หลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์ สุขภาพดีจากภายใน ออร่าสู่ภายนอก
Posted By Plook Magazine | 07 มี.ค. 62
9K views

Shares
0

การนำเข้าสินค้าสุขภาพในวันที่หลายคนหันหลังให้กับคำว่าดูแลสุขภาพ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งย้อนกลับไปในสมัยที่ไม่มีใครรู้จักคำว่าสินค้าออร์แกนิก ผู้ที่บุกเบิกอย่าง คุณหลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ HappyMate ไม่ต่างกับต้องเข็นครกขึ้นภูเขา แต่เธอบอกว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจทั้งนั้น เพราะก่อนหน้าที่เธอจะมาเป็นเจ้าของธุรกิจอาหารสุขภาพ เธอเองก็เคยพลาด ดูแลตัวเองแบบผิด ๆ มาก่อนตอนเป็นวัยรุ่น ก่อนจะค้นพบวิธีดูแลตัวเองที่ยั่งยืน นั่นก็คือ การดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอก

 

 

คุณหลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์

 

ในฐานะที่เป็นทั้งคนรักสุขภาพ และเป็นเจ้าของธุรกิจอาหารสุขภาพ คิดว่าวัยรุ่นดูแลตัวเองถูกทางไหม

วัยรุ่นหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้นนะ แต่อาจจะเน้นดูแลตัวเองจากภายนอกมากกว่า หมายถึงไปลงทุนกับอะไรก็ตามที่มันส่งผลแค่ภายนอก แต่ยังทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์เป็นหลัก นอนดึก ตื่นสาย ไม่ออกกำลังกายเลย แบบนั้นก็เป็นการดูแลตัวเองที่ผิดทาง มันอาจให้ผลเร็วก็จริงแต่มันไม่ยั่งยืน เราควรดูแลตัวเองจากภายในเพื่อให้มันส่งผลออกมาภายนอก

 

การดูแลตัวเองจากภายในเป็นอย่างไร

การดูแลตัวเองจากภายในคือ การใส่ใจทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ตั้งใจไปออกกำลังกายบ้าง พยายามไม่นอนดึก และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอสมวัย เมื่อเราดูแลตัวเองจากภายใน มันจะแสดงออร่าให้เห็นออกมาภายนอกเองโดยอัตโนมัติ เราจะรู้สึกแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ผิวพรรณสดใส ความจำดี บางคนอาจได้ความอ่อนเยาว์เป็นของแถมด้วย

 

"สิ่งที่ต้องกลัวอาจไม่ใช่แค่ไขมัน แต่เป็นน้ำตาล"

 

สมัยนี้อะไรที่ทำลายสุขภาพวัยรุ่นที่สุด

สมัยก่อนเราทานเค้กได้แค่วันเกิด แต่สมัยนี้เราทานเค้กได้ทุกวัน วันละกี่ก้อนก็ได้ สิ่งที่ต้องกลัวอาจไม่ใช่แค่ไขมัน แต่เป็นน้ำตาล พวกน้ำชง ชานมไข่มุก ที่ฮิต ๆ ดื่มกัน ทำให้วัยรุ่นติดหวาน แล้วน้ำตาลพวกนั้นจะไปทำลายจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ทำให้จุลินทรีย์ที่ดีของเราค่อย ๆ ตาย เราก็จะเป็นภูมิแพ้ง่าย ป่วยง่ายมากขึ้น ที่อเมริกาเขาประกาศให้น้ำตาลเป็นสารเสพติดแล้วนะ เพราะมันเป็นอันตรายในระยะยาว แต่บ้านเราตื่นเช้ามาก็ทานน้ำตาลเป็นอาหารเช้ากันเเล้ว

 

อาหารเช้าที่ทำร้ายสุขภาพ และเรายังทานอยู่มีอะไรบ้าง

เราชอบคิดว่าปาท่องโก๋  โดนัท ขนมปังที่มันหวาน ๆ มีน้ำตาลเยอะ ๆ มันคือ อาหารเช้า ซึ่งเราไม่ควรทานมันเป็นอาหารเช้าเลยด้วยซ้ำ เพราะมันคือ น้ำตาลและน้ำมัน เป็นพลังงานที่เราใช้แป๊บเดียวก็หมด จะทำให้เราหิวเร็ว ไปหยิบโน้นหยิบนี่มาทาน ทำให้เรากินจุบกินจิบ จากที่ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นเวลา เช้า กลางวัน เย็น มันก็ต้องทำงานหนักมากขึ้น ส่งผลให้น้ำหนักขึ้น และระบบย่อยอาหารพัง

 

 

 

คุณหลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์

 

เราจะบาลานซ์ความอยากทานกับทานเพื่อสุขภาพได้อย่างไร    

มันง่ายมากเลย เราแค่ต้องเข้าใจก่อนว่า เราจะทานของที่มีประโยชน์เป็นหลักนะ เช่น เราจะทานผักสด ผลไม้ โปรตีนที่ดี ไขมันที่ดีทุกมื้อ แล้วไปทานขนมที่เราอยากนิดหน่อย มันได้อยู่แล้ว ไม่ใช่ทานของที่ไม่ดีต่อสุขภาพเป็นหลัก แล้วไปทานของที่มีประโยชน์เสริม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบบนั้น มันผิดหลัก

 

กินดี ออกกำลังกาย นอนให้พอก็ยังเป็นหลักการดูแลสุขภาพที่คลาสสิกเสมอ  

ใช่ค่ะ เพราะการที่เรารู้คือเรื่องหนึ่ง แต่การที่เราทำมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทุกคนรู้ว่าอาหารการกิน และการพักผ่อนมันต้องมาควบคู่กัน เพราะไม่ว่าจะทานดีหรือออกกำลังกายดีแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอสมวัย คือจบเลยนะ แต่มันทำได้และไม่ยาก เราสามารถสร้างนิสัยที่ดีให้ตัวเองได้ แล้ววันหนึ่งเราจะขอบคุณตัวเอง

 

"ไม่ว่าจะทานดีหรือออกกำลังกายดีแค่ไหนก็ตาม
แต่ถ้าไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอสมวัย คือจบเลยนะ"

 

อยากรู้ว่าอะไรเป็นจุดเปลี่ยนทำให้คุณหลิงมาดูแลตัวเอง

เริ่มจากตอนที่เราอยู่อเมริกาแล้วได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เขาพูดถึงภาวะโลกร้อนจากการที่เราทานเนื้อสัตว์ เพราะโรงงานอุตสาหกรรมสัตว์ปล่อยก๊าซเยอะมาก และความจริงที่ว่า ร่างกายของเราไม่ต้องการเนื้อสัตว์ทุกมื้อ เพราะลำไส้ของเรายาวมากถึง 5-7 เท่าของส่วนสูง เราทานเข้าไป มันก็มีแต่จะหมักหมมอยู่ในนั้น ทำให้ย่อยยาก เราก็เริ่มอิน แต่สิ่งที่ทำให้เลิกทานเนื้อสัตว์จริงจังคือ เราไปปล่อยปลากับเพื่อนแล้วเห็นเขาทุบหัวปลา เลยเลิกทานตั้งแต่วันนั้น และไม่ทานเนื้อสัตว์เลยถึง 7 ปี

 

ได้ยินมาว่าคุณหลิงเคยดูแลตัวเองผิดจนไม่สบายมาก่อน

เราเริ่มสนใจเรื่องสุขภาพตอนอยู่ปี 1 ขึ้นปี 2 ก็เริ่มทานมังสวิรัติ แต่ตอนนั้นทานผิดไปมาก คือ เวลาไปมหาวิทยาลัยจะไม่ทานอะไรเลย อัดเข้าไปแค่ตอนเช้า ไขมันไม่ทานเลยเพราะกลัวอ้วน ทานแต่ผักที่สดสะอาด ไม่ทานเนื้อสัตว์เลยทุกชนิด นม ไข่ แป้งขาวก็ไม่ทาน ทั้งที่เรากำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโต ทำให้ง่วงนอน ประจำเดือนก็ไม่มา ตัวซีดเหลือง ผมร่วง เพราะเราทานสุดโต่งเกินไป เลยปรับใหม่ รีแลกซ์ตัวเองให้มากที่สุด  พยายามจัดสมดุล ทำกับข้าวเอง เน้นอาหารต้ม หลีกเลี่ยงของทอด ตอนนี้ทานเนื้อสัตว์ ของหวานบ้างเพราะต้องทำให้ลูกทาน แต่ไม่ทุกมื้อ

 

ถ้าเราอยากเริ่มต้นดูแลสุขภาพจะเริ่มจากตรงไหนก่อน

เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการทานผัก ผลไม้เป็นหลัก ถ้ารีบในตอนเช้า พยายามหยิบอาหารที่ให้พลังงานที่ดี มีไขมันที่ดีติดมือเวลาหิว เช่น ต้มไข่ราดน้ำมันมะกอกสด ๆ อัลมอนด์ แมคคาเดเมีย พีนัทบัตเตอร์หรือถั่ว เพราะไขมันจากถั่วให้พลังงานที่ดีทั้งวัน เป็นไขมันดีที่จะไปดันไขมันไม่ดีที่เราได้จากชานมไข่มุก เบเกอรี่ออกไป ถ้าไปทานข้าวข้างนอกให้เลือกเมนูต้ม เพราะเมนูทอด ๆ จะมีน้อยมากที่เราจะได้ทานน้ำมันแรก และหมั่นหาแหล่งที่มาของอาหาร และวิธีทานเรื่อย ๆ ถ้าเรามีความรู้มันก็จะเป็นแรงจูงใจให้อยากดูแลสุขภาพมากขึ้น

 

 

 

 

คุณหลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์

 

อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนเราดูแลสุขภาพได้สำเร็จ

ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ใจเป็นหัวหน้าของทุกอย่าง รวมทั้งร่างกาย
 

การทำธุรกิจอาหารสุขภาพในขณะที่คนละเลยสุขภาพ มันเหนื่อยไหม

ความอดทนต้องมีสูง ยิ่งทำของดีให้คนทาน ยิ่งต้องอดทนให้มาก ทำออกไปวันนี้คนอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่วันหนึ่งเขาจะเข้าใจเอง เราแค่ต้องตั้งใจทำ มองลูกค้าว่าเป็นอีกหนึ่งคนในครอบครัว เพราะอาหารไม่ใช่แฟชั่น เราทำกินอย่างไร เราก็ทำขายอย่างนั้น

 

"เราทำกินอย่างไร เราก็ทำขายอย่างนั้น"

 

แนวคิด ‘ทำกินอย่างไร ทำขายอย่างนั้น’ เป็นไปได้จริงเหรอในแง่ธุรกิจ

ช่วง 3 ปีแรกเหนื่อยมาก (เน้นเสียง) เราส่งสินค้าไปที่ห้าง เขาโทรกลับมาบอกว่า ของคุณเสีย มาเอาคืน แต่มันไม่ได้เสีย มันคือสินค้าที่ออร์แกนิกจริง ๆ สมัยก่อนคนไทยยังไม่รู้จักคำว่าออร์แกนิก อย่างแอปเปิ้ลไซเดอร์มีตะกอนที่ก้นขวด เพราะมันไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ เราต้องมาธิบายทุกครั้งที่ออกบูธ อธิบายให้ฟังทีละคน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำตอนนั้นมันไม่ใช่แฟชั่นแน่ ๆ แต่เราอยากนำเข้ามาให้ทาน เพราะมันมีประโยชน์ต่อสุขภาพจริง ๆ

 

ความสุขของการทำแบรนด์ HappyMate

ช่วงแรกอาจจะท้อบ้าง ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ แต่ความสุขมันเกิดขึ้น เวลาที่เราเจอลูกค้าที่บูธ เราได้พลังงานจากเขา เขามาขอบคุณเรา เขาเชื่อใจเรา ทำให้เราผลิตสินค้าใหม่ ๆ ออกมา มันคือกำลังใจ ทำให้เรารู้สึกว่า อย่างน้อยมันก็มีคนเห็นว่าสิ่งที่เราทำมันมีประโยชน์จริง ๆ เราเริ่มต้นทำเพราะความรัก เรามองลูกค้าว่าเป็นคนในครอบครัวตั้งแต่เริ่มทำจนถึงตอนนี้

 

 

 

เรื่อง : วัลญา นิ่มนวลศรี

 

เว็บไซต์ปลูกเฟรนส์ดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป

Tags