ท้องเสีย (diarrhea) เป็นอาการขับถ่ายอุจจาระออกมามีลักษณะเหลวปนนํ้า หรือถ่ายเป็นนํ้า และมักจะถ่ายบ่อยครั้ง เด็กที่ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำมากกว่า 6 – 8 ครั้งต่อวันนั้นแสดงว่าท้องเสีย แต่บางครั้งอาจเป็นการยากที่จะบอกว่าเด็กท้องเสียหรือไม่ เนื่องจากอุจจาระของเด็กตามปกติจะมีลักษณะเหลว ดังนั้นถ้าเด็กขับถ่ายบ่อยมากครั้งกว่าปกติ และอุจจาระมีลักษณะเหลวเป็นน้ำ ให้สงสัยว่าอาจมีอาการท้องเสีย ตามนิยาม และความหมายขององค์การอนามัยโลก โรคท้องเสีย หรือโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน หมายถึง การถ่ายอุจจาระเหลวหรือมีน้ำมากกว่าปกติ 3 ครั้ง หรือถ่ายเป็นน้ำ 1 ครั้ง หรือถ่ายมีมูกเลือด 1 ครั้ง ในเวลา 1 วัน กรณีเช่นนี้ถือว่าเป็นโรคท้องเสีย ซึ่งจะต้องทำการรักษาให้ถูกวิธี อย่างไรก็ตามความหมายของท้องเสียที่ระบุโดยจำนวนครั้งของการถ่ายอาจแตกต่างไปจากนี้ในผู้ป่วยบางราย โดยขึ้นอยู่กับลักษณะและความถี่ของการขับถ่ายในสภาวะปกติของแต่ละคน สำหรับเด็กเล็กที่ดื่มนมแม่อาจถ่ายอุจจาระเหลวๆ บ่อยครั้งได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าถ่ายเป็นน้ำจำนวนมากและบ่อยครั้งกว่าที่เคยเป็นแสดงว่าเกิดอาการท้องเสียโดยคำจำกัดความนั้น ’ท้องเสีย’ คือการที่ร่างกายมีการถ่ายอุจจาระบ่อยกว่าปกติ โดยที่ลักษณะอุจจาระนั้น จะมีปริมาณมากและมีส่วนประกอบเป็นน้ำมากกว่าปรกติ ดังนั้นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดเมื่อเกิดอาการท้องเสียคือ การที่ร่างกายเกิดสภาวะขาดน้ำและเกลือแร่
**สาเหตุ**
ท้องเสียแบ่งออกเป็น 3 ประเภท o ประเภทแรก คือ อาการท้องเสียเนื่องจากได้รับสารพิษจากเชื้อ o ประเภทที่สอง คือ อาการท้องเสียเนื่องจากการติดเชื้อ o ส่วนอาการท้องเสียประเภทสุดท้าย ได้แก่ ท้องเสียธรรมดาซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อหรือสารพิษจากเชื้อ อาการท้องเสียทั้งสามประเภทนี้จะมีลักษณะอาการ วิธีการรักษา และการปฏิบัติตนที่แตกต่างกันซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรจะทราบเนื่องจากถ้าปฏิบัติตนไม่ถูกต้องแล้วอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ |
ถ้าเป็นการท้องเสียจากการได้รับสารพิษจากเชื้อ มักจะเกิดจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษที่มาจากเชื้อโรคเข้าไป ผู้ป่วยมักจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนและถ่ายเหลวหลังจากรับประทานอาหารประมาณ 2-4 ชั่วโมงเรียกว่ากินเข้าไปไม่นานก็มีอาการแล้ว แต่มักจะไม่มีไข้สำหรับการท้องเสียเนื่องจากการติดเชื้อนั้นผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือมีไข้ร่วมกับการถ่ายเหลวซึ่งลักษณะของอุจจาระจะแปลกไปจากท้องเสียทั่วไป เช่น ถ่ายเป็นมูกหรือมูกปนเลือด บางรายอุจจาระจะคล้ายน้ำซาวข้าวและถ่ายพุ่ง หรือบางรายอาจถ่ายออกมามีกลิ่นเหม็นผิดปกติ เช่น เหม็นเหมือนหัวกุ้งเน่า เป็นต้น แต่ถ้ามีอาการท้องเสียเพียงแค่ถ่ายเป็นน้ำ ไม่มีอาการดังที่กล่าวไว้ในการท้องเสียสองประเภทแรกก็จะเป็นการท้องเสียธรรมดา |
ท้องเสียในเด็กทารก และเด็กโตอาจมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสโรตา (Rotavirus) ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดท้องเสียในเด็ก อาการท้องเสียที่เกิดจากเชื้อไวรัส อาจเกิดจากเชื้อที่ทำให้เป็นไข้หวัด ต่อมาเคลื่อนลงกระเพาะลำไส้ ก็กลายเป็นหวัดในกระเพาะลำไส้ ซึ่งทำให้การทำงานของระบบทางเดินอาหารผิดไปจากปกติ ไม่สามารถย่อยอาหารได้ เกิดอาการอาเจียนและท้องเสีย |
|
||
ถ้าเริ่มมีอาการใน 4-6 ชั่วโมงแรก อาจซื้อผงเกลือแร่สำเร็จรูปจากร้านขายยามาลองรับประทานดูก่อน หรืออาจจะเตรียมเองที่บ้านก็ได้ โดยใช้น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 12 ช้อนชา เติมน้ำสะอาด 1 ขวดกลม การรักษาที่สำคัญและจำเป็นที่สุดคือการได้รับน้ำ และเกลือแร่ทดแทน ในช่วงที่มีอาการท้องเสียควรรับประทานอาหารอ่อนหรืออาหารเหลว เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ไม่ควรงดรับประทานอาหารเพราะจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง |
||
ถ้าเป็นไม่มาก หลังดื่มน้ำเกลือแร่แล้วผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้น แต่ถ้าดื่มน้ำเกลือแร่ไม่ได้ ยังคงอาเจียน มีไข้สูง กระหม่อมหนาบุ๋ม เด็กมีในตาลึกโหล หายใจหอบ ปัสสาวะน้อยลง เพราะขาดน้ำอย่างรุนแรง ควรรีบนำเด็กไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะผู้ป่วยอาจเกิดภาวะช็อค และเสียชีวิตได้ สำหรับยาที่ช่วยให้หยุดถ่ายหรือที่มักจะเรียกกันว่ายาแก้ท้องเสีย เช่น diphenoxylate, loperamide สามารถใช้ได้เฉพาะผู้ที่ท้องเสียธรรมดาเท่านั้น ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่สงสัยว่าเกิดอาการท้องเสียเนื่องจากติดเชื้อ หรือได้รับสารพิษจากเชื้อ เนื่องจากยาที่ทำให้หยุดถ่ายจะทำให้ลำไส้บีบตัวได้น้อยลงทำให้ความถี่ของการถ่ายลดลง และผู้ป่วยอาจคิดว่าอาการดีขึ้น แต่ความจริงแล้วเชื้อหรือสารพิษจากเชื้อจะอยู่ในร่างกายได้นานขึ้นจึงทำให้หายจากอาการท้องเสียได้ช้าลง ดังนั้นหากสงสัยว่าท้องเสียแบบติดเชื้อหรือได้รับสารพิษจากเชื้อ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อจะได้รับยาฆ่าเชื้อหรือยาดูดซับสารพิษที่เหมาะสม |
||
หากเด็กเล็กๆหรือผู้สูงอายุเกิดอาการท้องเสียและได้ทำการรักษาเบื้องต้นไปแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้น ควรนำส่งแพทย์โดยเร็วและถ้าผู้ป่วยยังรู้สึกตัวและรับประทานได้ควรให้ดื่มน้ำเกลือแร่ในระหว่างทางด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขาดน้ำอย่างรุนแรง และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ควรงดให้น้ำดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มที่มีความหวาน เพราะว่าจะทำให้อาการท้องเสียแย่ลงกว่าเดิม |
||
อาหารที่แนะนำให้บริโภคควรจะมีส่วนผสมของถั่ว เนื้อ ปลา ไข่ ผักต้มสุก กล้วย หรือธัญพืชต้มสุก แนะนำให้เด็กบริโภคอาหารมื้อย่อยๆดีกว่าเป็นมื้อหลักใหญ่ |
********************วิธีรักษาที่ดีที่สุดคือ การดูแล และรักษาสุขภาพของตนเองนะจ๊ะทุกคน ออกกำลังกายบ่อยๆ
เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงจร้า .*********************** (^-^)