

ข้างฝ่ายเต่านั้น ก็ค่อยๆ คลานตามภาษาของมันไปเรื่อย ๆ และถึงแม้ว่าขาจะสั้นคลานได้เชื่องช้า มันก็ไม่ปริปากบ่นว่า อะไรออกมาเลยสักคำ มันได้แต่ก้มหน้าก้มตาคลานของมันต่อไป เรื่อย ๆ และอย่างอดทน "พยายามเข้าน่ะท่านเต่า" บรรดาสัตว์ ต่างๆ บางกลุ่มที่มารวมกันเพื่อมาดูเป็นสักขีพยานกับการแข่งขันครั้งนี้ทั้งหลายนั้น ต่างก็ส่งเสียงให้กำลังใจกับเจ้าเต่ากันเป็นการ ใหญ่ แต่ก็มีสัตว์บางพวกทีเห็นความเชื่องช้าของเจ้าเต่า แล้วต้องเอามือกุมท้องหัวเราะเสียงดัง แล้วพูดทั้งหัวเราะว่า " ท่าน เต่า ๆ แต่เราว่านะ ท่านนี่ช่างเป็นผู้ที่เดินได้ช้าที่สุดในโลก ! เลยนะจะบอกให้ ฮ่า ๆๆๆๆ " ข้างฝ่ายกระต่ายเมื่อรอแล้วรออีก รอเท่าไหร่ ๆ ก็ไม่เห็นว่าจะมีทีท่าที่เจ้าเต่าจะโผล่หัวออกมาให้เห็นสักที...มันจึงให้เป็นเบื่อหนาระอาใจเป็นอย่างมาก... และเมื่อมันเดินมาจนถึงใต้ขอนไม้ขอนหนึ่ง มันจึงเข้าไปนั่งพักใต้ขอนไม้ที่เห็นนั้น ซึ่งมันหมายจะเอาเป็นที่ดักรอการมา ของเจ้าเต่านั่นเอง "นอนซักงีบหนึ่งดีกว่า.. ถึงยังไงเจ้าเต่ามันก็ไม่มีทางตามเราทันหรอก" มันพึมพำพร้อมเอนหลังพิงขอนไม้ แล้วหลับไป
![]() ![]() |
ตะวันบ่ายคล้อยมากแล้ว กระต่ายจึงได้ตื่นขึ้นมา มันเดินมาจนพบหมีใหญ่ตัวหนึ่ง "ไง! เจ้ากระต่าย วันนี้เจ้าต้องวิ่งแข่ง กับเต่าไม่ใช่เรอะ" หมีร้องถาม "ใช่! แต่เจ้าเต่าไม่มีทางตามข้าทันหรอก" กระต่ายตอบ "เนี่ย! ยังไม่เห็นเงาเจ้าเต่าเลย" มันคุยโวต่อ "เฮ้! ตะกี้ข้าผ่านมา สวนทางกับเต่าข้างหน้านู่น เจ้ามัวไปทำอไรอยู่" หมีร้องบอก คำพูดของหมีทำให้กระต่าย ต้องถึงกับสะดุ้งโหยงเลยทีเดียว และพร้อมกันนั้นมันก็รีบตาลีตาเหลือกวิ่งออกไปข้างหน้าทันที.... แต่ช้าไปเสียแล้ว เพราะเมื่อกระต่ายมองไปที่เส้นชัยมันก็แทบจะเข่าอ่อน เพราะที่นั่นปรากฏว่ามีร่างของเต่ายืนยิ้มเผล่อยู่ " ไง! เพิ่งมาถึงเรอะ ข้ารอเจ้าอยู่ตั้งนานสองนานแน่ะ ! " เต่าร้องบอกกระต่าย บรรดาสัตว์ต่างๆ ก็เข้ามาแสดงความยินดี กับเต่า คงปล่อยให้เจ้ากระต่ายมองด้วยดวงตาละห้อยเหมือนจะร้องไห้ "ไม่น่าเลยเรา" กระต่ายพึมพำในใจเบาๆ ด้วยความ อับอาย มันจึงมุ่งหน้าหลบหนีออกจากป่าแห่งนั้น แล้วก็ไม่ยอมหวนกลับมาอีกเลย... นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า " อย่าประมาทหรือดูถูกผู้ที่ต่ำต้อยหรือด้อยกว่าเรา " |