ย้อนประวัติศาสตร์อเมริกา 10 ปี ก่อการร้ายเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ !!
สมาชิกเลขที่45049 | 20 พ.ค. 55
2.1K views

  ม่น่าเชื่อว่าจากวันนั้นถึงวันนี้ เวลาจะผ่านมาถึง 10 ปีแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่พี่มิ้นท์ผมเท่าติ่งหู ผูกคอซองเรียน มีข่าวโศกนาฏกรรมช็อคโลก ที่ขวัญเสียไปทั่วอเมริกา นั่นก็คือ การก่อการร้ายตึกแฝดที่สูงที่สุดของโลก อย่าง ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และตึกเพนตากอน  ไม่รู้ว่าในช่วงนั้นน้องๆ จำความกันได้รึยัง เอ๊ะ! เกิดกันรึยังหว่า ฮ่าๆ เพราะฉะนั้นวันนี้พี่มิ้นท์ขอนำเสนอเรื่องราวสำคัญที่โลกต้องจารึก ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ที่น้องๆ ควรรู้ไว้(เป็นความรู้รอบตัว) พร้อมรำลึกถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น ใน "วินาศกรรมตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์"

 

เด็กดีดอทคอม :: ย้อนประวัติศาสตร์อเมริกา 10 ปี ก่อการร้ายเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ !!

 

11 กันยายน 2544 เกิดอะไรขึ้น!!
            วันเกิดเหตุ ในประเทศไทยเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังจะเข้านอน เพื่อเตรียมตัวไปทำงานในวันรุ่งขึ้น แต่หารู้ไม่ว่าอีกมุมหนึ่งของโลก กำลังเกิดเหตุการณ์ที่โลกต้องจดจำ เมื่อเครื่องบินโดยสารที่บรรทุกทั้งคนและน้ำมันมาเต็มเครื่องลำหนึ่งพุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1 เข้าอย่างจัง บริเวณชั้นที่ 90-95 เวลาประมาณ08.45 น. ซึ่งชาวอเมริกันเริ่มทำงานกันแล้ว เสียงระเบิด และแรงสั่นไหว เกิดขึ้นสนั่น พร้อมทั้งเปลวเพลิงที่ถาโถมทั่วเกาะแมนฮัตตันแทบจะทันทีที่เครื่องบินโหม่งเข้ากับตึก น้ำมันที่บรรทุกมาเต็มยิ่งเป็นเชื้อเพลิงในการทำลายล้างอย่างดีเยี่ยม เอกสาร เฟอร์นิเจอร์ กระจก สารพัดสิ่งของที่สามารถหล่นมาได้ ก็กระเด็นกระดอน หล่นลงตามแรงโน้มถ่วง ต่อสายตาชาวอเมริกันที่อยู่โดยรอบ เอาจริงๆ ตอนนั้นชาวอเมริกันก็ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ได้แค่สันนิษฐานว่าเป็นอุบัติเหตุ!! 
            ภาพข่าวเหตุการณ์นี้ถูกนำเสนออย่างรวดเร็ว ทั้งสื่อและกล้องที่มีอยู่ทั่วเมือง หันไปเก็บภาพยังจุดหมายเดียวกัน คือ ตึกเวิลด์เทรด แต่ว่ายังไม่ทันได้หายตกใจกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ชาวอเมริกาต้องช็อคอีกรอบเมื่อเห็นเครื่องบินอีกลำนึงบินมาในทิศทางที่มุ่งเข้าที่เดิม ในระยะเวลาที่ห่างกันไม่ถึง 20 นาที 

 

 เด็กดีดอทคอม :: ย้อนประวัติศาสตร์อเมริกา 10 ปี ก่อการร้ายเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ !!

 

       และแล้ว...ก็พุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 2 ชั้น 75-90 สิ่งที่เกิดขึ้นได้ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก คนทั้งเมืองได้เห็นเหตุการณ์ครั้งที่ 2 จะจะ แบบไม่ใครคาดคิดมาก่อน ทุกอย่างรีเพล์กลับมาเหมือนเดิม มีเสียงระเบิดดังสนั่น ข้าวของเครื่องใช้ปลิวว่อนอยู่บนฟ้า และร่วงหล่นสู่ด้านล่าง บางคนรอดชีวิตจากอาคาร 1 แต่กลับโดนกระจก ปูน หรือสิ่งของที่หล่นลงมาเหมือนห่าฝนทับเสียชีวิตอย่างไม่มีทางหนีทีรอด แต่อีกหลาย ส่วนโดนเปลวเพลิงที่สูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียสครอกตายอยู่บนตึกอย่างเลี่ยงไม่ได้ ที่เลี่ยงได้ คือ โดดตึกเท่านั้น ซึ่งกล้องหลายตัวก็บันทึกภาพชาวอเมริกันกระโดดตึกหนีตายลงมาไว้ได้ แต่ท้ายที่สุด เมื่อลงถึงพื้น ก็พบจุดจบเหมือนกัน

          อีกไม่ถึงชั่วโมงต่อมา ตึกแฝดยักษ์ก็ถล่มลงมาราบเรียบทั้งสองตึก เป็นภาพที่คงติดตากันไปชั่วชีวิต คราวนี้ชาวอเมริกันเริ่มชัดเจนแล้วว่า เหตุการณ์ที่เกิดไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการวินาศกรรมอันน่าสะพรึงกลัวที่นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิตเกือบ 3,000 คน รวมถึงทรัพย์สินและความรู้สึกที่ประเมินค่าไม่ได้


 เครื่องบินที่เป็นเหยื่อในการโจมตีตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ไม่ได้มีแค่ 2 ลำ

 

 เด็กดีดอทคอม :: ย้อนประวัติศาสตร์อเมริกา 10 ปี ก่อการร้ายเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ !!

 


          ภาพข่าวที่น้องๆ เห็น จะมีเครื่องบินแค่สองลำที่ชนตึกเวิลด์เทรดทั้ง 2 ตึก เพราะเป็นภาาพทีเห็นชัดมากๆ แต่จริงที่น้องๆ ไม่รู้ ก็คือ มีเครื่องบินที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ถึง 4 ลำ 
          สองลำแรกคือลำที่พุ่งชนอาคารเวิลด์เทรด 1 และ 2 คือ โบอิ้ง 767 เที่ยวบินที่ 11 ของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ มุ่งหน้าจากสนามบินบอสตันจะไปยังลอสแองเจลลิส เช่นเดียวกับโบอิ้ง 767 เที่ยวบินที่ 175 ที่จะไปลอสแองเจลลิสเหมือนกัน สุดท้ายถูกจี้และบังคับให้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเครื่องทั้งสองนี้เราเห็นผลทางหน้าจอทีวีชัดเจน ซึ่งก็เกิดความเสียหายมากพออยู่แล้ว แต่ยังมีเหตุการณ์หลังจากนั้น คือ มีเครื่องบินลำที่สามพุ่งชนตึกเพนตากอน ที่ตั้งของกระทรวงกลาโหม ของสหรัฐฯ ที่อยู่ในวอชิงตัน ดีซี ในเวลาไล่เลี่ยกัน และเกิดเพลิงลุกท่วมอีกเช่นกัน
         แล้วลำที่สี่มาจากไหน? หลังจากที่เครื่องบินโดยสารเที่ยวบินที่ 77 ชนเพนตากอนแล้ว ไม่นานนักก็มีรายงานข่าวเครื่องบินโดยสารของยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 93 ตกอยู่ที่รัฐเพนซิลวาเนีย โดยคาดกันว่าน่าจะเป็นลำที่เตรียมชนตึกทำเนียบขาว แต่การจี้ไม่เป็นผลเพราะนักบินขัดขืน บินขับออกนอกเส้นทาง จึงเกิดเหตุเครื่องบินตกดังกล่าว ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าถ้าไม่เกิดเหตุเครื่องบินลำนี้ตก อาจจะเห็นทำเนียบขาวมีสภาพไม่ต่างจากทั้ง 3 ตึกที่โดนก่อการร้ายไปก่อนหน้านี้

 

ปีที่เวิลด์เทรดถล่ม ตรงกับปีครบรอบ 60 ปี การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์
         จะบังเอิญหรือตั้งใจก็ช่าง แต่คิดว่าความจริงในเรื่องนี้หลายคนไม่ทราบ ย้อนไปเมื่อ 60 ปีที่แล้ว เมื่อ 7 ธันวาคม 2484 อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ หมู่เกาะฮาวาย ของสหรัฐอเมริกา ถูกกองทัพญี่ปุ่นโจมตีอย่างหนัก ก่อให้เกิดความเสียหายที่ยิ่งใหญ่ระดับชาติ และไม่น่าเชื่อว่าในปีครบรอบ 60 ปี กลับเกิดเหตุน่าสลดในลักษณะของการถูกโจมตีอีกครั้ง เชื่อว่าสหรัฐอเมริกาน่าจะรู้สึกบอบช้ำจากเหตุร้ายที่เกิดขึ้น เพราะแต่ละครั้งก็นับเป็นประวัติศาสตร์ระดับโลก

       สำหรับสาเหตุของการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์น่าจะมาจากการที่ญี่ปุ่นถูกคว่ำบาตรทางการค้าจากสหรัฐฯ ทั้งน้ำมัน เหล็ก หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในสงคราม เป็นหนทางนึงที่สหรัฐฯ ถ่วงเวลาญี่ปุ่นไว้ และอีกข้อเสนอคือการให้ถอนฐานทัพออกจากประเทศอินโดนีเซีย ญี่ปุ่นไม่พอใจจึงเลือกที่จะโจมตี โดยเล็งเป้าหมายไปยังฐานทัพที่อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ ซึ่งเป็นฐานทัพสำคัญทางการทหาร ส่วนเหตุการณ์โจมตีอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์นั้น คาดว่าน่าจะเกิดจากสหรัฐฯ สนับสนุนอิสลาเอลให้โจมตีปาเลสไตน์และยังคว่ำบาตรประเทศอิรักเป็นเวลาหลายปี จึงแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นนั่นเอง

 

เด็กดีดอทคอม :: ย้อนประวัติศาสตร์อเมริกา 10 ปี ก่อการร้ายเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ !!

ตอนตึกถล่ม ฝุ่นเต็มเมืองเลยค่ะ

        ใครจะไปคิดว่าวันนึงจะเกิดเหตุสุดเศร้ากับเมืองที่ระบบรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างอเมริกาได้ นับว่ากลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ โดยมีแกนนำอย่างบินลาดิน ได้ทำการท้าทายอำนาจของอเมริกาอย่างแท้จริง เพราะเป้าหมายที่จู่โจ่มต่างก็เป็นสถานที่สำคัญและมีความหมายของอเมริกา โดยเฉพาะตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ที่เป็นศูนย์กลางมีหน่วยงานต่างๆ อยู่เพียบ รวมไปถึงตึกเพนตากอนที่อยู่ในวอชิงตันดีซี ซึ่งเป็นตึกที่ตั้งของกระทรวงกลาโหม ก็เสียหายยับเยิน หนีตายกันโกลาหล ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น คือ ภาพของประธานาธิบดีมาแสดงความโกรธเกรี้ยวและคิดจะล้างแค้นกลุ่มก่อการร้ายสากลกลุ่มนี้ เพราะเสมือนเป็น
การเหยียบย่ำศักดิ์ศรีกันแบบสุดๆ
         หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน น่าจะจำกันได้กับเหตุการณ์ที่สหรัฐฯ เกณฑ์กำลังพลทั้งอากาศ น้ำ พื้นดินเข้าโจมตีเมืองคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน ด้วยขีปนาวุธนานาชนิด เพราะรัฐบาลตาลีบันไม่ยอมส่งตัวบินลาดินให้ สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริสุทธิ์อีกครั้ง

 

เด็กดีดอทคอม :: ย้อนประวัติศาสตร์อเมริกา 10 ปี ก่อการร้ายเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ !!

หลังเกิดเหตุ เกาะแมนฮัตตันถูกปกคลุมไปด้วยหมอก ควันและฝุ่นสีขาว


         และล่าสุดทางสหรัฐอเมริกาก็จับตายบินลาดินได้สำเร็จ จากการจู่โจมของทหารสหรัฐฯ ซึ่งโอบาม่า ได้พูดไว้ด้วยว่า การตายของบินลาดิน ถือเป็นความสำเร็จของสหรัฐอเมริกา เพราะเค้าอยู่เบื้องหลังการโจมตีอเมริกาหลายครั้ง แต่สุดท้ายแล้ว พี่มิ้นท์ว่าความสำเร็จที่เดิมพันด้วยชีวิตมนุษย์ความเสียหายของบ้านเมือง ไม่มีทางสงบสุขลงง่ายๆ หรอกค่ะ ดังนั้นไม่น่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี "ความสงบสุข" ก็ยังคงเป็นสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปยังโหยหาอยู่
        สุดท้ายขอร่วมน้อมรำลึกและขอไว้อาลัยให้กับผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของสังคมระดับประเทศ จากการถูกก่อการร้ายตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 และขอให้โลกกลับมาสงบสุขอีกครั้ง

Share this