รื่องย่อ
เรื่องราวของ การใช้ชีวิตผู้คนในกรุงเอโดะ ในยุคสมัยที่มี ญี่ปุ่นมีการติดต่อสื่อสารกับชาวต่างชาติมากขึ้น แต่ขอโทษทีเถิด ชาวต่างชาติที่ว่านั้นมันกลับเป็น”ชาวสวรรค์” หรือ มนุษย์ต่างดาวซะงั้น เมื่อ20ปีก่อน ชาวสวรรค์จากอวกาศได้ออกคำสั่งริบยศถาบรรดาศักดิ์และยึดดาบไป ทำให้ยุคซามูไรที่รุ่งเรืองสุดขีดต้องเกิดการเสื่อมถอย บทบาทของซามูไรถูกลดลงตามไปด้วย แต่ในยุคนั้นยังมีผู้ที่ยึดมั่นในจิตวิญญาณซามูไรที่ตนเชื่ออยู่ เขาเป็นชายแปลกๆ นาม ซากาตะ กินโทกิ หนุ่มนักรับจ้างสารพัดสุดเพี้ยนเท่านั้นที่ยังจับดาบอยู่ แถมเขานั้น ก็มีสหายผู้ช่วยอย่าง ชินปาจิ หนุ่มแว่นธรรมดาๆ และ สาวน้อยจากเผ่ายาโตะ คางุระ ที่พร้อมจะสร้างความสนุกสนานวุ่นวายแทบทุกตอน
ตัวละคร
~~ก่อนอื่นเลย.. ร้านสารพัดรับจ้าง
ชื่อร้าน”กินจัง สารพัดรับจ้าง”ตั้งสำนักงานอยู่ที่ชั้นสอง บนร้านสแนคของคุณโอโทเซะ ปัจจุบันกำลังติดปัญหาค้างค่าเช่าอย่างแรง (ค้างค่าเช่ามา 6 เดือน)~~
ซากาตะ กินโทกิ
ชายหนุ่มผมสีเงินหยักศก ตัวเอกของเรื่องนี้ อดีตเป็นพวกขับไล่ต่างแดน(เป็นการปกป้องประเทศด้วยการผลักดันชาวสวรรค์ออกไป ) ดูเหมือนจะมีฝีมือดาบค่อนข้างดีทีเดียว ปัจจุบัน เขาทำงานเป็นนักรับจ้างสารพัด ชอบใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ซึ่งหากไม่ได้กินของหวานตามเวลาที่กำหนดจะอ่อนระโหยโรยแรง… และระดับน้ำตาลในเลือดบ่งบอกว่าอีกไม่นานคงได้เป็นโรคเบาหวาน(ชอบของหวานโดย เฉพาะ พาร์เฟ่ท์) งานอดิเรกคือ ขี่สเรา้ตเตอร์ ชอบอ่านจัมป์รายสัปดาห์ (ในฉบับภาษาไทยเปลี่ยนจากจัมป์เป็น C-Kids) พี่แกหัวแข็งสุดๆขนาดหัวโขกรถตำรวจแล้วยังไม่รู้สึกเจ็บ ใช้ดาบไม้เป็นอาวุธเพราะมีกฎห้ามพกดาบ
(พากย์ไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน)
ชิมุระ ชินปาจิ
ลูกเจ้าของโรงฝึกดาบที่ปิดตัวลง เพื่อเรียนรู้ถึงจิตวิญญาณซามูไรจึงมาทำงานเป็นลูกน้องกินโทกิที่ร้า้นสารพัดรับจ้างตอนนี้กำลังคิดผิดอย่างแรง เพราะทำงานมาตั้งนาน ไม่เคยได้รับค่าจ้างเลย เขาเป็นตัวละครจอมชง เบรคมุขโดยแท้ เพราะเอาแต่โวยวายตลอด แต่ไม่กล้าหือกับ โอทาเอะ พี่สาวหน้าหวานสุดเถื่อน นอกจากนี้เขายังเป็นหัวหน้ากลุ่มผู้พิทักษ์ เทราคาโตะ ซือ ไอด้อลคนโปรดของเขาด้วย (ร้องเพลงห่วยแตก)
(พากย์ไทยโดย ภคภูมิ ลิ้มมานะสถาพร)
คางุระ
อาหมวยหน้าตาน่ารัก ถึงจะตัวเล็กแต่ก็พลังช้าง เพราะเธอเป็นชนเผ่ายาโตะ เผ่านักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล พูดสำเนียงออกจีนๆ ลงท้ายด้วย น่อ มักถือร่มเวลาไปไหนมาไหนชอบกินบ๊วยแผ่น บ้าละคร และเธอก็เป็นตัวเสริมมุขคอยทำเรื่องป่วนๆคล้อยตามกินโทกิอยู่เนืองๆ เพื่อทำงานหาเงินช่วยครอบครัว เธอจึง(โชว์พาว)เข้าร่วมกลุ่มนักรับจ้างสารพัดด้วยคน ใช้ร่มเป็นอาวุธ
(พากย์ไทยโดย วิภาดา จตุยศพร)
ซาดะฮารุ
สุนัขที่คางุระเก็บได้ที่หน้าบ้าน เป็นอินุงามิ ขนาดพี่บิ๊ก คาดว่าเป็นสิ่งมีชีวิตล้ำค่ามาก โดยคางุระรักมันมาก มันจึงไม่ค่อยทำอะไรคางุระเท่าไหร่ แต่มันชอบงับหัวคนโดยเฉพาะกับกินโทกิ
~~กองกำลังชินเซ็นงุมิ
กลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลบาคุฟุ (ตำรวจพกดาบซามูไร) ~~
คอนโด้ อิซาโอะ
หัวหน้าชินเซ็นงุมิ ที่รูปร่างหน้าตาราวกับกอริลล่า ที่ดูยังไงไม่ค่อยมีมาดผู้นำเท่าไหร่ นิสัยขี้ตื๊อสุดๆและจะทุ่มสุดตัวในสิ่งที่ต้องการ โดยเฉพาะกับความรักที่มีต่อโอทาเอะ แต่ก็ถูกโอทาเอะสอยกลับเป็นประจำ และมักเป็นผู้รับเคราะห์เจ็บตัวก่อนใคร เป็นคนที่นำดาบของทุกคนคืนมาโดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือปกป้องสวรรค์
(พากย์ไทยโดย ภัทราวุฒิ สมุทรนาวี)
ฮิจิคาตะ โทชิโร่
รองหัวหน้าชินเซ็นงุมิสุดเท่ห์ ฉายา ท่านรองฯปีศาจ มีนิสัยเยือกเย็น เจ้าระเบียบ แต่ถ้าได้จับดาบจะบ้าบิ่นลุยไม่ยั้ง และเป็นคู่กัดคู่ปรับกับกินโทกิด้วย เคยเจอกับกินโทกิ 2 ครั้ง และแพ้ทั้ง 2 ครั้ง เขาเป็นคนที่บ้ามายองเนสเอามากๆ จนต้องพกมายองเนสมาเป็นเครื่องเคียงในการกินกับข้าวกลางวัน เมนูเด็ดของเขาคือ ฮิจิคาตะสเปเชี่ยล
(โอโคโนมิยากิใส่มายองเนสท่วมจานจนไม่เห็นโอโคโนมิยากิ -*-)
(พากย์ไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร)
โอคิตะ โซโกะ
สมาชิกหนุ่มหน้าใส เป็นนักดาบมือหนึ่งของชินเซ็นงุมิ ดูเหมือนเป็นคนร่าเริง นิสัยออกเด็กๆ แต่จริงๆแล้วคบไม่ได้ หมายตำแหน่งรองหัวหน้าอยู่ ลอบกัดฮิจิคาตะก็หลายครั้ง ฮิจิคาตะมักเรียกเขาว่า เจ้าชายแห่งดาวซาดิสม์ เขาเป็นคนที่เข้ากับกลุ่มนักรับจ้างสารพัดได้ดี โดยเรียกกินโทกิว่ารุ่นพี่ แต่เขามักจะกัดกับคางุระเป็นประจำ
(พากย์ไทยโดย ณฐพงษ์ เธียรสวัสดิ์กิจ)
ยามาซากิ ซางารุ
สปายประจำกลุ่มชินเซ็นงุมิ ชอบแอบไปซุ่มตีแบดมินตันบ่อยๆ(ตีกับใครก็ไม่รู้) ด้วยท่าทางที่จริงจังมาก และเป็นที่ระบายอารมณ์ของฮิจิคาตะก็ออกบ่อย ตัวฮาประจำซินเซ็นงุมิ ใช้ไม้แบตเป็นอาวุธ -*-
(พากย์ไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน)
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
สำหรับความนิยมของกินทามะในญี่ปุ่นนั้น ก็จัดว่าดีเลยทีเดียว นับตั้งแต่ลงในโชเน็นจัมป์ตั้งแต่ปี 2003 นั้น เรื่องนี้ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นนำไปทำเป็นการ์ตูนอนิเม ผลิตโดย Sunrise ออกฉายปี 2006 แถมผลการโหวต Anime Grand Prix ครั้งล่าสุด เรื่องนี้ก็อยู่สูงถึงอันดับ 5 ส่วนตัวละครหลักของเรื่องอย่าง กินโทกิ,โซโกะ และ คางุระ ก็ติด 1 ใน 10 อันดับตัวละครยอดนิยมทั้งฝ่ายชายและหญิง ซึ่งรวมไปถึงยอดขายของกินทามะเฉพาะเล่มหนึ่งนั้น ก็ขายได้ถึง 1 ล้านเล่มแล้ว
และด้วยความนิยมที่มีต่อกินทามะ ก็ทำให้บ้านเรา สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิคส์ตัดสินใจนำเรื่องนี้ไปตีพิมพ์ลงในรายสัปดาห์ C-Kids ก่อนจะออกรวมเล่มเล่มหนึ่งในปี พ.ศ. 2548 แต่ทว่ากระแสตอบรับของกินทามะที่มีต่อนักอ่านบ้านเราในตอนนั้น ค่อนข้างไม่ดีเอาซะเลย จึงเกิดกระแสต่อต้านการ์ตูนเรื่องนี้จากผู้อ่านบางกลุ่มในแง่ที่ว่า การ์ตูนเรื่องนี้ต้องการสื่ออะไรกันแน่ อ่านไม่รู้เรื่อง บางส่วนก็บอกว่า นอกจากลายเส้นจะไม่สวยแล้ว แถมมุขก็ฝืดสุดๆ แต่ก็ด้วยพัฒนาการของผู้แต่งรวมถึงพัฒนาการของผู้แปลการ์ตูนเรื่องนี้ในฉบับ ภาษาไทย ก็ทำให้ฟีดแบคของกินทามะในบ้านเรานั้นเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนพอที่จะกลบกระแสด้านลบไปได้บ้าง
ส่วน หนึ่งที่กินทามะนิยมมากในญี่ปุ่นนั้น หลักๆก็มาจากมุขตลกวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการนำประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น บุคคลที่มีตัวตนจริง มาเสียดสีล้อเลียน นอกจากนี้ ก็ยังเอามุขจากละครทีวี หรือ การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องอื่นๆมาล้อเลียนบ้าง ซึ่งสิ่งที่กล่าวมานั้นเป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นรู้จักคุ้นเคยกันดี จึงไม่แปลกใจเลยที่นักอ่านหลายคนในบ้านเรานั้นไม่เก็ตมุขกับเรื่องนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ห่างไกลจากคนไทยเรา แต่ถ้าหากใครที่มีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมาบ้าง , อ่านการ์ตูนมาหลายเรื่องหน่อย,หรือ คุ้นเคยกับเหล่าตัวละครหน้าตาย ที่ทำเรื่องเหลือเชื่อให้เกิดขึ้นได้ในเรื่องนั้น ก็คงจะฮาแบบสุดๆ อีกทั้งยังรวมไปถึงชื่อของตอนแต่ตอนที่ตั้งออกมาได้ยาว คม กวน จนอ่านแล้วรู้สึกฮา แถมพลางคิดในใจว่า ชื่อตอนนั้นมันเกี่ยวกับเนื้อเรื่องในตอนนั้นๆตรงไหน? แต่พออ่านๆไปก็จะพบว่า จริงๆมันก็เกี่ยวบ้างไม่มากก็น้อยนะแหละ(ลองไปสังเกตกันดีๆนะครับ) แต่อย่างน้อย มุขตลกและเนื้อเรื่องอันน่าเบื่อจากเล่มแรกนั้นก็มีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ จนได้แฟนๆการ์ตูนเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอีกพอควร ซึ่งรวมไปถึงการแปลฉบับภาษาไทยที่ขยันหยอดใส่มุข พลิกแพลง มากขึ้น (แว่วๆมาว่า คนแปลถึงกับศึกษาจากหนังพากย์ไทยโดยพันธมิตรกันเลย) จนได้อรรถรสมากขึ้น จึงพอจะมองข้ามช็อตงงๆไปได้บ้าง
และ อีกส่วนหนึ่งที่มีคนชื่นชอบ ก็มาจากคาแร็กเตอร์ของตัวละครในเรื่อง ที่”รั่ว”กันแทบทุกตัว ไม่ว่าเป็นคนเท่ห์ หล่อ สวย ขนาดไหน ก็ยังอุตส่าห์ติ๊งต๊องไปกับเขาด้วย และที่สำคัญ ตัวละครชายในเรื่องก็เท่ห์หลายคน ซึ่งไม่แปลกใจเลยที่สาวๆจะชอบอ่านเรื่องนี้มากกว่าผู้ชาย แถมบางคนก็เอาตัวละครหลักๆ อย่างเช่น กินโทกิ ฮิจิคาตะ มาแอบจิ้นY กันก็มี…….
เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเรื่อง ไม่ได้มีแค่ฉากตลกเท่านั้น ยังมีฉากแอ็คชั่นการต่อสู้และฉากซึ้งอีกด้วย โดยจุดเด่นอีกเรื่องหนึ่งที่เราไม่อาจมองข้ามได้ นั่นก็คือ คำคม ครับ ถ้าสังเกตุกันดีๆก็จะพบว่า เรื่องนี้ได้แฝงปรัชญาการดำเนินชีวิตของมนุษย์เอาไว้พอสมควร ดังเช่น
“การที่ลูกปกป้องสิ่งสำคัญที่สุดของพ่อเอาไว้ ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ ”
ซึ่งกล่าวโดย โอทาเอะ ในแง่ของการปกป้องโรงฝึกดาบร้างของครอบครัว หากจะตีความหมายกันจริง ก็จะหมายถึง การที่เราต้องปกป้องสิ่งของที่สำคัญของคนที่เรารัก แม้ว่าสิ่งของสิ่งนั้นอาจดูไร้ค่าก็ตามที ซึ่งใครที่ตามอ่านมาตลอดนั้นก็จะพบว่า เรื่องนี้จะเน้นการปกป้องสิ่งสำคัญของเรามากเป็นพิเศษ หรือจะเป็น คำคมจากบทเรียนที่หก ที่เป็นการย้อนอดีตตอนที่ กินโทกิ กับ คาซึระ กำลังรบกับชาวสวรรค์ ในสถานการณ์ที่พวกเขากำลังเสียเปรียบ คาซึระ ที่กำลังถอดใจ แต่กินโทกิกลับดาหน้าต่อสู้กับชาวสวรรค์ต่อไป แถมเขายังพูดประโยคที่กินใจอีก นั่นก็คือ
“ถ้ามีเวลาขนาดมาพร่ำพรรณนาเรื่องวาระสุดท้ายที่งดงามแล้วละก็ สู้มีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างสวยงามจนสิ้นอายุขัยไม่ดีกว่าเรอะ” เป็นต้น
เรียกได้ว่าบางคนอ่านแล้วถึงกับโดนกับคำคมจากเรื่องนี้ไปเลยก็มี