การปลูกบัวในภาชนะปลูกต้องหมั่นตรวจดูน้ำ สาหร่าย และตะไคร้น้ำ น้ำต้องใสสะอาดไม่มีสีค้ำ กรณีน้ำเสียเกิดจากการเน่าของใบและดอกที่แก่จะต้องเด็ดก้านใบและก้านดอกทิ้งโดยเด็ดที่โคนต้น หากน้ำยังไม่ใสให้เปลี่ยนถ่ายน้ำออกแล้วเติมใหม่ ส่วนสาหร่ายและตะไคร่น้ำให้เก็บหรือใช้ภาชนะตักออกทิ้ง และที่สำคัญอย่าปล่อยให้น้ำในภาชนะแห้ง การใส่ปุ๋ย ปุ๋ยบัวที่ใช้โดยทั่วไปเป็นสูตรเสมอ คือ ๑๕-๑๕-๑๕ หรือ ๑๖-๑๖-๑๖ ประมาณ ๑ ช้อนโต๊ะ ห่อกระดาษฝังโคนต้น อาจเป็นลูกกอน หรือปุ๋ยอัดก้อนก็ได้
โรคและแมลง โรคและศัตรูของบัวซึ่งผู้ปลูกมักประสบปัญหา ได้แก่
- โรคใบจุด เกิดจากเชื้อรา อาการจะเป็นที่ใบมีจุดวงกลมสีเหลืองแล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แก้ไขโดยเด็ดใบทิ้ง หรือฉีดพ่นด้วยสารเคมีป้องกันเชื้อรา
- เพลี้ยไฟ ลักษณะตัวสีขาวเล็ก จะเกาะอยู่หลังใบดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้บัวไม่เจริญ เข้าทำลายดอกและก้านดอก จะทำให้ดอกตูมเหี่ยวแห้งเป็นสีดำ ไม่บาน
- เพลี้ยอ่อน ลักษณะตัวเล็กๆ สีน้ำตาล ดูดกินน้ำเลี้ยงบริเวณโคนก้านดอกก้านใบ ใต้และบนใบอ่อน จะทำให้ดอกและใบมีขนาดเล็กสีเหลืองซีดและแห้งตาย
- หนอนพับใบ เกิดจากผีเสื้อกลางคืนมาวางไข่บนใบจนฟักเป็นตัวหนอนจะกัดกินและดูดน้ำเลี้ยงจากใบแล้วพับใบปิดทับตัว เพื่อเข้าดักแด้ และป้องกันศัตรูพวกนกต่างๆ
- หอย ได้แก่ หอยขม หอยโข่ง หอยเชอรี่ ทั้งตัวอ่อน และตัวเต็มวัยจะดูดน้ำเลี้ยงจากใบอ่อนและกัดกินใบบัว การกำจัดโดยการจับทำลายทิ้งทั้งเป็นตัวและไข่หอย
สารเคมีที่แนะนำกำจัดโรคและแมลงได้แก่ อโซดริน ๖๐, พอสซ์, เซฟวิน๘๕, แลนเนท, โปรตีน เป็นต้น ผสมกับยาจับใบและควรฉีดพ่นในช่วงเย็นวันที่ไม่มีฝนตก ทุก 1 เดือน
ที่มา: http://www.lotus.rmutt.ac.th/archives/334
พิพิธภัณฑ์บัวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี