ดาวอังคาร |
||||||||||
|
||||||||||
จุดเริ่มยุค J2000 |
||||||||||
249,228,730 กม. |
||||||||||
206,644,545 กม. |
||||||||||
227,936,637 กม. |
||||||||||
เส้นรอบวง |
1.429 เทระเมตร |
|||||||||
0.09341233 |
||||||||||
779.96 วัน |
||||||||||
24.077 กม./วินาที |
||||||||||
อัตราเร็วสูงสุด |
26.499 กม./วินาที |
|||||||||
อัตราเร็วต่ำสุด |
21.972 กม./วินาที |
|||||||||
1.85061° |
||||||||||
49.57854° |
||||||||||
286.46230° |
||||||||||
ดาวบริวารของ: |
ดวงอาทิตย์ |
|||||||||
จำนวนดาวบริวาร: |
2 |
|||||||||
ลักษณะทางกายภาพ |
||||||||||
เส้นผ่านศูนย์กลาง |
||||||||||
เส้นผ่านศูนย์กลาง |
6,754.8 กม. |
|||||||||
0.00736 |
||||||||||
1.448×108 กม.² |
||||||||||
1.638×1011 กม.³ |
||||||||||
มวล: |
6.4185×1023 กก. |
|||||||||
ความหนาแน่นเฉลี่ย: |
3.934 กรัม/ซม.³ |
|||||||||
ความโน้มถ่วง |
3.69 เมตร/วินาที² |
|||||||||
5.027 กม./วินาที |
||||||||||
1.025957 วัน |
||||||||||
ความเร็วการหมุน |
868.22 กม./ชม. |
|||||||||
25.19° |
||||||||||
ไรต์แอสเซนชัน |
317.68143° |
|||||||||
เดคลิเนชัน |
52.88650° |
|||||||||
0.15 |
||||||||||
|
||||||||||
ลักษณะของบรรยากาศ |
||||||||||
ความดันบรรยากาศ |
0.7-0.9 กิโลปาสกาล |
|||||||||
องค์ประกอบ: |
95.32% คาร์บอนไดออกไซด์ |
ดาวอังคาร เป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่ 4 ชื่อละตินของดาวอังคาร (Mars) มาจากชื่อเทพเจ้าแห่งสงครามของโรมัน หรือตรงกับเทพเจ้า Ares ของกรีก เป็นเพราะดาวอังคารปรากฏเป็นสีแดงคล้ายสีโลหิต บางครั้งจึงเรียกว่า "ดาวแดง" หรือ "Red Planet" (ความจริงมีสีค่อนไปทางสีส้มอมชมพูมากกว่า) สัญลักษณ์แทนดาวอังคาร คือ ♂ เป็นโล่และหอกของเทพเจ้ามาร์ส ดาวอังคารมีดาวบริวารหรือดวงจันทร์ขนาดเล็ก 2 ดวง คือ โฟบอสและไดมอส โดยทั้งสองดวงมีรูปร่างบิดเบี้ยวไม่เป็นรูปกลม ซึ่งคาดกันว่าอาจเป็นดาวเคราะห์น้อยที่หลงเข้ามาแล้วดาวอังคารคว้าดึงเอาไว้ให้อยู่ในเขตแรงดึงดูดของตน
ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์หิน (terrestrial planet) มีชั้นบรรยากาศเบาบาง พื้นผิวมีลักษณะคล้ายคลึงทั้งหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ และภูเขาไฟ หุบเขา ทะเลทราย และบริเวณน้ำแข็งขั้วโลก บนโลก ดาวอังคารมีภูเขาที่สูงที่สุดในระบบสุริยะคือ ภูเขาไฟโอลิมปัส (Olympus Mons) และหุบเขาลึกที่มีชื่อว่า มาริเนริส (Marineris) ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2008 มีบทความ 3 บทความตีพิมพ์ลงในนิตรสาร "Nature" เกี่ยวกับหลักฐานของหลุมอุกกาบาตที่ใหญ่มหึมา โดยมีความกว้าง 8,500 กิโลเมตร ยาว 10,600 กิโลเมตร[3][4] นอกจากนั้นสิ่งที่ดาวอังคารมีและคล้ายคลึงกับโลกก็คือคาบการหมุนรอบตัวเองและฤดูกาล
ดาวอังคารสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มีค่าความส่องสว่างปรากฏอยู่ที่ 3.0 มีเพียงแค่ดาวศุกร์ ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ที่สว่างกว่า