Blogpost โดย Supang Chatuchinda (แปลและเรียบเรียง)
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากให้การทำงานของคุณช่วยรักษ์โลกด้วยล่ะก็ เรามี 9 วิธีง่าย ๆ ที่แม้ว่าจะนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ แต่ก็สามารถช่วยลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองได้ ทั้งนี้เรากับเพื่อนร่วมงานในบริษัทยังมีส่วนช่วยไม่ให้ภาวะโลกร้อนเลวร้ายลงได้อย่างน่าอัศจรรย์
ไอเดียนี้ถูกคิดค้นขึ้นโดย ซาราห์ นีล เธอเป็นอาสาสมัครจากกรีนพีซออสเตรเลียมาหลายปี เธอมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์งานรณรงค์ และตรวจเช็คการใช้ภาษาในบทความของกรีนพีซ เธอยังกระตือรือร้นในการใช้ไลฟ์สไตล์ที่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และเธอก็ได้แชร์ทิปดี ๆ เหล่านี้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น ๆ ที่อยากเปลี่ยนให้ออฟฟิศเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
1. พยายามลดการใช้พลังงาน
เลือกใช้แบตเตอรีที่สามารถชาร์จใหม่ได้ หลีกเลี่ยงการใช้พลังงาน ยกตัวอย่างเช่น ใช้บันไดแทนลิฟต์ หรือปิดคอมพิวเตอร์ทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน เป็นต้น
2. รีไซเคิลทุกอย่างที่ทำได้
ก่อนอื่น เราจะต้องรู้ก่อนว่า ขยะในออฟฟิศ สามารถรีไซเคิลได้ เพียงค้นหาบริษัทรับรีไซเคิล หรือแม้แต่บริษัทรายย่อยที่รับกระป๋อง ขวดพลาสติกหรือกระดาษ และสอบถามเกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับการรีไซเคิล เพราะพวกเขาอาจมีข้อกำหนดเช่น แยกถ้วยกาแฟออกจากฝาครอบ หรือ บางครั้งพวกเขาอาจไม่รับกล่องน้ำผลไม้ที่มีฟอยล์หุ้มอยู่ภายใน ตรวจของที่จะทิ้งทุกครั้งก่อนทิ้งขยะ เพื่อให้แน่ใจว่าขยะที่เราทิ้งนั้นไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้แล้ว นอกจากนี้ ควรมีกล่องสำหรับใส่อุปกรณ์สำนักงานที่สามารถรีไซเคิลได้ เช่น แบตเตอรี และ ตลับหมึกพิมพ์
3. ลดการใช้ภาชนะใช้แล้วทิ้ง เปลี่ยนมาใช้ภาชนะใช้ซ้ำได้
รู้หรือไม่ว่าในปี พ.ศ.2553 มีขยะพลาสติกไหลลงสู่มหาสมุทรมากถึง 8 ล้านตัน ดังนั้นเวลาที่เราซื้อกาแฟสักแก้วหรือซื้ออาหารกลางวันนั้น ลองเปลี่ยนตัวเองด้วยการพกกล่องใส่อาหาร และกระติกน้ำ แทนการเพิ่มขยะพลาสติกใช้แล้วทิ้ง เช่นเดียวกับเวลาที่เราไปซูเปอร์มาเก็ตหรือตลาดสด เพียงแค่พกถุงผ้าและปฏิเสธถุงหิ้วพลาสติกเท่านั้นเอง นอกจากนี้เราจะได้นำถุงต่าง ๆ ในออฟฟิศออกมาใช้ซ้ำอีกหากเราลืมพกถุงผ้าติดตัวมา
พยายามพกภาชนะภาชนะก่อนออกจากบ้าน เพียงแค่มองหากล่องใส่อาหารในครัว เราเชื่อว่าคุณต้องมีสัก 2-3 กล่องเป็นอย่างต่ำ หลีกเลี่ยงช้อนส้อมพลาสติก แต่ใช้ช้อนส้อมที่ออฟฟิศแทน และถ้าคุณอยากกินกาแฟสักแก้วล่ะก็อย่าลืมพกแก้วไปด้วย
4. ตระหนักถึงกระดาษที่เราใช้
เราควรพิมพ์เอกสารเท่าที่จำเป็น หันไปใช้กระดาษจากการรีไซเคิลให้มากขึ้น หรือลดการใช้กระดาษด้วยวิธีการพิมพ์งานสองหน้า และหลีกเลี่ยงการพิมพ์ด้วยกระดาษมัน หรือการพิมพ์หมึกสี ทั้งนี้เราควรตรวจสอบเนื้อหาทุกครั้งก่อนพิมพ์เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด
สำหรับออฟฟิศของซาราห์นั้น เธอบอกว่า พวกเธอใช้กระดาษที่พิมพ์ไปแล้วเพียงหน้าเดียวมาทำเป็นสมุดให้กับพนักงาน
5. พยายามอย่าทิ้งอาหาร
อย่าลืมอาหารที่เราแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นของออฟฟิศ อาหารเหล่านี้ไม่เพียงแค่จะหมดอายุและเปลืองพื้นที่ที่เราต้องใช้ร่วมกับเพื่อนร่วมงานแล้ว อาหารที่หมดอายุเหล่านี้นำไปสู่ปัญหาเศษอาหารเหลือทิ้งมหาศาลซึ่งเป็นปัญหาระดับโลก
วิธีการแก้ปัญหาง่าย ๆ หากเราทานอาหารกลางวันที่ออฟฟิศไม่หมดก็สามารถแบ่งปันให้กับเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศ หรือเก็บอาหารไว้ในถังหมักแทนการทิ้งลงถังขยะ
6. ดูแลต้นไม้ในออฟฟิศ
ลองคิดดูว่าเราจะมีความสุขในการทำงานขนาดไหน หากมีอากาศอันสดชื่นในออฟฟิศ? เมื่อองค์กรระดับโลกอย่างนาซ่า ต้องการช่วยนักบินอวกาศให้หายใจได้อย่างสะดวกสบาย พวกเขาใช้ต้นไม้ช่วยยกระดับคุณภาพอากาศ และแน่นอน ต้นไม้ในออฟฟิศเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ สำหรับการขจัดมลพิษ แต่อย่าให้ความรักกับต้นไม้ด้วยการให้น้ำเกินความต้องการ นอกจากนี้ยังมีบล็อกต่าง ๆ ที่มีวิธีใช้ต้นไม้เพื่อทำให้ออฟฟิศสดชื่นอีก
7. แข่งกันทำแคมเปญประหยัดพลังงานในออฟฟิศ
จะดีแค่ไหนถ้าพนักงานของแต่ละแผนกแข่งกันประหยัดพลังงานในพื้นที่ที่ตนเองทำงานอยู่? การทำแคมเปญประหยัดพลังงานเพื่อแข่งกันประหยัดพลังงานเป็นกิจกรรมที่ท้าทายสำหรับพนักงานแต่ละแผนกในออฟฟิศ โดยจะต้องตั้งกรรมการตรวจตราการใช้ไฟของแต่ละแผนกในช่วงพักเที่ยง ยกตัวอย่างเช่น แผนกไหนไม่ได้ปิดไฟหรือเสียบปลั๊กคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ ก็จะถูกหักคะแนน ซึ่งคะแนนเหล่านี้จะรวมกันและประกาศแผนกผู้ชนะในทุกๆเดือน นอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟให้กับบริษัทแล้ว แผนกที่คะแนนถูกลบน้อยที่สุดก็จะได้รับรางวัลตอบแทนอีกด้วย
8. ประหยัดพลังงานด้วยการจัดพื้นที่ภายในออฟฟิศ
การจัดพื้นที่การทำงานในออฟฟิศอย่างชาญฉลาดคือโต๊ะทำงานสองถึงสามโต๊ะสามารถใช้แสงสว่างจากไฟเพียงหนึ่งดวงได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้โคมไฟช่วยเสริมแสงสว่างอีก หรือในวันที่พนักงานมาทำงานน้อย ก็น่าจะมีพื้นที่ที่ทุกคนนั่งทำงานรวมกันได้โดยใช้ไฟเพียงไม่กี่ดวง นอกจากจะประหยัดไฟแล้วก็ยังเป็นการสร้างมิตรภาพของเพื่อนร่วมงานระหว่างแผนกได้อีกด้วย ทั้งนี้การเปิดม่านหน้าต่างยังช่วยเพิ่มแสงสว่างจากธรรมชาติและเป็นการลดการใช้พลังงานได้อีกทางหนึ่งด้วย
9. สร้างวัฒนธรรมองค์กรในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรยังเป็นแนวทางที่สำคัญยิ่งอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งจะพัฒนาออฟฟิศของเราให้กลายเป็นออฟฟิศรักษ์โลกอย่างยั่งยืนได้ เพียงให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและแนวทางการปฏิบัติเพื่อลดการใช้ทรัพยากรพร้อมทั้งประโยชน์ที่จะได้รับ ก็สามารถทำให้องค์กรของเรากลายเป็นองค์กรสีเขียว พนักงานมีความรู้และตระหนักในประเด็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การปฎิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนในที่สุด