Winnie The Pooh

เจ้าหมีพุงกลม รักการผจญภัยในป่ากับผองเพื่อน ใส่เสื้อสีแดงรัดติ้ว หลงใหลในรสชาติของน้ำผึ้ง คงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก "วินนี่ เดอะ พูห์"

หมีพูห์แจ้งเกิดจากวรรณกรรมยอดฮิตของอังกฤษ โดย อลัน อเล็กซานเดอร์ มิลน์ หรือ เอ.เอ.มิลน์ นักประพันธ์ผู้สร้างตำนานหมีพูห์

แม้จะดูเหมือนตุ๊กตาหมีที่มีอายุอานามไม่น่าจะเกิน 5-6 ขวบ แต่ "พูห์" ถือกำเนิดขึ้นในเดือนมิ.ย.2464  มาถึงปี 2554 ตอนนี้หมีพูห์จึงครบ 90 ปี กลายเป็นคุณปู่พูห์ไปแล้ว

1.คริสโตเฟอร์ โรบิน ไม่ต้องการพูห์เสียแล้ว
2.ทิคเกอร์และพิกเล็ต ผู้เขียนเพิ่มเติมภายหลัง 
3.หนังสือเล่มสุดท้าย ตอน เดอะ เฮาส์ ออฟ พูห์ คอร์เนอร์
4.คริสโตเฟอร์ โรบิน กับตุ๊กตาหมีพูห์เพื่อนยาก

จุดเริ่มต้นของผลงานการ์ตูนอมตะชิ้นนี้ เป็นเรื่องบังเอิญ เมื่อ ดาฟเน่ ภรรยาของเอ.เอ.มิลน์ ซื้อหมีเท็ดดี้จากห้างแฮร์รอดส์ เพื่อนำกลับไปมอบเป็นของขวัญให้แก่ คริสโตเฟอร์ โรบิน ลูกชาย

1.ตุ๊กตาต้นแบบซึ่งโรงงานเฟอร์เนลผลิตขึ้น
2.พูห์และผองเพื่อนในป่า 100 เอเคอร์ 

ตอนแรกก็เรียกมันว่า "มิสเตอร์ เอ๊ดเวิร์ด" แต่ชื่อ "วินนี่" ที่นำมาแทนนั้น เป็นชื่อของหมีในสวนสัตว์กรุงลอนดอน ที่ตั้งตามอย่างชื่อเมือง "วินนี่เพก" บ้านเกิดของทหารแคนาดาเจ้าของ "วินนี่"

ส่วนคำว่า "พูห์" นั้น คาดว่าเพราะเจ้าหมีวินนี่มันเหม็นซะเหลือเกิน จึงถูกต่อท้ายด้วยคำๆ นี้ เป็นที่มาของชื่อ "วินนี่ เดอะ พูห์"

ต่อมาในปี 2468 เมื่อครอบครัวมิลน์มีโอกาสไปพักผ่อน ที่ฟาร์มคอต์ชฟอร์ด ในป่าแอชดาวน์ เขตอีสต์ ซัสเส็กซ์ เอ.เอ.มิลน์ เริ่มสังเกตเห็นเกมการละเล่นระหว่างลูกชายและเจ้าตุ๊กตาหมีตัวโปรด เขาจึงลงน้ำหมึกถ่ายทอดจินตนาการสู่รูปเล่ม ประกอบเป็นเรื่องราวผ่าน "สถานที่พิศวง" "หลุมกับดักเฮฟฟาลัมป์" "ขั้วโลกเหนือ" "ต้นไม้ลุงฮูก" "สะพานข้ามพูห์สติก" และยังอัดแน่นไปด้วยความลับแห่งป่า 100 เอเคอร์ของ "หมีพูห์" และเพื่อนๆ 

หนังสือเล่มแรกเขียนขึ้นเป็นโคลงกลอน ภายใต้ชื่อเรื่อง "เท็ดดี้แบร์" วางจำหน่ายในปี 2467 ซึ่งภายหลัง เอ.เอ.มิลน์ได้นำมารวมเล่มกับบทกวีอื่นๆ เป็นหนังสือขายดีเรื่อง "เวน วี เวอร์ เวรี่ ยัง"

ส่วน "วินนี่ เดอะ พูห์" ฉบับแรกวางขายในปี 2469 และ "พูห์" ก็ได้กลายเป็นขวัญใจของเด็กๆ ทั่วโลกในทันที

9 ขวบปีแรกในชีวิตโรบินนั้น เขามี "พูห์" เป็นเพื่อนยากที่คอยหาเรื่องเล่นซนกันอยู่เสมอ หลังจากนั้นไม่นานจึงมีแก๊งเพื่อนๆ อย่าง พิกเล็ต อียอร์ แคงก้า รู ทิคเกอร์ และ แร็บบิต เข้าร่วม ก๊วนผจญภัย โดยได้เค้าตัวละครมาจากของขวัญที่โรบินได้รับนั่นเอง

แต่เพราะ คริสโตเฟอร์ โรบิน เติบโตเป็นหนุ่มน้อยขึ้นทุกวัน ในที่สุดทั้งเขาและ "พูห์" ก็ห่างเหินจนแยกจากกันตลอดกาล ตามที่มิลน์ได้เขียนไว้เป็นเล่มสุดท้ายในชื่อ "เดอะ เฮาส์ ออฟ พูห์ คอร์เนอร์" ซึ่งกล่าวถึงตอนที่โรบินเตรียมตัวเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ขณะที่ภาพประกอบโดยฝีมือ อี.เอ็ช. เชพเพิร์ด แสดงภาพของเด็กชายกำลังเตะตุ๊กตาหมีจนลอยละลิ่ว

แต่ วินนี่ เดอะ พูห์ ยังคงโด่งดัง และมีชื่อเสียงข้ามทวีปไปไกลถึงสหรัฐอเมริกา ในปี 2490 ซึ่งต่อมาในปี 2504 ดาฟเน่ตัดสินใจขายลิขสิทธิ์ให้แก่ บริษัทวอลต์ดิสนีย์ 

จากจุดนี้เองที่ "พูห์" กลายเป็นดาราซูเปอร์สตาร์ระดับโลก หนังสือ "วินนี่ เดอะ พูห์" นำไปตีพิมพ์มากกว่า 46 ภาษา

ปัจจุบัน "พูห์" มีชื่อจารึกอยู่บนทางเดินใน "ฮอลลีวู้ด เพฟเมนต์ ออฟ เดอะ สตาร์"

แถมยังถูกจัดแสดงในตู้กระจก ของหอสมุดสาธารณะนิวยอร์ก ที่ซึ่งผู้คนกว่า 7.5 แสนคน แวะเวียนมาทักทายเขาในทุกๆ ปี

เรียบเรียงภาพโดย yenta4
ข้อมูลจาก สดจากเยาวชน นสพ.ข่าวสด