“เด็กเก่ง” เป็นคำที่ไม่ว่าพ่อแม่คนไหนก็อยากให้ลูกตัวเองเป็นทั้งนั้น (แต่แม่พี่มิ้นท์ไม่เป็นนะ ฮ่าๆ) โดนเข้าไปแบบนี้พี่มิ้นท์เลยมีคำแนะนำดีๆ ให้น้องๆ ได้เก่งทุกวิชา เอาให้แม่อึ้ง! ไปเลยล่ะ ซึ่งเคล็ดลับที่จะบอกน้องๆ ในวันนี้เรียกได้ว่าเบสิคสุดๆ แต่สามารถทำให้น้องๆ เป็นเด็กเทพ! ขึ้นมาได้ นั่นก็คือ เราจะต้องรู้วิธีเรียนในแต่ละวิชา นั่นเองค่ะ ไปดูกันดีกว่า ว่าเราจะเรียนแต่ละวิชายังไงดี
1.คณิตศาสตร์ ว่ากันว่าวิชานี้เป็นวิชาที่บั่นทอนจิตใจมากที่สุด แต่ก่อนอื่นเราก็ต้องรู้ก่อนว่าจุดมุ่งหมายของวิชานี้คืออะไร ก็คือ การแก้ปัญหา การแก้โจทย์ วันๆ ก็เจอแต่โจทย์แล้วก็แก้ๆ มันเข้าไปดังนั้นวิธีเรียนวิชานี้น้องๆ ต้องเน้นเรียนให้เกิดความเข้าใจซะก่อน ว่าผลของแต่ละบรรทัดมาได้ยังไง ใช้สูตรอะไร อย่างไร (แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเรียน - -!!) แล้วก็ฝึกทำแบบฝึกหัดเยอะๆ ยิ่งเยอะยิ่งดีกับตัวเอง เพราะนั่นจะเป็นตัวทดสอบความเข้าใจของน้องๆ ได้ดีที่สุด
2.วิทยาศาสตร์ วิชาในหมวดนี้แบ่งย่อยอีกหลายอย่าง ทั้งเคมี ฟิสิกส์ ชีวะ จุดร่วมของวิธีเรียนในวิชานี้ก็จะคล้ายๆ กัน คือ ต้องหมั่นท่องจำ อย่างเคมีก็ต้องท่องจำตารางธาตุ แม้สุดท้ายจะท่องได้เฉพาะหน้าห้องสอบยังไงก็ต้องท่อง(หนีไม่พ้นจริงๆ) หรือฟิสิกส์ ต้องท่องจำสูตรโหดๆ ประยุกต์ใช้ คำนวณให้เป็น ส่วนชีวะก็มาเป็นประโยค เป็นย่อหน้าให้ท่องจำกัน แต่ว่าสิ่งที่สำคัญนอกเหนือจากการท่องจำแล้วก็คือ ต้องเข้าใจ มันอยู่ดี >< เพราะฉะนั้นพี่มิ้นท์สรุปง่ายๆ เลยว่าเคล็ดลับของวิชานี้ คือ การท่องจำและทำความเข้าใจ ซึ่งต้องทำควบคู่กันไป
3. ภาษาไทย ดูเป็นวิชาที่ไม่มีอะไรมาก แต่กลับเป็นวิชาที่ฆ่าคนมานักต่อนัก เพราะเข้าใจว่าเป็นวิชาที่ง่าย อ่านเองก็ได้ แต่ความจริงแล้ววิชานี้มีรายละเอียดเยอะ ทั้งหลักภาษา วรรณคดี วรรณกรรม ไวยากรณ์ ฯลฯ บางคนยังไม่รู้เลยว่า อักษรสูง กลาง ต่ำ มันคืออะไร วิธีเรียนในวิชานี้ ก่อนอื่นน้องๆ ต้องเลิกดูถูกว่าเป็นภาษาของตัวเองแล้วมันจะง่าย จากนั้นก็ค่อยๆ ใส่ใจ ต้องทำความเข้าใจและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันให้ถูกต้อง สะกดคำให้ถูก ใช้คำให้ถูกความหมาย เพราะวิชาภาษาต้องรู้จักนำมาประยุกต์ใช้จริง สำหรับในการเรียนวรรณคดีก็ต้องสนุกไปกับเรื่องที่อ่าน สร้างจินตนาการของตัวเอง และมองให้เห็นความเป็นเหตุเป็นผลของเนื้อหา พี่มิ้นท์ว่าวรรณคดีไทยไม่เคยตกยุค แถมบางเรื่องยังสนุกกว่าละครหลังข่าวซะอีกนะ
4. ภาษาอังกฤษ สำหรับคนที่เคยไปเมืองนอกอาจจะมองว่าวิชานี้ง่ายมั่กมากก! แต่สำหรับคนส่วนใหญ่เป็นวิชาอันตรายอีกวิชานึง เวลาเรียนกับอาจารย์ฝรั่งเหมือนตกนรกทั้งเป็น! เพราะภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศอื่นๆ ไม่ใช่ภาษาของเรา ดังนั้นจะเก่งวิชานี้ได้น้องๆ ก็ต้องมีทักษะ และการฝึกทักษะก็คือวิธีเรียนที่ได้ผลที่สุดสำหรับวิชานี้ ฝึกพูด ฝึกอ่าน ฝึกเขียน ยิ่งสมัยนี้มีสื่อตั้งหลายอย่าง ยิ่งเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆ เลย เช่น ฝึกทักษะการฟังจากเพลงสากล ดูหนัง ฯลฯ ฝึกอ่านข่าวต่างประเทศจากเว็บไซต์ก็ได้ ส่วนการพูด การเขียน น้องๆ ก็อาจจะพูดกับเพื่อนๆ ในบางโอกาสก็ได้หรือพยายามคิดให้เป็นภาษาอังกฤษตลอดเวลา เอาให้ง่ายที่สุดแชทใน msn หรือ BB แทนที่จะใช้ภาษาคาราโอเกะ ก็ใช้ภาษาอังกฤษจริงๆ ซะเลยสิ จะได้ชินๆ ถ้าทำได้จริงน้องๆ จะรู้ตัวเองเลยว่าภาษาอังกฤษของตัวเองดีขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เก่งไวยากรณ์ แต่เชื่อมั้ยว่าน้องๆ จะใช้ภาษาอังกฤษได้ดีกว่าคนที่แม่นไวยากรณ์เป๊ะซะอีก เพราะเราเรียนรู้ภาษาที่ใช้จริงๆ ในเมืองของเค้านั่นเอง
5.สังคมศึกษา เป็นวิชาที่เนื้อหาเยอะจริงๆ และก็กว้างมาก จริงๆ แล้วน้องหลายคนเลือกที่จะท่องจำวิชานี้ ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะก็มีหลายส่วนที่ต้องท่องจำ แต่พี่มิ้นท์ว่าเอาวิธีท่องจำไปใช้ในการสอบแล้วกัน แต่วิธีในการเรียนวิชานี้ พี่มิ้นท์แนะนำให้น้องๆ สนุกไปกับมัน ฟังคุณครูสอนก็อย่าให้พลาดเลยทีเดียวเชียว เพราะวิชาสังคมเป็นเรื่องสนุก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องใกล้ตัว ทั้งสังคมปัจจุบันและประวัติศาสตร์ ฟังและมองให้เป็นเรื่องราวที่ประติดประต่อกัน ยิ่งจินตนาการว่าเราอยู่ในเหตุการณ์ได้ด้วยยิ่งดี จะเป็นฮิตเล่อร์ หรือเหมาเจ๋อตุง ก็ว่ากันไป ความสนุกจะทำให้เราสนใจ แล้วก็ต้องติดตามข่าวตามทีวีบ้าง(รู้นะว่ามัวแต่ดูละครหลังข่าว><) จะได้ทันข่าว แค่นี้ก็เทพสังคมได้ง่ายๆ แล้ว