www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




คลังความรู้ > ภาษาเพื่อการสื่อสาร > ม.4

(grammar) Nouns
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2024-05-13 22:34:59

Noun (คำนาม) คือคำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ คุณสมบัติ การกระทำ ฯลฯ โดยทั่วไปแบ่งเป็น 8 ชนิด ดังนี้

 

I. ประเภทของคำนาม

1. Common noun (คำนามทั่วไป) คือ คำนามที่เป็นชื่อทั่วไปของคน, สัตว์, สิ่งของ และสถานที่ เช่น

    athlete            (นักกีฬา)

    wardrobe            (ตู้เสื้อผ้า)

    elements            (องค์ประกอบ)

    We went to mass in the cathedral.    (เราไปทำพิธีมิสซาในมหาวิหาร)

 

2. Proper noun (คำนามชื่อเฉพาะ) คือ คำนามที่เป็นชื่อเฉพาะของคน, สัตว์, สิ่งของ และสถานที่ เช่น

    Amazon            (เว็บไซต์แอมะซอน)

    Brad Pitt            (แบรด พิตต์)

    Harvard University        (มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด)

    London is the capital of England.    (ลอนดอนเป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ)

*เวลาเขียนคำนามชื่อเฉพาะ ต้องขึ้นต้นด้วยอักษรตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ ไม่ว่าจะวางไว้ตรงไหนของประโยคก็ตาม

 

3. Mass noun (วัตถุนาม) คือ คำนามที่เป็นชื่อของวัตถุหรือมวลสาร บางครั้งเรียกว่า Material Noun คำนามกลุ่มนี้จัดเป็นคำนามนับไม่ได้แต่สามารถบอกปริมาณมากน้อยได้ เนื่องจากอยู่เป็นกลุ่มก้อนหรือมีความเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น

milk                (นม)

mud                (โคลน)

two slices of bread        (ขนมปัง 2 แผ่น)

three kilograms of mutton    (เนื้อแกะ 3 กิโล)

There is sand in my shoes.        (มีทรายอยู่ในรองเท้าของฉัน)

 

4. Abstract noun (อาการนาม) คือ คำนามที่เป็นชื่อของสภาวะ สถานะ คุณสมบัติ ลักษณะ หรือการกระทำของคน สัตว์ และสิ่งของต่างๆ เช่น

wealth                (ความมั่งคั่ง)

strength            (ความแข็งแรง)

dedication            (การอุทิศตน)

Death comes to all men.    (มนุษย์ทุกคนนั้นย่อมต้องตาย)

Keeping your health is important.        (การรักษาสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ)

 

5. Collective noun (สมุหนาม) คือ คำนามแสดงหมวดหมู่หรือกลุ่มพวกของคำนามทั่วไป เช่น

cabinet            (คณะรัฐมนตรี)

a bevy of girls        (สาวๆ แก๊งหนึ่ง)

a bouquet of flower        (ดอกไม้ 1 ช่อ)

two troops of soldiers    (ทหาร 2 กองพล)

 

6. Compound noun (นามประสม) คือ คำนามที่เกิดจากการเอาคำ 2 คำมารวมกันให้เป็นคำเดียวแล้วเกิดเป็นคำนามใหม่ มีทั้งที่เขียนติดกันและเขียนแยกกัน เช่น

washing machine        (เครื่องซักผ้า)

database            (ฐานข้อมูล)

landlord            (เจ้าของบ้าน)

This property is an office building with 35 storeys.

(อาคารหลังนี้เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า 35 ชั้น)

Only 1 percent of the world is covered by freshwater.    

(โลกเรามีน้ำจืดเพียงแค่ 1%)

*นามประสมบางครั้งเกิดจากคำนามมากกว่า 2 คำขึ้นไป เช่น

table tennis table        (โต๊ะปิงปอง)

hotel reception desk        (โต๊ะประชาสัมพันธ์ของโรงแรม)

a two-week English course        (หลักสูตรภาษาอังกฤษ 2 สัปดาห์)

 

7. Agent noun (นามผู้กระทำ) คือ คำนามหรือคำกริยาที่เติม suffix แล้วมีความหมายแสดงความเป็นผู้กระทำ เช่น

~er

player

ผู้เล่น

~or

visitor

แขก, ผู้มาเยี่ยม

~ent

student

นักเรียน

~ant

attendant

ผู้เข้าร่วม

~ist

columnist

นักเขียนคอลัมน์

~ician

musician

นักดนตรี

        

8. Noun-Equivalent (คำเสมือนนาม) คือ คำที่ไม่ได้มีลักษณะเป็นคำนามแต่ทำหน้าที่เสมือนคำนาม ได้แก่

8.1 Infinitive with to

To sleep is necessary for health.        (การนอนหลับเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพ)

    8.2 Gerund

    Smoking is prohibited in this area.    (ห้ามสูบบุหรี่บริเวณนี้)

    8.3 The + adjective

    The rich can help the poor.            (คนรวยช่วยคนจนได้)

8.4 phrase

To improve my English skills, I must practice English every day.

(ฉันต้องฝึกภาษาอังกฤษทุกวัน เพื่อให้ภาษาอังกฤษของฉันดีขึ้น)

    8.5 Noun clause

    I don’t understand what Alex wants to convey.

    (ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่อเล็กซ์ต้องการจะสื่อ)

นอกจากนี้ยังสามารถจำแนกคำนามดังกล่าวทั้ง 8 ชนิดได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ นามนับได้และนามนับไม่ได้

 

II. Countable Noun

Countable Noun (นามนับได้) คือคำนามที่นับจำนวนได้เป็นตัวเลข อาจใช้คู่กับ article หรือคำบอกปริมาณก็ได้ มีทั้งรูปเอกพจน์และรูปพหูพจน์ คำนามนับได้มี 5 กลุ่ม คือ Common noun, Proper noun, Collective noun, Compound noun และ Agent noun ตัวอย่างเช่น

Meghan was singing a song.        (เมแกนร้องเพลง)

There’s been an accident.            (มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น)

We didn’t take many photographs.    (พวกเราไม่ได้ถ่ายรูปมากมาย)

 

นามนับได้จะมีทั้งรูปเอกพจน์ (Singular) และรูปพหูพจน์ (Plural) รูปเอกพจน์ใช้แทนหนึ่งหน่วย ส่วนรูปพหูพจน์ใช้แทนหลายหน่วย เช่น

a car = รถหนึ่งคัน        เป็นเอกพจน์

    two cars = รถสองคัน    เป็นพหูพจน์

    many cars = รถหลายคัน    เป็นพหูพจน์

 

โดยทั่วไปแล้ว คำนามที่เป็นพหูพจน์จะเติม ~s เช่น books = หนังสือหลายเล่ม, vegetables = ผักหลายชนิด, tourists = นักท่องเที่ยวหลายคน, cups = หลายถ้วย, shops = หลายร้าน เป็นต้น แต่ในกรณีคำนามบางคำเมื่อเปลี่ยนเป็นรูปพหูพจน์แล้ว การสะกดคำจะเปลี่ยนแปลงไป ดังนี้

 

การเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์

  1. คำนามทั่วไป ให้เติม ~s ท้ายคำนาม เช่น

boat