สวัสดียามเช้า ๙/กันยายน ๒๕๕๓ (วันที่๒๐)

ถึงเพื่อนทรูทุกท่าน  (บันทึกเวลา ๐๗.๓๐ น.)

     ครูกฤษฎ์มาถึงโรงเรียนเวลา  ๐๖.๓๕ ลงชื่อทำงาน ตรวจตราความเรียบร้อยของอาคารสถานที่ ทักทายนักเรียนที่มาถึง  ไปคุยกับภารโรง  กลับมาที่ห้อง เปิดโน้ตบุ๊คเข้าเว็บ

     ได้พักผ่อนกันสองวันเสาร์อาทิตย์  คงสุขสบายกันถ้วนหน้า  แต่สำหรับครูกฤษฎ์ก็สบายแต่ไม่ได้พักผ่อน  วันเสาร์ตีห้าค่อน ขับรถพาภรรยาไปตรวจสุขภาพที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ  ถึงเกือบเจ็ดโมง  ไม่มีที่จอดรถ เราต้องนำมาจอดด้านหลังติดกับทางรถไฟ นอนรออยู่ในรถ แปดโมงกว่าเดินไปที่โรงอาหารของโรงพยาบาลรามา  กินข้าว กับข้าวสองอย่าง  สิบแปดบาท  ถูกมาก กลับมากินน้ำที่รถ (ประหยัด) และกินยาป้องกันความดันทุรังสูง

     สิบเอ็ดโมงกว่า  ภรรยาตรวจเสร็จ  ไปรับ ขับขึ้นทางด่วนไปหลักสี่ ดอนเมือง เยี่ยมลูกสาวคนโตและลูกเขย หลานสาว  ย่าเขา  อยู่ทำความคุ้นเคยกับหลานสาว  อายุไม่ถึงแปดเดือนดี  สิบเจ็ดนอก็กลับนครปฐม  แวะบ้านลูกสาวคนเล็ก  ให้แม่เขาช่วยดูแลการขายก๋วยเตี๋ยว  กลับถึงบ้านตัวเองก็ห้าทุ่มกว่า

     เช้าวันอาทิตย์ทำงานหน้าคอม  เที่ยงก็ไปกับภรรยาที่ร้านสมปองหมูหัน  เรานัดพบเพื่อนร่วมรุ่นพระปฐม 12  มากันประมาณยี่สิบคนได้  มีเพื่อนเออรี่ สามราย  คือชวลิต ครูโรงเรียนวัดหุบรัก  มีอภิชาต ครูโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย  มีมนัส (เซียนฮวด หมากรุกไทย) ไม่รู้มันสอนที่ไหน รู้แต่ว่าเมียมันสอนอยู่โรงเรียนวัดห้วยจระเข้  แถมตัวมันก็ไม่ได้มา  เป็นการส่งพวกเออรี่ด้วย  ประธานวิฑูรดำเนินการประชุม  ต่อสายถึงเพื่อนที่เป็นแม่ทัพภาค 4 ท่านอุดมชัย แสดงความยินดีที่เพื่อนได้ขึ้นเป็นแม่ทัพ (ท่านเป็นคนอำเภอสามพราน  นครปฐม) อาหารการกินวันนี้สมภพ  เจ้าของโรงงานวราฟูดแอนดริ้งค์เป็นคนดูแล  (แต่เจ้าตัวไม่ได้มา  แจ้งว่าไปดูแลบ้านแม่ที่ จ. พิจิตร  น้ำท่วม) พวกเราก็ช่วยกันออกค่าอาหารเหมือนเดิม เก็บไว้เป็นทุนของชุมรม เราก็ออกไปหนึ่งพัน  เก็บได้  10,700 บาท  รวมกับของเดิมที่เหลืออยู่สามหมื่นกว่า เป็นสี่หมื่นกว่า  ลงความเห็นกันว่าจะลงใต้ไปเยี่ยมเยือนท่านแม่ทัพในโอกาสเหมาะๆ  ร้องคาราโอเกะกันสนุกไปเลย  เลิกราก็ห้าโมงเย็น  เราก็ไปดูลูกสาวคนเล็กขายของต่อไป

     จบ.