พี่ซุปเค (Sup'K Center) โชว์ 3 คอร์สยอดฮิตเด็กฟิตเลข !
สมาชิกเลขที่45049 | 20 พ.ค. 55
3K views

 
สวัสดีจ้าชาว Dek-D.com พี่แนน สุดแสนจะดีใจที่วันนี้ได้คุยกับติวเตอร์
ขวัญใจน้องๆ โดยเฉพาะใครที่อยากฟิตวิชาเลข ต้องห้ามพลาด !! เพราะ
วันนี้ พี่แนน ได้คุยกับติวเตอร์สุดแนว ที่น้องๆ การันตีว่าเด็ดสุดๆ นั่นก็คือ
พี่ซุปเค แห่ง สถาบัน Sup’K Center นั่นเองค่ะ
 
 
 
วันนี้ พี่ซุป ก็จะมาโชว์ 3 คอร์สฮิต ที่เรียกว่า เปิดกี่รอบก็เต็มทุกรอบ และแนวข้อสอบแอดฯ ที่ฟันคะแนนชัวร์ และแนวการสอนที่ได้สาระเต็มๆ ทั้งจากเนื้อหาวิชา และธรรมมะ สอนใจไม่ลืม!!
 
 
 
 
พี่แนน : ถ้าอยากฟิตเลขให้เกรดเจ๋งๆ หรือ
คะแนนเยอะ 3 คอร์สฮิตที่พี่ซุปแนะนำเลย 
มีคอร์สไหนบ้างคะ
 
พี่ซุป : 3 คอร์สที่เป็นที่นิยม คอร์สแรก คือ คอร์ส
ปกติหรือคอร์สมาตรฐาน ก็จะสอนตามสโลกแกน
เลย คือ สอนสนุก และครบทุกเนื้อหา ครบครัน
ทันสมัย และประยุกต์ใช้ได้จริง ที่นี่จำนวนม้วน
ที่เรียนจะเยอะหน่อย แต่จะได้เนื้อหาครบถ้วน 
ไม่ต้องไปเรียนคอร์สย่อยนู่นนี่อีก เนื้อหาก็ตามที่
โรงเรียนสอน และสอบเลย เพียงแต่โจทย์ของเรา
จะลึกกว่า
 
มาเรียนซุปเคเหมือนมาเรียนเลขใหม่หมดเลยครับ เราจะไม่ได้ดูว่าโรงเรียนสอนอะไรมา แต่เราจะสอนให้ลึกซึ้งถึงคณิตศาสตร์ ความเข้าใจที่มาที่
ไป และการประยุกต์ใช้ สามารถนำไปใช้ในข้อสอบ
กลางภาค ปลายภาคได้ เพราะฉะนั้นคอร์สนี้คือ
สอนทุกอย่างที่เป็นคณิตศาสตร์ที่จะต้องใช้ใน
การสอบ
 
 
 
คอร์สสอง ก็จะเป็นสอบเข้า (ม.4,แอดมิชชั่น) มีจุดเด่นที่ว่า เราสรุปเนื้อหาให้ครบหมด แล้วก็มีเทคนิคและรวบรวมสูตรลับ และก็เทคนิคคิดเร็ว เทคนิคทำเร็ว โจทย์เยอะ พิสูจน์จะน้อยหน่อย เพราะพิสูจน์จะอยู่ในคอร์สมาตรฐานมากกว่า
 
ส่วน 3 เป็นคอร์สแข่งขัน จะเน้นในตะลุยโจทย์ยากๆ และเนื้อหาที่ไม่มีการสอนในตำราทั่วไป เป็นเนื้อหาสำหรับไป
สอนโอลิมปิกหรือคณิตศาสตร์ โจทย์ยากบางอย่างของ ม.ต้น บางที ม.ปลาย ยังมองแล้วยังรู้สึกยากเลยครับ
 
 
 
พี่แนน : แล้วในส่วนของวิชาเลขใน O-NET กับ PAT1
พี่ซุปเน้นอะไรบ้างคะ?
 
พี่ซุป : เลข O-NET เป็นคอร์สของคณิตศาสตร์พื้นฐาน ซึ่งเนื้อหา
ก็จะต่างกันโดยสิ้นเชิงกับ PAT1  เพราะจะค่อนข้างง่าย เราก็จะมีการรวบรวมข้อสอบ O-NET แล้วก็มาแยกเป็นแนวโจทย์เลยว่า ถ้าเจอแบบนี้ ต้องทำแบบนี้ และสรุปใจความสำคัญ สรุปแนวโจทย์ที่สำคัญที่จะออกข้อสอบ 

ส่วน PAT1
 ก็จะเป็นการเน้นข้อสอบ PAT1 , ข้อสอบตรง,และ กสพท. เพราะเด็กที่เป็นศิษย์เก่าที่นี่ เค้าจะจำแนวข้อสอบได้ เพราะข้อสอบพวกนี้เค้าจะไม่เผยแพร่ และรวบรวมมา และจัดหมวดหมู่ และมีการสรุปให้มีการกระชับ และมีการตะลุยโจทย์ ตะลุยเทคนิค มันจะเป็นโจทย์ชุดใหม่ที่จะไม่ซ้ำกับคอร์สปกติ
 
 
 
พี่แนน : อยากให้พี่ซุปวิเคราะห์แนวข้อสอบทั้ง O-NET และ 
PAT1 ค่ะว่า น้องๆ ต้องเตรียมตรงไหนบ้างถึงจะได้คะแนนชัวร์
 
พี่ซุป : สำหรับ PAT1 สิ่งที่น่าจะออกก็เป็น เรื่องความสัมพันธ์ของ
ฟังก์ชั่นเชิงข้อมูล กำหนดการเชิงเส้น ภาคตัดกรวย อันนี้น่าจะออกแล้วได้คะแนนชัวร์ แต่เนื่องจากข้อสอบยังไม่เสถียร บางปีก็ออกเรื่องลำดับอนุกรมเกือบ 10 ข้อ แล้วยากทุกข้อ อย่างล่าสุด PAT1 มี.ค 54 ออกความน่าจะเป็นยากมาก ใครเตรียมตรงนี้ไปก็อาจจะเสียเวลามากหน่อย เพราะกว่าจะทำได้ก็ใช้เวลานาน ส่วนเรื่องสถิติ ก็ออกเยอะ และง่าย ไม่ค่อยประยุกต์มากนัก แล้วถ้าอยากได้คะแนนจริงๆ ก็ต้องหมั่นทำข้อสอบเก่าครับ
 
ส่วน O-NET เรื่องที่ออกยังค่อนข้างง่ายทุกเรื่อง ทั้งเรื่องเซท จำนวน
จริง เรื่องสถิติ โดยเฉพาะลำดับอนุกรมจะง่ายมาก ดังนั้นถ้ามีเวลาก็เตรียมเก็บคะแนนตรงนี้ไว้ดีกว่า แต่พี่ขอแนะนำว่าเตรียมให้พร้อมทุกบทดีกว่า เพราะการเก็งก็แล้วแต่ใจคนออกด้วย ^_^
 
พี่แนน : สไตล์การสอนแบบพี่ซุปเป็นยังไงคะ ถึงได้เป็นขวัญใจ
น้องๆ ขนาดนี้?
 
พี่ซุป : ลักษณะสไตล์การสอน จะสอนปูพื้นฐานให้ใหม่ทั้งหมดตั้งแต่พื้นฐานถึงประยุกต์แบบก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น แล้วตบท้ายด้วยโจทย์ข้อสอบที่เคยออกจริงมาแล้ว แล้วก็มี Mathmolody คือ แต่งเพลงคณิตศาสตร์ เพราะสูตรมีเป็น 100 สูตร ขนาดพิสูจน์แล้วก็ยังจำไม่ได้ แต่อย่าง Mathmolody ของพี่ ขนาดเด็กอยู่ปี 4 กลับมาแนะแนวรุ่นน้องยังจำได้เลย พี่ก็เลยบอกว่าอันนี้เป็นทางเลือก ใครไม่ชอบก็ทำโจทย์ซ้ำๆ ก็จำได้เหมือนกัน
 
แล้วพี่ก็จะมีการสอนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข แทรกด้วยธรรมมะ 
เช่น จะดูสภาวะจิตน้องว่า ตอนนี้เริ่มเครียดแล้ว ก็จะแทรกความสุข
ไป พอเด็กมีความสุขก็จะกลับมาเรียนรู้ บางทีน้องก็ท้า ให้เต้นเพลง 
Girls' Generation พี่ก็เต้นไป 555 แล้วก็กลับมาเรียนต่อ ก็อะไรก็ได้ที่
ทำให้เด็กเค้ามีความสุขก็ทำไปครับ
 
 
 
 
พี่แนน : แล้วพี่ซุปสอนโดยแทรกธรรมะยังไงบ้างคะ?
 
พี่ซุป : อย่างพี่สอนไปประมาณชั่วโมงนึง อาจจะพักแล้วถามน้องว่า 
ระหว่างเลขกับธรรมะ เอาอะไร เด็กเค้าจะเลือกธรรมะ บางคนก็จะ
เล่าเรื่องเกี่ยวกับอกหักรักคุด หรือบางทีถูกพ่อแม่ว่ามา บางคนเล่น
เกมส์อยู่ ถูกพ่อแม่กระชากปลั๊ก ก็จะถามว่าทำไง ไปโต้ตอบเลย 
หรือเสียบปลั๊กกลับคืน อันนี้ก็ไม่ควร เพราะเป็นการไปแหย่อำนาจมืด
555 ทุกคนก็จะบอกว่าพ่อแม่บังคับใจ พี่ก็จะบอกว่า ใจของน้องเค้าลำเอียง คือเราเห็นแต่ตอนที่พ่อแม่กระชากปลั๊ก เพราะโกรธ แต่เราไม่เห็นว่าเค้าหวังดี พี่ก็จะบอกว่า พี่ไม่ได้สอนให้น้องมองพ่อแม่ในแง่ดีนะ แต่พี่จะสอนว่า ให้น้องมองพ่อแม่ด้วยความเป็นจริง ว่าจริงๆ 
เค้าห่วงเรา ถ้าเค้าไม่ห่วงเค้าไม่ทำ
 
เด็กส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกฝึกให้มองโลกตามความเป็นจริง ก็เลย กลายเป็นว่าพ่อแม่บังคับ ไปมองแต่ตอนเค้าบังคับใจ แบบนี้มันก็ไม่แฟร์ ถ้าเรามองด้วยใจเป็นกลาง มองตามความเป็นจริง เราจะเห็นเลยว่า พ่อแม่ทำดีกับเรามากๆๆ ตั้งแต่ขับรถไปส่ง ทำกับข้าวให้เรา ให้เงินค่าขนม ดูแล้เราทุกอย่าง แต่เค้าขัดเรานิดเดียว มันเป็นความขัดใจที่น้อยมาก ถ้าเรามองได้แบบนี้เราจะไม่โกรธพ่อแม่เลย
 
 
 
พี่แนน : เห็นว่านอกจากจะสอนแล้ว พี่ซุปยังมีการทำกิจกรรมเพื่อสังคมด้วย?
 
พี่ซุป : ตอนนี้พี่ก็มีเขียนหนังสือธรรมมะด้วย ชื่อว่า “ข้างในนั้น” แล้วก็มีเด็กๆ มาช่วยๆ กันวาดให้ ก็แจกจ่ายเป็น
ธรรมทาน (หรือเข้าไปดูได้ที่ www.sup-k-center.com ) นอกจากนี้ก็มี ทำค่ายธรรมะ โดยทาง สพฐ. ของ จ.นครสวรรค์ เป็นผู้เชิญ ซึ่งส่วนใหญ่ 100% ก็จะชอบค่ายธรรมมะ เพราะค่ายของพี่เน้นในเรื่องความสุขในการเรียนรู้ครับ
 
 
 
พี่แนน : (ชักอยากไปค่ายกับพี่ซุปซะแล้ว!!) ว้า..มาถึงตอนสุดท้าย อยากให้พี่ซุปฝากอะไรถึง
ชาว Dek-D.com สักนิดค่ะ
 
พี่ซุป : พี่ก็อยากฝากน้องๆ ชาว Dek-D.com ทุกคนเลยว่า หน้าที่ของเราคือการเรียน เพราะฉะนั้นพี่อยากให้น้องๆ ได้รู้จักหน้าที่ของตน ถ้าน้องๆ รู้หน้าที่ของตัวเองแล้ว พ่อแม่ก็จะภูมิใจ ตัวเองก็มีอนาคตที่ดี
 
อีกอย่างหนึ่งที่พี่อยากจะฝากไว้ก็คือ เวลาที่น้องไปยื่นเกรดเข้าไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
ต่างประเทศ เค้าจะดูที่เกรด น้องๆ อาจจะเป็นคนที่ทำกิจกรรม ทำอะไรเพื่อสังคมเยอะ แต่ถ้าเกรด
น้องไม่ถึงเค้าไม่เอา เพราะทางมหาวิทยาลัยต่างประเทศเค้าบอกว่าคุณมีหน้าที่เรียน ถ้าเกิดคุณไป
แบ่งเวลาจนกระทั่งหน้าที่เรียนเสีย เกิดรับเข้าไปเรียน คุณอาจจะไปทำอย่างอื่นจนหน้าที่คุณเสียได้
 
ต่อมาคือ ค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ และแบ่งปันให้คนอื่น คือเรามีความสามารถอะไรก็ไปแบ่งปันให้ 
คนอื่น และอย่างสุดท้าย ชาตินี้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว สำหรับศาสนาอื่นก็ให้ทำตามที่ศาสดาสอน ก็จะสอนในสิ่งที่ นำไปสู่ความร่มเย็น และความดี และสำหรับชาวพุทธ พี่อยากให้น้องๆ ได้หันกลับมาเจริญสติได้เรียน รู้ตัวเอง เรียนรู้กายและใจตัวเอง ถ้าเจอความทุกข์ พระพุทธเจ้าสอนเลยว่า ทุกข์ควรเรียนรู้ จนเราเห็น ว่า ความทุกข์ทั้งหลายมันเป็นของชั่วคราว ไม่มีอะไรน่ากลัว มันมาแล้วเดี๋ยวก็ไป ความสุขก็ชั่วคราว เรียนรู้ตัวเอง จนเข้าใจตัวเอง แล้วเราจะเข้าใจคนอื่น แล้วเราจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มอิ่ม บริบูรณ์ เข้าใจตนเอง เข้าใจคนอื่น ยอมรับความจริงได้ แล้วชีวิตก็จะมีความสุขครับ
 
 
 
โอ้โห พี่แนน คุยกับพี่ซุป นอกจากจะได้รู้เรื่องวิชาการ เทคนิคต่างๆ แล้ว ยังได้ข้อคิดดีๆ 
จากธรรมะกลับไปคิดได้อีกเอยะเลยค่ะ จากที่มองธรรมะเป็นเรื่องน่าเบื่อ สงสัยพี่แนนต้อง
เปลี่ยนมุมมองใหม่แล้วหล่ะค่ะ อิอิ
 

Share this