เคี้ยวนาน ช่วยให้ฉลาดมากขึ้นนะ
สมาชิกเลขที่45049 | 18 พ.ค. 55
1K views


การเคี้ยวมาก จะช่วยให้สมองปราดเปรียวมากขึ้น


นักการเมืองชาวอังกฤษท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า "อาหาร 1 คำ ต้องเคี้ยวอย่างน้อย 3-12 ที ไม่ว่าอาหารนั้นจะอ่อนแค่ไหนก็ตาม ถ้าคุณไม่มีความอดทนขั้นนี้ ก็อย่าไปหวังว่าจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้" 

มีอาจารย์ท่านหนึ่ง ป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหารตั้งแต่เด็ก สร้างความกลัดกลุ้มทรมานแก่เขามาก หลังจากเขาทดลองเคี้ยวอาหารคำละ 100 ทีแล้ว ปรากฏว่า เขาหายจากโรคกระเพาะอาหารในเวลา 1 สัปดาห์ 

การเคี้ยวอาหารมิเพียงเกี่ยวกับสุขภาพเท่านั้น ยังเกี่ยวพันกับสมรรถนะของสมองอย่างแนบแน่นด้วย การเคี้ยวอาหารจะกระตุ้นให้ต่อมน้ำลาย (SALIVARY GLAND) และต่อมใต้หู (PAROTID GLAND) หลั่งฮอร์โมนออกมา 

ขณะเดียวกัน อาการเคี้ยวซึ่งทำให้ฟันบนกับฟันล่างกระทบกันก็จะกระตุ้นสมองใหญ่ด้วย การกระตุ้นนี้จะทำให้สมองใหญ่ปราดเปรียวยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มพลังแห่งการวินิจฉัย การขบคิดและสมาธิ 

ข้างล่างนี้คือผลที่ได้จากการทดลอง จำนวนทีที่เคี้ยวอาหารสำหรับประกอบการพิจารณา ผู้ที่สนใจจะทดลองดูก็ได้ ผลที่ได้จากการเคี้ยวอาหาร 


การเคี้ยวอาหาร 30 ที 

ผลที่ได้จากการกินอาหารแต่ละคำ ควรเคี้ยวอย่างน้อยที่สุด 30 ที จะช่วยให้เหงือกแข็งแรง และช่วยรักษาอาการขี้หงุดหงิดจิตใจไม่สงบ 


การเคี้ยวอาหาร 50 ที

จะช่วยลดการกลัดกลุ้มเจ้าอารมณ์ อย่างน้อยที่สุดช่วยให้ลืมเรื่องไม่น่าอภิรมย์ได้ในเวลากินอาหาร นอกจากนี้ ยังลดความอ้วนได้ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำที่เกินจำเป็นถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย 


การเคี้ยวอาหาร 100 ที

ช่วยให้หนักแน่นมากขึ้น สามารถวินิจฉัยและจัดการปัญหาต่างๆ อย่างสงบเยือกเย็น กินน้อยแต่ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้มาก นอกจากนี้ยังช่วยลดการอยากอาหารประเภทเนื้อ หรือระคายต่อร่างกายได้ด้วย 


การเคี้ยวอาหาร 200 ที

ถ้ายืนหยัดเคี้ยว 200 ที ต่ออาหาร 1 คำได้ทุกมื้อแล้ว จะหายจากโรคกระเพาะเรื้อรัง และโรคกระเพาะอาหารเป็นแผลอย่างรวดเร็ว 

ขณะเดียวกันก็ช่วยให้คาดการณ์และวินิจฉัยปัญหาต่างๆ ได้แม่นยำมากขึ้น 

Share this