้เด็กชายนิ่งเงียบ สมองของเขากำลังคิดอะไรต่อมิอะไรมากมายวนเวียนไปมาและแล้วก็ดูเหมือนเขาจะคิดได้ เด็กชายเริ่มถามอีกครั้ง
“คุณแมวดำ เอ๊ย!! ไม่ใช่สิ คุณเอเยนต์หมายเลข 9”
“เรียกผมหมายเลข 9 เฉยๆก็ได้ครับ”
“คุณหมายเลข 9 ผมมีอะไรที่อยากจะถามคุณอีกสัก 2-3 ข้อก่อนที่จะตัดสินใจ”
“ได้ครับ”
“ผมอยากรู้ว่าคุณรู้จักผมได้ยังไง? ในเมื่อผมพยายามปกปิดตัวเองอย่างที่สุด”
“เรื่องนั้นไม่ยากหรอกคุณพันธรัตน์ เรารู้จักคุณได้ก็จากเว็บบอรด์ของคุณเองคงมีไม่กี่เว็บหรอกที่จะยอมอาสาให้ ความช่วยเหลือแปลกๆพึลึกๆแบบนั้นดังนั้นเราจึงไปโพสกระทู้สำหรับทดสอบไว้ยัง ไงล่ะ”
“แต่ผมก็พรางตัวเองด้วย พร็อกซี่แล้วนี่”
“หึหึ แค่นั้นปิดบังคอมพิวเตอร์ขององค์กรไม่ได้หรอกครับคุณพันธรัตน์”
เด็กชายยักไหล่แบบช่วยไม่ได้ แล้วเขาก็ถามต่อ
“ข้อสุดท้ายนะ ผมอยากรู้ว่าองค์กรคุณขึ้นกับใครและมีสาขาอยู่ที่ไหนบ้าง”
“เป็นคำถามที่ดีมากครับ H.A.C.K นั้นเป็นองค์กรอิสระไม่ขึ้นต่อใครทั้งนั้น เหมือน
กับองค์การสหประชาชาติ H.A.C.K มีสาขาอยู่ในหลายๆประเทศทั่วเอเชีย อเมริกาและยุโรป
ส่วนใหญ่จะปิดบังตัวตนจากโลกภายนอกและรัฐบาลของประเทศที่เข้าไปตั้งสาขา
ลักษณะขององค์กรจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศที่แปลกที่สุดเท่าที่ได้ยินมา คงเป็นฐานบัญชาการเคลื่อนที่ในรูปแบบของรถขายไอศครีม และเจ้าหน้าที่ขององค์กรส่วนใหญ่จะพูดสื่อสารกับคนนอกองค์กรที่ยังไม่ตัดสิน ใจเข้าร่วมองค์กรผ่านสัตว์ แต่การพูดผ่านสัตว์
เกิดความลำบากขึ้นเล็กน้อยในประเทศจีน เพราะว่าสัตว์ที่เจ้าหน้าที่องค์กรใช้สื่อสารกับคนในประเทศจีนนั้นมักจะถูกจับไปกิน ^ ^
เพราะว่าชาวจีนนิยมกินเนื้อ แมวและสุนัขมาก ยิ่งเป็นสุนัขแล้วยิ่งอันตราย
เพราะฉะนั้นเราจึงเปลี่ยนสื่อกลางจากสัตว์มาเป็นต้นไม้แทนครับ
ตอนนี้เด็กชายนิ่งเงียบ เขากำลังชั่งใจอยู่ สรุปง่ายๆว่าไอ้องค์กรพึลึกนี่กำลังอยากจะป้องกันเขาจากอันตรายอะไรบางอย่างที่อาจจะ
คุกคามเข้ามา
“เอาแบบนี้ดีกว่าคุณหมายเลข 9 วันนี้ผมคงให้คำตอบอะไรคุณไม่ได้มากนักแต่พรุ่งนี้
ผมจะบอกคุณพรุ่งนี้ว่า ตกลงหรือไม่ตกลง” เด็กชายบอก
เสียงจากแมวดำเงียบหายไปสักครู่หนึ่ง แมวเหมียวโซฟียังคง ใช้ตาสีเหลืองอำพันของมันจ้องเป๋งมาที่เด็กชายเหมือนเคย
“ok คุณพันธรัตน์ พรุ่งนี้ผมจะมารับคำตอบ หวังว่ามันคงเป็นข่าวดีนะ”
พอพูดจบเจ้าแมวดำก็หันหลังกระโดดแผล็วหายออกไปจากห้องของพันธรัตน์ทางหน้าต่าง
เด็กชายเดินไปที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอนในใจของเด็กชายกำลังคิดว่า
“เอาไงดี”
เพราะเราได้ทดสอบเด็กคนนั้นเหมือนที่เราทดสอบคุณ เขาผ่านทั้งหมด 3 ขั้นตอนแต่ไม่สามารถทำความเสียหายให้กับ
เมนเซอร์เวอร์ของเราได้เหมือนกับคุณ แต่ขณะที่เรากำลังจะส่งเอเยนต์ไปเพื่อนำทางให้กับเขานั้นเอง
เขากลับประสบกับเหตุการณ์ประหลาดเหมือนตามข่าวที่ออกมา
เด็กชายลองนึกทบทวนดู ไม่นานเขาก็นึกออก
“อ๋อผมจำได้ หลายวันก่อนที่มีข่าวว่ามีเด็กชายคนหนึ่งล้มฟุบสลบลงไปหน้าคอมพิวเตอร์ โดยแพทย์วินิฉัยโรคว่าเป็นเพราะเส้นเลือดในสมองแตกใช่ไหม”
“ใช่ครับ คุณพันธรัตน์แต่เด็กชายคนนั้นไม่ใช่รายแรกที่สลบฟุบลงไปหน้าคอมแบบนี้เฉย”
“คุณหมายความว่า ยังมีเด็กอีกหลายคนเหรอที่ล้มฟุบลงไปเฉยๆแบบนี้”
“ใช่ครับ แต่ที่ไม่ออกมาเป็นข่าวก็เพราะว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย ตามการรายงานขององค์กรพบว่ามีเด็กชายและหญิงอีกหลายคนที่สลบลงไปหน้า คอมพิวเตอร์โดยไม่ทราบสาเหตุแบบนี้ในอีกหลายประเทศแถบเอเชีย อเมริกาและยุโรปถ้านับจำนวนรวมแล้วคงจะได้ประมาณ 10-30 คน ซึ่งนับว่าน้อยมากเพราะมาจากหลายๆประเทศรวมกัน ดังนั้นข่าวที่ออกมาจึงเป็นแค่ข่าวภายในประเทศเท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสังเกตก็คือเด็กทั้งหมดจะมีอายุไม่เกิน 20 ปี และที่สำคัญพวกเขาทั้งหมดเป็น Hacker ที่พอจะมีฝีมือ”
“เพราะฉะนั้น คุณพันธรัตน์ที่หลายๆวันมานี้เราเฝ้าจับตาดูคุณเพราะเราห่วงความปลอดภัย
โทรศัพท์ที่เราโทรเข้ามาแล้วไม่พูดนั้นเป็นการสแกนชุมสายโทรศัพท์แถวบ้านของ คุณเพื่อตรวจสอบดูว่ามีคนดักฟังรึเปล่า เพราะว่าคุณอาจจะเป็นรายต่อไปที่ต้องเจอกับเรื่องประหลาดเหมือนกับที่เคย เกิดขึ้นกับ Hacker หลายๆคน พูดง่ายๆองค์กรเราต้องการให้คุณเข้าร่วมก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง เพราะอัจฉริยะบุคลนั้นเป็นเสมือนขุมพลังอันยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ”
ตอนนี้เด็กชายนิ่งเงียบ สมองของเขากำลังคิดอะไรต่อมิอะไรมากมายวนเวียนไปมาและแล้วก็ดูเหมือนเขาจะคิดได้ เด็กชายเริ่มถามอีกครั้ง
“คุณแมวดำ เอ๊ย!! ไม่ใช่สิ คุณเอเยนต์หมายเลข 9”
“เรียกผมหมายเลข 9 เฉยๆก็ได้ครับ”
“คุณหมายเลข 9 ผมมีอะไรที่อยากจะถามคุณอีกสัก 2-3 ข้อก่อนที่จะตัดสินใจ”
“ได้ครับ”
“ผมอยากรู้ว่าคุณรู้จักผมได้ยังไง? ในเมื่อผมพยายามปกปิดตัวเองอย่างที่สุด”
“เรื่องนั้นไม่ยากหรอกคุณพันธรัตน์ เรารู้จักคุณได้ก็จากเว็บบอรด์ของคุณเองคงมีไม่กี่เว็บหรอกที่จะยอมอาสาให้ ความช่วยเหลือแปลกๆพึลึกๆแบบนั้นดังนั้นเราจึงไปโพสกระทู้สำหรับทดสอบไว้ยัง ไงล่ะ”
“แต่ผมก็พรางตัวเองด้วย พร็อกซี่แล้วนี่”
“หึหึ แค่นั้นปิดบังคอมพิวเตอร์ขององค์กรไม่ได้หรอกครับคุณพันธรัตน์”
เด็กชายยักไหล่แบบช่วยไม่ได้ แล้วเขาก็ถามต่อ
“ข้อสุดท้ายนะ ผมอยากรู้ว่าองค์กรคุณขึ้นกับใครและมีสาขาอยู่ที่ไหนบ้าง”
“เป็นคำถามที่ดีมากครับ H.A.C.K นั้นเป็นองค์กรอิสระไม่ขึ้นต่อใครทั้งนั้น เหมือน
กับองค์การสหประชาชาติ H.A.C.K มีสาขาอยู่ในหลายๆประเทศทั่วเอเชีย อเมริกาและยุโรป
ส่วนใหญ่จะปิดบังตัวตนจากโลกภายนอกและรัฐบาลของประเทศที่เข้าไปตั้งสาขา
ลักษณะขององค์กรจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศที่แปลกที่สุดเท่าที่ได้ยินมา คงเป็นฐานบัญชาการเคลื่อนที่ในรูปแบบของรถขายไอศครีม และเจ้าหน้าที่ขององค์กรส่วนใหญ่จะพูดสื่อสารกับคนนอกองค์กรที่ยังไม่ตัดสิน ใจเข้าร่วมองค์กรผ่านสัตว์ แต่การพูดผ่านสัตว์
เกิดความลำบากขึ้นเล็กน้อยในประเทศจีน เพราะว่าสัตว์ที่เจ้าหน้าที่องค์กรใช้สื่อสารกับคนในประเทศจีนนั้นมักจะถูกจับไปกิน ^ ^
เพราะว่าชาวจีนนิยมกินเนื้อ แมวและสุนัขมาก ยิ่งเป็นสุนัขแล้วยิ่งอันตราย
เพราะฉะนั้นเราจึงเปลี่ยนสื่อกลางจากสัตว์มาเป็นต้นไม้แทนครับ
ตอนนี้เด็กชายนิ่งเงียบ เขากำลังชั่งใจอยู่ สรุปง่ายๆว่าไอ้องค์กรพึลึกนี่กำลังอยากจะป้องกันเขาจากอันตรายอะไรบางอย่างที่อาจจะ
คุกคามเข้ามา
“เอาแบบนี้ดีกว่าคุณหมายเลข 9 วันนี้ผมคงให้คำตอบอะไรคุณไม่ได้มากนักแต่พรุ่งนี้
ผมจะบอกคุณพรุ่งนี้ว่า ตกลงหรือไม่ตกลง” เด็กชายบอก
เสียงจากแมวดำเงียบหายไปสักครู่หนึ่ง แมวเหมียวโซฟียังคง ใช้ตาสีเหลืองอำพันของมันจ้องเป๋งมาที่เด็กชายเหมือนเคย
“ok คุณพันธรัตน์ พรุ่งนี้ผมจะมารับคำตอบ หวังว่ามันคงเป็นข่าวดีนะ”
พอพูดจบเจ้าแมวดำก็หันหลังกระโดดแผล็วหายออกไปจากห้องของพันธรัตน์ทางหน้าต่าง
เด็กชายเดินไปที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอนในใจของเด็กชายกำลังคิดว่า
“เอาไงดี”