ถึงเพื่อนทรูฯทุกท่าน (บันทึกเวลา ๐๖.๒๐ น.)
เป็นวันสุดท้ายของเดือนแรกแห่งปี ๒๕๕๔ พร้อมกับความสุขของคนไทยลดน้อยลง ต้องมาเผชิญกับความเป็นจริง ที่ว่า “รักความเป็นไทย” หนึ่งในคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ก็ลดลงทุกขณะ คุยกับเพื่อนครูในวันหยุดที่ผ่านมา ก็มีปัญหาคือ เด็กเราเดินห่างความเป็นไทย ตามผู้ใหญ่ที่หนุนหลัง จนกู่ไม่กลับแล้ว
เด็กไม่สนใจเรียน เพราะอย่างไรก็ไม่ตกซ้ำชั้น ครูก็ไม่ลงโทษโดยการตี (ใครก็ไม่รู้ ว่าเป็นการลงโทษทางลบ เราว่าเป็นการลบหลู่ปู่ย่าตายายของเรามากกว่า) ให้ลงโทษทางบวก ทางบวกมันจะเป็นการลงโทษได้อย่างไร ทุกวันนี้กลายเป็นว่าครูกลัวศิษย์ กลัวนักเรียนไม่รัก จากวันหนึ่งทำงานได้สองชาม คือเช้าชาม เย็นชาม เป็นเช้าชาม เที่ยงชาม เย็นชาม สามชามสบายใจเฉิบ นักเรียนก็นิยมแต่การฟังและดู (จากโทรศัพท์) ไม่ต้องสนใจสาระวิชาเรียนกันแล้ว
คุยกันเรื่อง “ไม่รู้ ไม่ชี้”
ไม่รู้ไม่ชี้ อันนี้เป็นธรรมชาติ เป็นเรื่องปกติ เมื่อไม่รู้ก็ไม่ควรชี้ ให้เกิดความสับสน
ไม่รู้ แต่ชี้ อันนี้อันตราย ก่อให้เกิดการเข้าใจผิด เสียหายต่อส่วนรวมได้
รู้ แต่ไม่ชี้ อันนี้ก็ไม่สร้างสรรค์ เป็นการเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ เอาตัวรอดคนเดียว สังคมไม่ได้อะไร
รู้และชี้ อันนี้สุดยอด สังคมส่วนรวมได้ประโยชน์ แต่ต้องใช้อย่างรอบคอบ บางครั้งนำอันตรายมาสู่ตน (รู้และชี้เป็นเรื่องของความจริง ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่บางคนต้องตายเพราะพูดความจริง)