ในทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น ตามธรรมชาติก็จะมีพวกสัตว์น้ำต่าง ๆ อาศัยรวมกันอยู่อย่างมากมายจนนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว และก็แน่นอนที่ในท้องทะเลนั้น จะมีพวกปลาชนิดต่าง ๆกำเนิดขึ้น และพวกปลาเหล่านั้นโดยทั่วไปก็ จะมาอยู่รวม ๆ กันเป็นฝูง ๆ ปลาในเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน ได้มีปลาตัวใหญ่ที่มีนิสัยตะกะตะกาม โลภมากและเห็นแก่ตัวอย่างที่สุดอยู่ฝูงหนึ่ง พวกมันจะจับกลุ่มรวมกันอย่างเหนียวแน่น คล้าย ๆ กับพวกนักเลงประจำท้องทะเลแห่งนั้นก็ไม่ปาน ว่ายออกหาอาหารไปเรื่อยๆ พอเจอฝูงปลาที่ตัวเล็กกว่าก็จะตรงเข้าแกล้งและพูดเบ่งบารมี และมักจะแขวะเอาเสมอ ๆ ว่า " เจ้าปลาจิ๋ว เจ้าเคยได้ยินคำพังเพยที่ว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็กไหมล่ะ ! ฮ่า ๆๆ ถ้าไม่อยากตายเร็ว ๆ ก็ถอยออกไป ให้ไกล ๆ พวกหอย, กุ้ง, ปูและอาหารที่มีอยู่ทั่วทั้งบริเวณนี้เป็นของพวกข้า พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์กิน หรอกวุ้ย.. ฮ่า ๆๆ " |
เจ้าปลาจิ๋วรีบตอบ "จ๊ะ ผู้ที่แข็งแรงกว่าย่อมอยู่ได้ ผู้ที่อ่อนแอย่อมต้องถูกกำจัด พวกเราเข้าใจดีจ๊ะ" ว่าแล้ว ก็รีบว่ายหนีหลบไปอยู่ใกล ๆ ทุกฝูงไป ปลาใหญ่นั้นยิ่งนับวันก็ยิ่งเหิมเกริมบ้าอำนาจมากขึ้นทุกวัน และเมื่อ อาหารนั้นหากินได้อย่างง่ายเพราะไม่มีใครกล้ามาแย่ง พวกมันก็เลยยิ่งตัวใหญ่ขึ้นและอ้วนขึ้นจนจะกลาย เป็นปลายักษ์เข้าไปทุกที ๆ เลยทีเดียว...ส่วนพวกปลาเล็กนั้นเมื่อโดนแย่งพวกอาหารกินเสียจนหมด ไม่ค่อย ได้กินอะไรจึงอยู่กันด้วยความหิวโซมาตลอด นับวันก็จะยิ่งตัวเล็กลง ๆ และผอมจนเหลือแต่กระดูกทุกตัวไป ก็ว่าได้.... |
และแล้วก็มีอยู่วันหนึ่ง ได้มีชาวประมงที่เห็นว่าแถวนี้ได้มีปลาว่ายมารวมกันอยู่อย่างมากมาย จึงลงอวน เพื่อจับพวกปลาเหล่านั้น ฝูงปลาต่าง ๆ และเจ้าปลาใหญ่ฝูงนั้นก็เช่นกัน ด้วยไม่ทันระวังตัวจึงติดอวนของชาว ประมงเสียแล้ว...พวกปลาต่าง ๆ ตกใจและพยายามว่ายหนีกันให้เป็นการใหญ่ เจ้าปลาใหญ่ตัวร้ายก็พยายาม ที่จะว่ายหนีกัยเขาด้วยเหมือนกัน |
![]() ![]() |
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "เล็กก็เล็กพริกขี้หนู ในบางกรณีการยินยอมเป็นผู้ที่ด้อยกว่านั้นอาจพ้นภัยได้อยู่เหมือนกัน" |