The best learning happens when we have fun! การเรียนรู้ที่ดีที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเราสนุกไปกับมัน การเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลงก็เช่นกัน เพียงแค่ต้องรู้เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ถ้าเรารู้แล้ว การเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลงจะไม่ใช่แค่ทำให้เราเก่งภาษา แต่ยังทำให้เราได้ฝึกการคิดวิเคราะห์ ตีความภาษาผ่านเพลง ฝึกสกิลการฟัง และที่สำคัญได้แรงบันดาลใจจากเนื้อเพลงที่ศิลปินตั้งใจเขียนอีกด้วย

STEP 1
เลือกเพลงที่ชอบ อัลบั้มที่ใช่

แนะนำให้เลือกเพลงที่เราชอบก่อน โดยไม่ต้องคิดว่ามันจะยากหรือว่าง่าย เพราะความชอบจะทำให้เราพยายามที่จะเรียนรู้มากกว่าเพลงทั่ว ๆ ไปที่คนอื่นแนะนำ ลองคิดดูว่าเราชอบฟังเพลงแนวไหน หรือล่าสุดฟังเพลงอะไรแล้วรู้สึกชอบเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น Classical, Jazz and blues, Folk, Pop, Rock, Dance, Rap หรือ Alternative ส่วนใครจะเลือกเพลงโปรดของคนที่เราแอบชอบมาเรียนก็ไม่ว่ากันนะ

STEP 2
เช็กเนื้อเพลงโล้ด

จดเนื้อเพลงที่ชอบลงในสมุดเพื่อเรียนรู้คำศัพท์

หลายเว็บจะแนะนำให้เข้า YouTube เพื่อเช็กเนื้อเพลง ซึ่งใครสะดวกก็ทำได้ แต่เราแนะนำให้ใช้เว็บหรือแอปที่โชว์เนื้อเพลงโดยเฉพาะ เพราะบางเว็บทำมาเพื่อให้เราเรียนผ่านเนื้อเพลงจริง ๆ รับรองว่าไม่ว่าจะเพลงไหนหาในเว็บนี้ 99% จะต้องเจอแน่นอน เสร็จแล้วใครสะดวกปริ้นหรือจดเนื้อเพลงออกมาก็แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคน

เว็บไซต์ยอดนิยมเรียนภาษาผ่านเนื้อเพลง

• Lyricstraining.com มีทั้งแอปและเว็บไซต์ แบบแอปจะชาเลนจ์เราด้วยการให้เติมคำศัพท์ที่ได้ยินในเพลงลงไปด้วย

• Lyricgaps.com มีโหมดสนุก ๆ ให้เล่นฝึกภาษา อย่างโหมด ‘Karaoke’ และ ‘Quiz’ ชาเลนจ์เราด้วยการเติมคำศัพท์

• Lyricstranslate.com เป็นเว็บไซต์ที่โด่งดังเรื่องการแปลเพลงไปเป็นภาษาอื่น เหมาะกับคนที่อยากลองแปลเพลงด้วยตัวเอง

• Genius.com เป็นเว็บโชว์เนื้อเพลงโดยเฉพาะ เราสามารถรู้ความหมายของเพลง เบื้องหลังของเพลงนั้น ๆ เว็บไซต์หน้าตาดี แถมยังมีชาร์ตเพลงอัปเดตใหม่ล่าสุดอีกต่างหาก

STEP 3
ฝึก Sentence Stress

เน้นท่อนที่เราอยากรู้ความหมายระหว่างที่ร้องไปด้วย
ในภาพคือเพลง Ocean eyes - Billie Eilish

ฝึกเน้นคำใดคำหนึ่งในประโยคให้เด่นกว่าคำอื่น ๆ เป็นการฝึกพูดให้สมองได้จำ ฝึกออกเสียงไปกับเพลง ฝึกสำเนียงไปกับเพลงโดยยังไม่ต้องเช็กว่าที่ถูกต้องออกเสียงยังไง แต่ให้ใช้ความอินและสัญชาตญาณของตัวเองไปก่อน ใช้อินเนอร์นักร้องให้เต็มที่ไปเลย การได้ร้องเพลงดัง ๆ ยังช่วยให้ร่างกายหลั่งสารฮอร์โมนแห่งความสุขและต่อต้านฮอร์โมนความเครียด ทำให้สามารถลดความดันโลหิตและลดความเจ็บปวดทางใจได้อีกด้วย

STEP 4
ศึกษาเนื้อเพลงอย่างมือโปร

ตัวอย่างคำว่า ‘assume’ ในเพลงเป็น adj.
แปลว่า เสแสร้ง,ซึ่งสันนิษฐานหรือเหมารวม

หลังจากที่เราร้องเพลงเพลิน ๆ หากมีประโยคไหนหรือคำศัพท์คำไหนที่เราสนใจให้จดโน้ตหรือไฮไลท์เอาไว้ อาจเป็นคำสแลงเด็ด ๆ ที่เราสะดุดตา หรือคำที่เราอยากรู้เป็นพิเศษ จุดประสงค์คือเพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งคำศัพท์ใหม่ ๆ ประโยคใหม่ ๆ แล้วค่อยไปแปลทีละคำ ว่าคำที่เราจดไว้หมายความว่าอะไร หรือใครขยันจะแปลทั้งเพลงเลยก็ดีจ้า

STEP 5
เอาไปใช้

การเรียนภาษาผ่านเพลงกับการเรียนภาษาในห้องเรียนเหมือนกันตรงที่ถ้าเราแค่เรียนและไม่เอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน เราก็จะ ‘ลืม’ การเรียนให้ได้ผลดีไม่ใช่แค่ต้องจำได้หรือจำไปสอบ แต่เป็นการรู้จักเอามาใช้ในชีวิตประจำวัน สมมติว่าเราได้คำศัพท์ใหม่ ๆ มา ให้ลองใช้ศัพท์คำนั้นเลยทันที โดยเราอาจะเอาไปตั้งสเตตัส หรือเอาไปพูดกับเพื่อน หรือใครสะดวกจะพูดคนเดียวก็ได้

แหล่งข้อมูล
How to learn English with songs and music

เว็บไซต์ปลูกเฟรนส์ดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป