ช้อปกันมากๆ ระวังตกอยู่ในอาการ
สมาชิกเลขที่45049 | 18 พ.ค. 55
1.9K views

     สำหรับขาช้อปทั้งหลาย เคยสงสัยบ้างรึเปล่าว่าทำไปถึงไม่สามารถยับยั้งห้ามใจตัวเองได้เวลาที่ไปช้อปปิ้ง โดยเฉพาะเวลาที่มีสินค้าเซลล์ความอยากในการช้อปปิ้งจะทวีคูณขึ้นเป็นอีกหลายเท่าตัว และเมื่อควบคุมตัวเองไม่ได้ เราก็จะซื้อๆๆๆๆ และซื้อจนกระเป๋าแห้ง ... ทีนี้ล่ะค่ะสภาวะกระเป๋าแบนแฟนทิ้งก็มาเยือนชีวิตกันเลยทีเดียว
 
     คนไหนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมการช้อปปิ้งของตัวเองได้แล้วล่ะก็ ขอให้รู้ไว้เลยนะคะว่า น้องๆ กำลังตกอยู่ในอาการ "บ้าซื้อ" หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่าภาวะ "Oniomania" ค่ะ

เด็กดีดอทคอม :: ช้อปกันมากๆ ระวังตกอยู่ในอาการ

     อาการของภาวะ Oniomania นั้นผู้ที่ตกอยู่ในภาวะนี้จะมีอาการ ที่ช้อปแบบไม่บันยะบันยัง ซื้อของที่ตัวเองไม่ต้องการ บางครั้งเหมือนขาดสติ และถ้าหากไม่ได้ไปช้อปปิ้งจะมีอาการทุรนทุราย เครียด ซึ่งส่วนสาเหตุของโรคนี้ก็คือเป็นกลไกธรรมชาติของมนุษย์ที่ป้องกันโรคซึมเศร้า ซึ่งมนุษย์มีกลไกตอบสนองของการซึมเศร้า โดยการโหยหาของใหม่ๆ และแตกต่างจากเดิม โดยตอบสนองจากการได้เห็นของใหม่ๆ ในห้าง หรือเมื่อเวลามีโฆษณาของใหม่ๆ ทางทีวี และเพื่อมาบรรเทาอาการซึมเศร้านั้นๆ เลยซื้อแหลกแต่เมื่อเอาของกลับมาบ้าน ก็จะมีความรู้สึกผิด เมื่อได้ซื้อมาแล้วเกิดเสียดาย กระตุ้นความซึมเศร้า และวนไปวนมาเป็นแบบนี้อยู่เรื่อยๆ

     แต่ก็อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ อาการนี้ไม่ใช่อาการทางจิตแต่อย่างใดค่ะ แต่เป็นภาวะที่เกิดขึ้นจากแรงกระตุ้นภายนอก เช่น เห็นป้ายสินค้าลดราคา เห็นแหล่งช้อปปิ้งเปิดใหม่ หรือการอยากมีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เหมือนคนอื่น รวมไปถึงความสุขที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้ซื้อของด้วย 

     สำหรับการจัดการกับภาวะ Oniomania สามารถจัดการได้โดยหลังง่ายๆ คือ

     1.จัดเก็บของใช้เป็นประจำ ... วิธีนี้จะช่วยให้เรารู้ว่าของที่เราใช้อยู่ในมีปริมาณเท่าไหร่ ใกล้จะหมดหรือยัง หรือของใช้อยู่ในสภาพใดและจำเป็นต้องซื้อใหม่หรือยัง 
     2. จัดเก็บของใช้ต่างๆ ให้เป็นหมวดหมู่ ... เพื่อช่วยทำให้เรารู้ว่า เสื้อผ้าหรือของใช้ในแต่ละหมวดหมู่นั้นมีอะไรบ้าง และรู้ว่ามีชิ้นไหนที่ใช้ได้อยู่หรือไม่ เพื่อลดจำนวนการซื้อลง และนำไปสู่การบริจาคต่อไปค่ะ 
     3. จดรายการของใช้ทุกครั้งก่อนไปซื้อ ... ในการซื้อของแต่ละครั้งนั้น ควรจดรายการสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ เพื่อตัดรายการสินค้าที่ไม่จำเป็นออกไปค่ะ
     4. จำกัดวงเงิน ... เพื่อให้ลดปริมาณการซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่จำเป็นลง ซึ่งก็จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้นค่ะ
     5. นึกถึงความจน ... ให้นึกไว้เสมอว่าถ้าเราใช้เงินตามใจโดยไม่จำกัดวงเงิน อาจทำให้ใช้เงินไปโดยเปล่าประโยชน์ และนำมาซึ่งการเป็นหนี้สินได้ ดังนั้นก่อนจะซื้ออะไรควรจะคิดให้ดีๆ ค่ะ

เด็กดีดอทคอม :: ช้อปกันมากๆ ระวังตกอยู่ในอาการ

     ถ้าจัดการกับภาวะ Oniomania แล้วทีนี้เราก็มาดูกันบ้างดีกว่าค่ะว่าสำหรับนักช้อปแล้ว มีหลักการช้อปยังไงบ้างไม่ให้เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์

     1. ถ้าไปเจอของที่ถูกใจ แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะซื้อดีหรือเปล่า ให้ทิ้งระยะเวลาไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อพิจารณาก่อนว่าควรจะซื้อดีหรือไม่ และซื้อมาแล้วใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ถ้าหากคิดดูแล้วจำเป็นจริงๆ ซื้อมาใช้แล้วได้ประโยชน์ก็ตัดสินใจซื้อได้เลยค่ะ
     2. ก่อนจะซื้อสินค้าควรเปรียบเที่ยวราคาสินค้าจากหลายๆ ร้าน เพื่อให้ได้สินค้าราคาถูกค่ะ
     3. ก่อนซื้อของแต่ละชิ้นให้คิดให้รอบคอบก่อนว่า สิ่งของที่เรามีอยู่แล้วนั้นยังสามารถใช้งานได้หรือไม่ หรือเรามีความจำเป็นต้องซื้อของชิ้นใหม่รึเปล่า ถ้ายังไม่จำเป็นมาก ก็ยังไม่ควรจะซื้อค่ะ
     4. ควรหาเพื่อนที่ไว้ใจได้และมีทักษะในการเลือกซื้อของ เพื่อช่วยในการตัดสินใจก่อนซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย (สิ่งที่สำคัญคือเพื่อนที่ไว้ใจต้องไม่ใช่เพื่อนบ้าช้อปนะคะ ไม่ใช่ไปช่วยให้ช้อปล่ะ!)
     5. ถ้าหากตัดสินใจซื้อของมาแล้ว จะต้องยอมรับให้ได้ว่าในเดือนนี้เรามีรายจ่ายเพิ่ม ทำให้ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันลง
 

     ... ถ้าใครรู้ตัดว่ากำลังตกอยู่ในภาวะแบบที่เล่าให้ฟังอยู่ล่ะก็ รีบบำบัดด่วนเลยนะคะ ก่อนจะกระเป๋าจะแฟบโดยที่ไม่รู้ตัวนะคะ ^^ 

Share this