นิราศเบญจม์ - บูรพ์
ขอกราบกรานไตรรัตน์ประภัสสร
คุณอาจารย์มารดาและบิดร ผู้พร่ำสอนสร้างเด่นเป็นตัวตน
จักร่ายร่ำพร่ำกลอนอักษรพากย์ เป็นของฝากงานกวีที่ฝึกฝน
มิได้อวดอ้างใครในสกนธ์ ตั้งกมลด้นนิราศโอกาสมี
กลับไปเยือนโรงเรียนเก่ากระจ่างจิต แหล่งประสิทธิ์ปัญญาสง่าศรี
“เบญจมราชรังสฤษฎิ์” แห่งนี้ ราชานุสาวรีย์ ร.๕อยู่ยืนยง
นิราศร้างห่างเบญจม์หวนโหยหา ร่ำเรียนมาสามศกสมประสงค์
พาวิถีผกผันหันขึ้นลง ชีวิตคงเรียนรู้เมื่ออยู่เบญจม์
เรียนมอสี่ทับสิบสี่นี้ซึ้งจิต เฝ้าครุ่นคิดติดในใจเหหวน
สี่ทับสิบสี่ไฉนใจยียวน วันวันล้วนแต่เรียนเพียรวิชา
แสนกดดันอั้นอัดหวาดหวั่นจิต เสียจริตซึมเศร้าเหงาหนักหนา
เราขี้เกียจเขาขยันต่างกันมา แต่เวลาก็ฟูมฟักรักษาใจ
ขึ้นมอห้าหาญกล้ามาหมายมุ่ง ไม่คิดยุ่งมัวเหงาเฝ้าเหลวไหล
จึงเปลี่ยนแปลงตนเองมิเกรงใคร เป็นบ้าใบ้อย่างที่เห็นเช่นทุกวัน
เริ่มพูดมากปากไม่หยุดสุดสงสัย เกิดอะไรกับเราเฝ้าหวาดหวั่น
ไปเต้นแร้งเต้นกาเฮฮากัน ร้องเพลงลั่นลั่นอยู่มิรู้อาย
ขึ้นมอหกทับสิบสามตามใจคิด มองชีวิตที่ผ่านมาน่าใจหาย
สิบเจ็ดฝนสิบเจ็ดหนาวเร้าใจกาย ให้มุ่งหมายมีจิตคิดการควร
เป็นผู้ใหญ่ได้แล้วแก้วใจจ๋า กระซิบมาบอกตนเองตนเองหวน
วาดชีวิตเมื่อเติบใหญ่ไม่เรรวน แต่ก็ชวนเศร้าจิตผิดพลาดไป
มีความรักรักมาว่าเข้มแข็ง คิดว่าแกร่งแรงเร้าให้ไม่หวั่นไหว
รุ่มแรงรักรักแล้วดั่งแก้วใจ ท้ายฤทัยพังทรุดหยุดทลาย
ต้องจากเพื่อนมอปลายกลายพลัดพราก จำใจจากจรสุขทุกข์เหลือหลาย
หยดน้ำตาตกช้ำอ้ำอึ้งอาย ยามสุดท้ายแทนสัญญาก่อนลากัน
เรียนปีหนึ่ง “มอบางแสน” แน่นหนักจิต ทำชีวิตเซซัดพัดหุนหัน
หลงระเริงวัตถุพัลวัน ไม่นานนั้นจึงคิดได้หายระเริง
ในดวงจิตคิดพลันถึงวันเก่า ณ วันนี้แสนเศร้าเหงาว้างเวิ้ง
จิตร้อนรุ่มเร้ารุมดั่งสุมเพลิง จิตเถิดเทิงเปิงเปิดเกิดทดแทน
ศึกษาศาสตร์เด็ดขาดมาดหวือหวา ทุกวิชาเว้นภาษาเก่งเหลือแสน
ครูพันธุ์ใหม่เรียนห้าปีนี้สุดแค้น เลือกเรียนแผนปกติตามคำชวน
เรียนปีหนึ่งซึ้งใจได้บานเบิก เอิกเกริกฮาเฮเราเสสรวล
ใบหน้าใสผมสวยพลิ้วผิวเนื้อนวล ทุกสิ่งล้วนสดใสใจเบิกบาน
พบคนดีคนหนึ่งซึ้งดวงจิต เก็บไปคิดเพ้อเจ้อเผลอฟุ้งซ่าน
เหมือนแอบมองเครื่องบินลิ้นลนลาน ไม่มีสิทธิ์คิดการณ์ให้บานปลาย
ขึ้นปีสองต้องสุดช้ำระกำโศก พบพานโรคเครียดอยู่มิรู้หาย
รายงานทุกวิชามามากมาย เราแทบตายวิชาเอกเสกสรรมา
ทั้งวิเคราะห์อีกเขียนจักต้องเสร็จ เบ็ดเตล็ดมากมายหลายสิ่งหนา
เคยสุขสันต์กลับสลดทดแทนมา สองแขนขาอ่อนแรงแห้งเหี่ยวพลัน
เรียนปีสามความลำบากนี้สุดโลก ทั้งความโศกเศร้าจิตคิดไหวหวั่น
ทดลองสอนปอหนึ่งชำนาญกัน ทับสองนั้นเด็กเก่งมิได้ท้อ
ขึ้นปีสี่นี้ไม่ดีอย่างที่คิด ภารกิจงานเก่าเราสานต่อ
ต้องรีบทำอย่าเกียจคร้านงานใหม่รอ ใจจดจ่อเรียนรักไปพร้อมกัน
ขอเทิดเบญจม์-บูรพ์ไว้ในดวงจิต สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักพิทักษ์สันต์
ขอแหล่งเบญจม์-บูรพ์อยู่คู่คืนวัน เป็นมิ่งขวัญปัญญาสถาพร
นิราศนี้มีคนใดสนใจอ่าน จะแบบผ่านหรืออ่านจริงสิ่งที่สอน
มีผิดพลาดพลั้งใดใจอ้อนวอน ทุกบทตอนติติงเป็นสิ่งดี
หากถูกใจใครชมภิรมย์ปลื้ม จะไม่ลืมตัวตนกุศลศรี
เพราะน้องน้องหาไว้จึ่งได้มี ยกคุณนี้ติดตรึงถึงทั่วกัน
หากใครชมคำแรกแจกให้พ่อ หากชมต่อคำสองต้องแม่ฉัน
หากว่าชมเกินความสามจำนรร ความดีนั้นยกให้ครูทุกผู้เอยฯ
ไก่อ่อน