องค์กรแต่ละแห่งต่างก็มีวิธีที่จะแสดงให้เห็นถึง โครงสร้างในการบริหารงานแต่ละองค์กรนั้นๆยกตัวอย่างเช่น ถ้าองค์กรนั้นมี 5 สาขา และมีการใช้ชื่อสัญลักษณ์ สี ตัวอักษร องค์ประกอบกราฟฟิกออกแบบโลโก้ที่เหมือนกันทุกสาขา ก็จะสามารถสื่อสารให้บุคคลทั่วไปทราบว่าองค์กรนั้นมีลักษณะการบริหารงานแบบรวมอำนาจในส่วนกลาง แต่ถ้าองค์กรนั้นยินยอมให้แต่ละสาขาใช้ชื่อ สัญลักษณ์ สี พระองค์ประกอบกราฟิกที่แตกต่างกันออกไป ข้อใดแสดงให้เห็นถึงการกระจายอำนาจในการบริหารงานขององค์กรนั้น หรือที่รู้จักกันในชื่อว่าการบริหารงานแบบกระจายอำนาจเป็นต้น
อันที่จริงการสร้างระบบ ci เป็นสิ่งที่มีความซับซ้อนมาก เพราะอัตลักษณ์ไม่ใช่เพียงแค่สัญลักษณ์หรือองค์ประกอบกราฟิกที่มีความงดงามเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวพันกับเรื่องนโยบาย กลยุทธ์ รวมทั้งอารมณ์และความรู้สึกอีกด้วย การสร้างระบบ ci จึงจำเป็นต้องสอดคล้องกับแผนบริหารงานระยะยาวรวมถึงทิศทางและปัจจุบันและอนาคตอีกด้วยเพราะการสร้างระบบอัตลักษณ์ใดๆก็ตามต้องอาศัยระยะเวลาอย่างน้อย 3-5 ปีขึ้นไปในการสร้างความคุ้นเคยและการยอมรับจากบุคคลทั่วไปจึงสรุปได้ว่าระบบ cis ประสบความสำเร็จน้อยมากเพียงไร
การบริหารงานขององค์กรไม่ว่าจะเป็นแบบรวมด้านในส่วนกลางหรือแบบกระจายอำนาจต่างก็มีโครงสร้างขององค์กรที่ต่างกัน การสร้างระบบ CI ให้แก่องค์กรเหล่านั้นก็ย่อมเที่ยวต้องหาความแตกต่างกันด้วย ดังนั้นสิ่งที่เราควรจะนำมาพิจารณาลำดับแรกในการสร้างระบบ CI ก็คือโครงสร้างขององค์กรเอง
--------------------------------------------------------------
อ้างอิง
เนื้อหา: หนังสือการออกแบบอัตลักษณ์
ภาพประกอบ: by Marcelo Chagas from Pexels
LogoBigbang: https://goo.gl/maps/6LWzqKLxbJnbBovf7
https://www.bigbang.co.th/Logo-Design
--------------------------------------------------------------
โครงสร้างขององค์กรในการจัดระบบอัตลักษณ์
ดังได้กล่าวแล้วว่าการสร้างระบบ ci จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจเรื่องโครงสร้างขององค์กรเพื่อให้สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคฐานตั้งชื่อตัวอักษร สัญลักษณ์หรือองค์ประกอบกราฟิกอื่นๆได้ ซึ่งโครงสร้างขององค์กรโดยทั่วไปแล้วแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะดังนี้
1. บริษัทที่มีโครงสร้างเดี่ยว บริษัทประเภทนี้มันเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจเพียงประเภทเดียวโดยเมื่อมีการขยายกิจการจะขยายกิจการในรูปแบบของบริษัทสาขา และมีการบริหารงานแบบรวมอำนาจในส่วนกลางบริษัทประเภทนี้ได้แก่ บริษัทเทสโก้โลตัสจำกัด, บริษัทเอสแอนด์พีจำกัด เป็นต้น
2. บริษัทที่ขยายกิจการโดยการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ บริษัทส่วนใหญ่มากกว่าตัวในขณะนี้คือเป็นการตอบโต้ด้วยการลงทุนในสินค้าหรือบริการในธุรกิจใหม่ที่แตกต่างจากธุรกิจที่เคยทำมาก่อน การขยายกิจการแบบนี้อาจทำโดยซื้อกิจการซึ่งทำธุรกิจนั้นอยู่แล้วหรือการร่วมทุนทำธุรกิจหรือการตั้งธุรกิจใหม่ขึ้นมา ทั้งนี้เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทความผันผวนอย่างเกิดขึ้นการตลาดของธุรกิจเดิม การจัดโครงสร้างของบริษัทประเภทนี้อาจเป็นเพียงการบริหารบริษัทสาขาเพียง 2-3 แห่ง ไปจนถึงการวางระบบการบริหารสำหรับบริษัทสาขานับร้อยแห่งก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงจำเป็นต้องมีการวางระบบ ci ที่ดี ที่ดีเพื่อแสดงบริษัทสาขาเหล่านั้นและในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของบริษัทแม่ด้วยซึ่งบริษัทแม่มักจะให้แต่ละสาขามีสาระในการบริหารงานเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตนภายใต้ชื่อของบริษัทแม่ ส่วนการพิจารณาว่าควรใช้ความสำคัญกลับชื่อของบริษัทสาขา บริษัทที่มีโครงสร้างแบบนี้ส่วนใหญ่จะมีลักษณะดังต่อไปนี้
- เป็นบริษัทที่เติบโตขึ้นจากการนำผลกำไรไปลงทุนในธุรกิจแต่ละประเภทต่างก็มีชื่อวัฒนธรรมประเพณี ผู้ค้าปลีก คู่แข่งขันที่ต่างกันด้วย
- เป็นธุรกิจที่ประกอบด้วยหลายบริษัทซึ่งส่วนใหญ่จะดำเนินธุรกิจในรูปแบบที่แต่ละบริษัทเป็นผู้ดำเนินการเองทุกขั้นตอนตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการจัดจำหน่าย
- บริษัทแม่ต้องการสร้าง Logo ออกแบบภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทสาขาเลิกการเชื่อมโยงเข้ากับตราสินค้า หรือบริการของบริษัทแม่แต่ขณะเดียวกันก็มีความต้องการที่จะแสดงความเป็นบริษัทสาขาของตนให้ชัดเจนด้วย
- บริษัทมีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ที่บริษัทต้องการสร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าเหล่านั้นบริษัทเหล่านี้มักสร้างผลิตภัณฑ์จากรายการสินค้าออกสู่ตลาด ผู้บริโภค ผู้ค้าปลีก หรือแม้กระทั่งพนักงานของบริษัทเอง
- บริษัทดำเนินกิจการในประเทศต่างๆหลายประเทศซึ่งผลิตภัณฑ์และภาพลักษณ์ของบริษัทได้รับความเชื่อถือไม่ยอมรับแตกต่างกันตัวอย่างบริษัทประเภทนี้ได้แก่ คือเจริญโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่คนทั่วไปรับรู้ว่าเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจขายเนื้อสัตว์ แวะมาหาฝากมากกว่ากับรู้จักในด้านธุรกิจการสื่อสารเช่น True เป็นต้น
3. บริษัทรวมธุรกิจบริษัทประเภทนี้คือบริษัทหรือกลุ่มบริษัทที่มีลักษณะเพื่อประกอบธุรกิจหลายประเภทธุรกิจเหล่านั้นถ้ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ก็ได้ บริษัทประเภทนี้ต้องการสร้างอัตลักษณ์อันทรงพลังสำหรับตนเองแล้วแต่ขยายความเป็นอัตลักษณ์นี้ไปสู่บริษัทสาขาภายใต้ชื่อและอัตลักษณ์ของบริษัทเดียวกันบริษัทประเภทนี้ได้แก่บริษัทในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ปเป็นต้น