ภาษาไทย ป. 5 เรื่อง การใช้สำนวนไทย และการแต่งคำประพันธ์
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2016-08-31 23:21:14
ผังมโนทัศน์สาระการเรียนรู้
สำนวนไทย
สำนวนไทย เป็นถ้อยคำที่ร้อยเรียงขึ้นเพื่อใช้เป็นข้อคิดหรือคติสอนใจ แบ่งออกเป็น ๓ ประเภท ได้แก่
๑. สำนวน
สำนวน คือ ถ้อยคำที่มีความหมายไม่ตรงตามตัวอักษร มักใช้ในการเปรียบเทียบ มีลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
๑. ใช้คำคล้องจองหรือการซ้ำคำ เช่น ก่อร่างสร้างตัว
๒. มีความหมายเชิงเปรียบเทียบ เช่น กระดี่ได้น้ำ
๓. มีลักษณะเป็นข้อคิดสอนใจ เช่น ดาบสองคม
๒. สุภาษิต
สุภาษิต คือ ถ้อยคำที่ใช้เป็นคติสอนใจ แนะนำ หรือเตือนไม่ให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มักเป็นถ้อยคำสั้น ๆ และมีสัมผัสคล้องจอง เช่น รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี
๓. คำพังเพย
คำพังเพย คือ ถ้อยคำที่กล่าวแสดงความคิดเห็นอย่างกลาง ๆ เพื่อนำไปใช้ให้เข้ากับข้อความที่พูดหรือเขียน เช่น ปิดทองหลังพระ
ตัวอย่างการใช้สำนวนไทย
สำนวน |
ดินพอกหางหมู |
ความหมาย |
งานที่ปล่อยให้คั่งค้างจะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ |
การใช้ |
ใช้กับคนที่ละเลยงานของตน ปล่อยให้คั่งค้างไว้ จนตัวเองต้องเดือดร้อน |
ตัวอย่าง |
นักเรียนควรรีบทำรายงานให้เสร็จ อย่าปล่อยให้เป็นดินพอกหางหมู เพราะถึงเวลาใกล้สอบจะเดือดร้อน |
การแต่งคำประพันธ์
คำประพันธ์ คือ ถ้อยคำที่เรียบเรียงขึ้นตามฉันทลักษณ์ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันไปตามคำประพันธ์แต่ละชนิด ในการแต่งคำประพันธ์นักเรียนจำเป็นต้องมีความรู้เรื่อง คำสัมผัส
๑. คำสัมผัส
คำสัมผัส คือ คำที่มีเสียงรับกันหรือสอดคล้องกัน หากแบ่งตามลักษณะของเสียง จะแบ่งได้ ๒ ประเภท ได้แก่
๑. สัมผัสสระ คือ คำที่มีเสียงสระและเสียงตัวสะกดเหมือนกัน เช่น มด-อด ไต่-ไร
๒. สัมผัสพยัญชนะ คือ คำที่มีเสียงพยัญชนะต้นเหมือนกัน เช่น นก-นา ปลา-เปลี่ยน
เกร็ดควรรู้
สัมผัสพยัญชนะ ไม่ใช่แค่คำที่มีพยัญชนะต้นตัวเดียวกัน แต่หมายถึงพยัญชนะที่ออกเสียงเหมือนกันหรือคู่กัน เช่น ข-ค-ฆ พ-ผ-ภ ศ-ษ-ส
นอกจากนี้ หากแบ่งตามตำแหน่งของคำ จะแบ่งได้ ๓ ลักษณะ ได้แก่
๑. สัมผัสใน คือ สัมผัสสระหรือสัมผัสพยัญชนะที่อยู่ในวรรคเดียวกันของคำประพันธ์
๒. สัมผัสนอก คือ สัมผัสสระที่สัมผัสกันระหว่างวรรคของคำประพันธ์
๓. สัมผัสระหว่างบท คือ สัมผัสสระที่สัมผัสกันระหว่างบทของคำประพันธ์
ตัวอย่าง
จากคำประพันธ์ดังกล่าวจะพบว่า
สัมผัสใน แบ่งเป็น
สัมผัสสระ ได้แก่ สลึง-พึง จบ-ครบ ของ-ต้อง น้อย-ค่อย มาก-ยาก ไป-(พิ)ไร คราว-คาว แม่-แก่ อด-(ระ)ทด
สัมผัสพยัญชนะ ได้แก่ ขาด-ของ เมื่อ-แม่
สัมผัสนอก ได้แก่ บาท-ขาด (ประ)สงค์-(บรร)จง-ลง ซื้อ-มื้อ หงาน-กาล-ท่าน
สัมผัสระหว่างบท ได้แก่ นาน-หวาน
๒. กาพย์ยานี ๑๑
กาพย์ยานี ๑๑ คือ คำประพันธ์ประเภทกาพย์ชนิดหนึ่ง ๑ บทมี ๒ บาท ๑ บาทมี ๒ วรรค วรรคหน้ามี ๕ คำ และวรรคหลังมี ๖ คำ มีลักษณะบังคับและคำสัมผัส ดังนี้
การแต่งคำประพันธ์ มีหลักการ ดังนี้
๑. กำหนดประเภทว่าจะแต่งคำประพันธ์ชนิดใด
๒. วางโครงเรื่องว่าจะแต่งเกี่ยวกับอะไร มีสาระอะไรบ้าง
๓. เขียนเนื้อความทั้งหมดเป็นร้อยแก้วก่อน
๔. นำเนื้อความมาเรียบเรียงให้ตรงตามฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์
ตัวอย่างการแต่งกาพย์ยานี ๑๑
ชื่อเรื่อง – เดินชมสวนสัตว์
โครงเรื่อง – เราเดินชมสวนสัตว์ พบยีราฟ ม้าลาย ลา กำลังยืนกินหญ้า ลิง ค่าง บ่าง ชะนี และนกต่างส่งเสียงร้อง มีช้างกำลังเล่นน้ำซึ่งพวกเรากำลังมองดูอยู่
เนื้อความร้อยแก้ว – เดินชมสวนสัตว์ มีสัตว์ต่าง ๆ มากมาย มียีราฟ ม้าลาย ลา ยืนเล็มยอดหญ้า มีลิง ค่าง บ่าง ชะนี และนกส่งเสียงร้อง ช้างน้อยเล่นน้ำในคลอง พวกเรายืนมองดู
เรียบเรียงเป็นกาพย์ยานี ๑๑
เดินชมสัตว์น้อยใหญ่ เพลิดเพลินใจดีหนักหนา
ยีราฟม้าลายลา เล็มยอดหญ้าดูน่ามอง
ลิงค่างบ่างชะนี นกมากมีส่งเสียงร้อง
ช้างน้อยเล่นน้ำคลอง เรายืนมองสบายใจ
แหล่งที่มาของเนื้อหา : สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช www.wpp.co.th