ชื่อรายงาน รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำควบกล้ำ
ตามหลักภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
ผู้ศึกษา นางสาวศุภิณฎา ชูศรี
หน่วยงาน โรงเรียนบ้านเขาจีน
ปีที่ทำการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๖
บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำควบกล้ำ ตามหลักภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกเสริม ทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำควบกล้ำ ตามหลักภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ และ ๓) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำควบกล้ำ ตามหลักภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านเขาจีน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๖ ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive sampling) จำนวน ๒๒ คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำควบกล้ำ ตามหลักภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๔ เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ และแบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำควบกล้ำ ตามหลักภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ แบบแผนการศึกษาที่ใช้คือ One – Group Pretest – Posttest Design สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยการทดสอบค่าที (t – test dependent)
ผลการศึกษาพบว่า
- ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำควบกล้ำ ตามหลักภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๕.๔๓/๙๐.๐๐ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้
- ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำควบกล้ำ ตามหลักภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
๓. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการ
เขียนสะกดคำควบกล้ำ ตามหลักภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในเกณฑ์พอใจระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย ( = ๔.๒๓) และ ( S.D = ๐.๕๕)