หญิงสาวรายหนึ่งมาพบหมอด้วยอาการใข้รุมๆ เธอเล่าให้ฟังว่า เป็นอย่างนี้ 2 -3 วันแล้ว กินยาลดไข้ก็ไม่หายแถมมีอาการแสบขัดตอนปัสสาวะเพิ่มมาอีกคุณคิดว่าเธอเป็นโรคอะไร
เห็นอาการของคนไข้แล้ว หมอก็พอจะบอกสาเหตุการเจ็บป่วยของเธอได้ แต่ถ้าให้เฉลยตอนนี้คงไม่สนุก เอาเป็นว่าค่อยอ่านไปพร้อมกันดีกว่า
คนไข้รายนี้เป็นหญิงสาววัยทำงาน อายุอานามไม่มาก มีอาการไข้ต่ำร่วมกับปัสสาวะบ่อยและขัด จากการชักประวัติพบว่า เธอคนนี้ชอบอั้นปัสสาวะ ซึ่งเป็นกันมากในหมู่คนทำงานที่ห่วงงานมากจนไม่ยอมลุกไปปัสสาวะ เธอบอกว่า หลังจากอั้นปัสสาวะมานานก้อคยมีอาการแบบนี้มาก่อนบ้างแล้ว คือทั้งมีไข้และปัสสาวะขัดแต่เดิมไม่เคยมาหาหมอ เพราะคิดว่าดื่มน้ำเยอะๆ แล้วกินยาลดไข้ก็หายแต่คราวนี้ทำไมไม่หาย จึงยอมมาหาหมอ
หลังจากนำตัวอย่างปัสสาวะของคนไข้ไปปั่นและย้ม้ชื้อตรวจหาเชี้ยแบคทีเรียและปริมาณเม้ดเลือดขาว ก้พบว่าเธอติดเชี้อแบททีเรียในกระเพราะปัสสาวะจริงๆ ตามคาด และโรคที่เธอเป็นก็คือ กระเพราะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis) โชคดีที่มี๓มิต้านทานสูงและมาพบหมอทันเวลา เพราะหากมาช้ากว่านี้อาจจะเกิดการติดเชี้อลามไปถึงกรวยไตทำให้ไตอักเสบ หรือแพร่เชี้ยเข้ากระแสเลือดได้ กลายเป็นติดเชี้ยไปทั่วตัว อันตรายมาก ท้ายสุดแล้วเคสนี้ก็จบด้วยที่การให้ยาปฏิชีวานะเข้าไปฆ่าเชี้อแบคทีเรียอั้นปัสสาวะ เพราะคราวหน้าอาจเสี่ยงติดเชี้อหนักกว่าเดิมได้
โรคกระเพราะปัสสาวะอักเสบนอกจากจะเป็นโรคฮิตของคนทำงานยังเป็นโรคฮิตของผู้หญิงทุกวัยอีกด้วย โดยเฉพาะวันหนุ่มสาวหรือคนที่กังวลเรื่องความสะอาดมากเกินไปจนไปกล้าที่จะเข้าห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งความเป็นจริงแล้วโอกาศติดเชี้ยโรคด้วยสภาพนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เมื่อเทียบกับเชี้อโรคในปัสสาวะของเรา ที่ยิ่งอั้นไว้นานเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น
หากเราวาดกราฟแสดงอาการปวดปัสสาวะของผู้หญิง จะพบว่ากราฟที่ได้เป็นทรงระฆังคว่ำ คือเมื่อมีน้ำอยู่ในกระเพราะปัสสาวะราว 300 ซีซี กราฟจะเริ่มขึ้น หมายความว่าเป็นเวลาที่เราเริ่มปวดปัสสาวะแต่พออั้นไว้จนถึง 500 ซีซี จะเริ่มทนไม่ไหว ต้องไปเข้าห้องน้ำ นี่คือจุดพีคของกราฟ ทั้งหมดนี้กินเวลาราว 3 – 4 ชั่วโมง คนที่ไม่ยอมเข้าห้องน่ำเมื่อั้นไว้นานๆ กระเพราะปัสสาวะจะยืดตัวออกจนเริ่มรู้สึกหายปวด เส้นกราฟจะต่ำลง อาการอาจหายไป แต่ยังควมีน้ำปัสสาวะอยู่ หากอั้นปัสสาวะเช่นนี้ประจำ กระเพราะปัสสาวะจะไม่บีบตัวตามปกติ ทำให้ปัสสาวะลำบาก เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชี้อโรคจนกลายเป็นโรคกระเพราะปัสสาวะอักเสบได้ และหากทิ้งไว้ เมื่อเชี้อโรคลามไปสู่ไตซึ่งทำหน้าที่ส่งน้ำหล่อเลี้ยงกระเพราะปัสสาวะแล้ว จะส่งผลใหกรวยไตอักเสบ ระบบขับถ่วยของเสียในร่างกายจะเริ่มรวน หากปล่อยทิ้งไว้นานกว่านั้น เมื่อเชี้อโรคลามทั่วร่างกายหรือติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ป่วยอาจมีอาการซ็อก เพราะเชี้อแบคทีเรียเหล่านี้เป็นตัวสร้างสารเอนโดท็อกซิน ส่งผลให้ความดันต่ำจนขาดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญต่างๆ ในแต่ละปีมีคนไข้จำนวนไม่น้อยที่ต้องจบชีวิตลงภายหลังซ็อกจากการติดเชี้อ
โรคนี้หากเป็นไม่มากและรีบมาพบหมอก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทั้งนี้ผู้ป่วยต้องมีวินัยในตัวเอง ดื่มน้ำให้มากจนเป็นนิสัย ทั้งนี้ผู้ป่วยต้องเลิกอั้นปัสสาวะ ส่วนการงดดื่มน่ำเพื่อป้องกันการปวดปัสสาวะนั้นเป็นเรื่องที่เข้าในผิด เพราะร่างกายก็ยังคงขับปัสสาวะออกมาอยู่ดี ดังนั้นหากคุณมีอาการปัสสวะแสบขัด ปัสสาวะเป็นเลือดหรือปัสสาวะบ่อยผิดปกติ อาจเป็นเครื่องหมายบ่งชี้ว่ากำลังเผชิญหน้ากับโรคกระเพราะปัสสาวะอักเสบอยู่ก็ได้ ควรรีบปรึกษาแทย์เพื่อตราจรักษาต่อไป
Nice to know
มีคนจำนวนหนึ่งที่บังเอิญมีเชี้อแบคทีเรียอยู่ในกระเพราะปัสสาวะมากกว่าปกติ (asymptomatic bacteriuria) คนเหล่านี้แม่จะอั้นปัสสาวะเพียงไม่นานก็จะเกิดการอักเสบติดเชี้ยได้ง่าย ส่วนที่สาเหตุนั้นไม่แน่ชัดแต่ไม่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ใครที่มีอาการปัสสาวะขัดบ่อยๆหรือเป็นโรคกระเพราะปัสสาวะอักเสบบ่อย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาชนิดของแบคทีเรีย สำหรับเป็นแนวทางในการเลือกใช้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะในการรักษาต่อไป
ผู้เขียน : รศ. นพ. สุวิทย์ บุญยะเวชชีวิน ที่มา : วารสาร HEALTH&CUISINE