เห็นว่าบันทึกที่ผ่านมาเป็นเรื่องของเหตุการณ์ในพุทธประวัติที่มีดอกบัวสัมพันธ์ถึง จึงนำวิธีวาดภาพดอกบัว มาบันทึกไว้ตามกัน

โดยทั่วไปการลงสีในภาพวาดสีน้ำ จะลงสีจากระยะหลังมาระยะหน้า แต่การลงสีในการวาดภาพด้วยวิธีที่ไม่ได้ร่างภาพด้วยดินสอนี้นี้ต่างออกไป เพราะทำในวิธีที่ตรงกันข้าม

เริ่มจากสังเกตดอกไม้ที่จะวาด จุดใดอยู่ระยะหน้าสุด วาดที่จุดนั้นก่อน และในจุดที่วาดก่อนนั้น ดูว่าบริเวณใดมีสีเข้มที่สุด แตะสีลงที่บริเวณนั้นก่อน เพื่อที่ว่า เมื่อเราค่อยๆเกลี่ยสีออกไปตามแนวที่ต้องการ บริเวณที่ลงสีเป็นครั้งแรก จะได้เป็นเงาเข้มของบริเวณที่ต้องการ

เริ่มต้นด้วยสีที่จางด้วยน้ำมากๆจนเป็นสีอ่อนก่อน แล้วจึงค่อยๆเพิ่มความเข้มของสีไปทีละนิด จะเติมสีให้เข้มขึ้นด้วยสีเดิม หรือสีที่เข้มขึ้นก็ได้

และควรวาดเพื่อเรียนรู้การวาดเป็นส่วนๆไป เช่น อาจหัดร่างกลีบดอกบัวดอกนี้ทีละกลีบก่อน เมื่อชำนาญขึ้น จึงวาดต่อๆกันทีละกลีบจนเต็มดอก

และในเวลาเวลาทำงานควรใช้พู่กันสองอัน อันหนึ่งสำหรับแตะสีปาดลงบนกระดาษ อีกอันเป็นพู่กันสำหรับทาน้ำบนกระดาษ หรือสำหรับเป็นพู่กันชื้นที่ใช้เกลี่ยสีให้กลืนไปกับกระดาษ

วิธีวาด

1 เริ่มจากใช้สีชมพูจางๆปาดลงในตำแหน่งที่เป็นสีเข้มที่สุดของกลีบหน้า และใช้พู่กันชื้นค่อยๆเกลี่ยให้กลืนออกไปกับกระดาษจนเป็นรูปร่างของกลีบ

2 วาดกลีบต่อไปด้วยวิธีเดียวกัน

3 ค่อยๆวาดเพิ่มทีละกลีบๆ ทีละกลีบ

4 จนเต็มดอก

5 ทิ้งให้แห้ง แล้วใช้สีดอกสีเดิม ลงเงาซ้ำด้วยวิธีเปียกบนเปียก นั่นคือใช้พู่กันอันหนึ่งทาน้ำให้ทั่วกลีบดอกที่จะเติมเงา ปาดสีตาม แล้วใช้พู่กันทาน้ำที่ซับจนหมาดดีแล้ว เกลี่ยสีให้กลืนไปกับพื้นเดิม การปาด อาจปาดเป็นริ้วเพื่อให้ดูคล้ายกลีบดอกจริง

 6 ค่อยๆเพิ่มน้ำหนักสีไปทีละกลีบ

7 จนเต็มดอก

8 ทิ้งให้แห้ง เติมสีให้เข้มขึ้นด้วยวิธีเดิม

 9 จนได้ดอกบัวที่เสร็จสมบูรณ์