ถึงเพื่อนทรูฯ ทุกท่าน (บันทึกเวลา ๐๗ .๑๕ น.)
เช้าวันนี้อากาศเย็น มีหมอกปกคลุมพอประมาณ เราตื่นประมาณหกโมงครึ่ง เนื่องด้วยเมื่อคืนนอนดึก ตีสามกว่า ค้นข้อมูลเพื่อทำรายงานนำเสนอผลงานเข้ารับการคัดสรร “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี ๒๕๕๔ ตามประกาศคุรุสภา ซึ่งมีกำหนดส่งรายงานภายในวันจันทร์ที่ ๑๗ มกราคม นี้ ผลงานที่เราส่งต้องให้ผู้บริหารเป็นผู้เสนอ (เราทำ) ชื่อว่า “วีดิทัศน์ ชุด รักการอ่านผ่านบทเพลง”
เมื่อวานที่โรงเรียนผู้บริหารก็ประชุมครู เพื่อวางแผนนำเสนอภาระงานทั้งหมดของโรงเรียน เตรียมขอรับการประเมินจากคณะกรรมการตามโครงการโรงเรียนในฝัน เราเองสอนนักเรียนระดับ ป. ๑ – ๒ ก็ตามๆรุ่นพี่ๆเขาไป ส่วนตัวรับผิดชอบด้านห้องสมุด คงไม่เข้าเกณฑ์ห้องสมุด ๓ ดี ในข้อที่ว่า มีบรรณารักษ์ดี (ไม่ได้จบเอกบรรณารักษ์) กิจกรรมก็คงต้องใช้เวลาปรับ (เพิ่งรับงานมาเมื่อต้นเทอมนี้) โรงเรียนลงโปรแกรมการจัดการห้องสมุดยุคใหม่ (ซื้อเขามา) ยังไม่เรียบร้อย เราไม่เครียด ประเมินผ่านหรือไม่ผ่านเป็นเรื่องของการประเมิน ความเป็นตัวตนในโรงเรียนของเราซึ่งเป็นโรงเรียนในชนบท เป็นโรงเรียนวัด นักเรียนสามร้อยเศษ มีทั้งอนุบาล ประถมและมัธยม (โรงเรียนขยายโอกาสเดิม) ให้เป็นไปตามธรรมชาตินั่นแหละ
เคยเล่าให้เพื่อนทรูฟังว่าจะทำเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เสียเงินจ้างเขาทำเว็บไปเกือบสามพัน ตั้งชื่อว่า “ครูรากฝอย” บัดนี้เลิกแล้ว ทำไม่ได้ ไม่มีความรู้ถึง ไม่มีเวลา ไม่มีคนช่วย ไม่มี ฯลฯ ยอมรับว่าทำไม่สำเร็จ อาศัยไปกับทรูปลูกปัญญาเหมือนเดิมดีแล้ว
เขมรก็ยังไม่ปล่อยคนไทย คนไทยก็ยังทะเลาะกัน พวกจะแก้รัฐธรรมนูญก็กู่ไม่กลับ วงการครูก็จะต่ออายุราชการออกไปอีกเป็น ๖๕ -๗๐ ปี (ดีนะที่ไม่ตั้งเป้าเป็นร้อยปี) ส่วนตัวเราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เหตุผล ๑. กำลังกายถดถอย หมดแรงทุ่มเท ๒. เปิดโอกาสให้คลื่นลูกใหม่ดีกว่า
แค่หอมปาก ขมคอ พูดมากไปเดี๋ยวเราจะกู่ไม่กลับซะเอง
จะถึงวันครูแล้ว อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เอวัง...ลา