::กลิ่นอับชื้น::
กลิ่นนี้ พี่มิ้นท์บรรยายไม่ถูกเลยค่ะว่ามันเป็นยังไง แต่คิดว่าน้องๆ เข้าใจกลิ่นอับชื้นได้ดี ถ้าไม่เข้าใจ ลองซักผ้าแล้วตากในห้องน้ำดู วันเดียวรู้ผล กลิ่นอับมันไม่ได้เหม็นฉุนอะไรมาก แต่ทุกครั้งที่ได้กลิ่นจะรู้สึกอึดอัด เหมือนหายใจได้ไม่เต็มที่ เพราะอากาศมันไม่สดชื่นนั่นเอง
กลิ่นอับชื้นมักจะมาพร้อมห้องแอร์ค่ะ เพราะอากาศถ่ายเทไม่สะดวก หรือตามห้องที่มีพรม หรือผ้าม่านเยอะๆ อันนี้ต้องดูแลความสะอาดกันบ่อยๆ หรือ หาสเปรย์ดับกลิ่น ใช้เครื่องฟอกอากาศจัดการบ้าง ถึงเราจะทนอยู่ได้ แต่เชื่อเถอะว่า มันรบกวนสมาธิตอนเราอ่านหนังสือแน่ๆ
:: กลิ่นของกิน ::
บางทีกลิ่นไม่ต้องมา แต่แค่นึกถึงจิตใจก็วอกแวกแล้ว กลิ่นของกิน ทำให้เราเสียสมาธิเพราะว่า จะทำให้เราท้องร้องจ๊อกๆ ขึ้นมาได้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วคนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยฝืนมันหรอก ได้กลิ่นทีไร จินตนาการไปแล้วว่า นี่กลิ่นกะเพราไก่ เฮ้ยนี่กลิ่นโรตี อู้ยย! หิว...
ชั่ว 10 วินาทีที่เรานึกถึงกลิ่นอาหารตรงหน้า ก็แสดงว่าเราเสียสมาธิไป 10 วินาทีแล้ว แล้วกว่าจะกระชากสมาธิกลับมาได้อีก ก็หลายนาที เห็นมั้ย.. ของกินมีแสนยานุภาพทำลายล้างสมาธิสู๊งสูง ว่าแล้วก็อย่าไปอ่านหนังสือใกล้ห้องครัวในบ้าน รวมทั้งอย่าใกล้ห้องครัวบ้านคนอื่นด้วย กลิ่นมาโชยมาได้น่ะ มาดูกันว่าของกินประเภทไหนที่รบกวนสมาธิได้บ้าง
- อาหารคาว มักจะเป็นอาหารที่มีเครื่องเทศ หรือสมุนไพร เครื่องปรุงที่กลิ่นแรงๆ เช่น ผัดกะเพรา เมนูผัดพริกต่างๆ ที่ชวนจามไปสามบ้านแปดบ้าน ผัดซีอิ๊ว ไก่ทอด ไก่ย่าง ส้มตำปลาร้า ซี๊ดดดดดดดด ><!! หรือกลิ่นอาหารที่เพิ่งเปิดฝาหม้อใหม่ๆ น้ำลายไหลเยอะกว่าตอนนอนอีก
- ผลไม้ จริงๆ ผลไม้จะรบกวนสมาธิด้วยภาพมากกว่าด้วยกลิ่น แต่ก็มีบางอย่าง ที่กลิ่นแรงจริงๆ เช่น ส้ม ทุเรียน ขนุน ส้มโอ กล้วยหอม ฯลฯ ได้กลิ่นปุ๊บ มีวิ่งร้อยเมตรไปกินเหมือนกัน
:: กลิ่นสารเคมี ::
กลิ่นสารเคมี ไม่ได้รบกวนทางด้านจิตใจเหมือนกลิ่นที่แล้ว แต่จะยิงตรงไปรบกวนสมองเลย เพราะเป็นกลิ่นที่ทรมานจมูกมาก ถ้าได้กลิ่นมากๆ นอกจากจะรบกวนสมาธิแล้ว ยังทำลายสมอง ทำให้ปวดศีรษะ เวียนหัว จะอ้วก และทำลายระบบทางเดินหายใจด้วย ก็ขึ้นชื่อว่าสารเคมี มันเป็นโทษอยู่แล้วนี่นา กลิ่นสารเคมีที่อาจจะเจอได้ที่บ้าน เช่น
- กลิ่นสี ที่เกิดจากเพิ่งทาบ้านเสร็จ หรือบ้านอื่นก็ตาม มันแสบจมูกม๊ากมาก และไม่มีทีท่าว่าจะหายไปง่ายๆ ด้วย ดังนั้นย้ายที่อ่านดีกว่า
- กลิ่นทินเนอร์ เป็นส่วนประกอบในสีทาบ้านเหมือนกัน แต่ก็มีผสมในอีกหลายๆ อย่าง เช่น แลกเกอร์ กาว ฯลฯ ถ้าใครได้กลิ่นนี้แล้วทรมาน ก็รีบหาที่อ่านหนังสือใหม่โดยเร็วก่อนที่จะติด เพราะทินเนอร์นี่ถือเป็นสารเสพติดด้วย
- กลิ่นควันต่างๆ โดยเฉพาะควันจากรถยนต์ มีทั้งคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนนอกไซด์ เป็นก๊าซพิษทั้งนั้น ได้กลิ่นเยอะๆ แล้วอ่อนเพลีย อึดอัด อ่านหนังสือไม่รู้เรื่องแล้วยังสะสมพิษในร่างกายอีกด้วย
- กลิ่นยากันยุง เป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้ามทีเดียว พวกยากันยุงไม่ว่าจะฉีดหรือจุด มีสารเคมีที่ใช้ฆ่าแมลงทั้งนั้น เพราะฉะนั้น อย่าจุดยากันยุงตอนอ่านหนังสือทั้งคืน เป็นอันตรายได้ อาจลองเปลี่ยนวิธี เช่น ใช้น้ำมันสกัดมาทาที่ตัวเราแทน หรือฉีดยากันยุงทิ้งไว้ซักพักแล้วค่อยกลับมาอ่าน ไม่งั้นก็ย้ายที่อ่านโลด
:: กลิ่นตัว ::
เคยได้กลิ่นตัวคนอื่นมั้ยคะ พี่มิ้นท์ได้กลิ่นบ่อยมาก เวลาขึ้นรถเมล์เบียดๆ ตอนเย็นๆ สูดเข้าไปเต็มที่ ทั้งกลิ่นตัว กลิ่นเต่า เอิ่ม..(ทำหน้ามึน) แต่กลิ่นตัวที่ว่านี้ พี่มิ้นท์อยากให้มองที่ตัวเองนี่
แหละค่ะ หลายครั้งที่น้องๆ จะกลับมาอ่านหนังสือหลังเลิกเรียน สภาพร่างกายที่ผ่านมาทั้งวัน เหงื่อก็มี กลิ่นก็มี เหม็นไม่พอ ยังทำให้เรารู้สึกเพลียด้วย เพื่อความสดชื่น ออกไปอาบน้ำซักรอบแล้วค่อยกลับมาอ่านก็ยังไม่สาย มีประสิทธิภาพกว่าเยอะ
ตามหลักของสมองแล้ว ออกซิเจนเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการเลี้ยงสมอง ถ้าร่างกายรับออกซิเจนเข้าไปเพียงพอ เราก็จะสดชื่น แจ่มใส มีสมาธิ เรียนรู้อะไรก็เข้าใจไปหมด ซึ่งถ้าในห้องเรามีกลิ่นที่ว่านี้เต็มไปหมด ออกซิเจนที่เรารับก็จะน้อยลง สมาธิจะขาดหาย สุดท้าย อาจเบลอๆ แล้วถ้าอ่านหนังสือตอนสมองไม่พร้อม มันจะได้ประโยชน์อะไรล่ะคะ??