“การบูรณาการสะเต็มศึกษาและ entrepreneurship มีความเหมาะสมกับบริบทโรงเรียนมากเนื่องจากน่าจะช่วยให้นักเรียนได้เห็นความสำคัญของวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มากขึ้น แต่ควรเน้นกิจกรรมในระยะสั้นและควรบูรณาการวิชาอื่นๆเข้าไปด้วย เช่น ศิลปะ หรือภาษาอังกฤษ” นายสุมนต์กล่าว

นอกจากนั้นตัวแทนของโรงเรียนอื่นๆ ที่เข้าร่วมประชุมได้กล่าวถึงบริบทของโรงเรียนที่โดยมามีผลิตภัณฑ์ที่โรงเรียนทำอยู่แล้ว แต่อาจยังไม่ได้นำสะเต็มศึกษามาบูรณาการครบกระบวนการ และได้แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการ เพราะเห็นว่านักเรียนน่าจะได้รับประโยชน์อย่างสูง ดร. พรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการ สสวท. สรุปว่า จากการประชุมหารือครั้งนี้ สสวท. ได้ข้อสรุปเพื่อนำมาวางแผนการดำเนินงานโครงการ E2STEM อนาคต ซึ่งได้แก่ การสร้างระบบนิเวศ (ecosystem) ที่เอื้อต่อความสำเร็จ ซึ่งต้องให้ความสำคัญกับหลักสูตรที่เหมาะสมต่อบริบทของแต่ละชุมชน การเน้นการเข้าร่วมของชุมชนและผู้ปกครอง และการนำภาคเอกชนมาช่วยสนับสนุนในด้านองค์ความรู้ทางธุรกิจ โครงสร้างของหลักสูตร ควรเป็นอย่างไร เช่น ควรเป็นกิจกรรมนอกเวลาหรือควรเป็นกิจกรรมในวิชาใดหรือไม่ ทักษะของครูน่าจะมีผลต่อการประสบความสำเร็จของโครงการ ดังนั้นควรมีการจัดอบรมครูด้วยในอนาคต รวมทั้งการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ของครูซึ่งจะก่อให้เกิดการขับเคลื่อนด้วยตนเอง เวลาที่ใช้ในกิจกรรม ที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร เช่น ตลอดปีการศึกษา หรือภาคเรียนเดียวเพียงพอหรือไม่ การสร้างวิสัยทัศน์ วัฒนธรรมและการขับเคลื่อนด้วยตนเองในโรงเรียน และการสร้างนโยบายที่เกื้อหนุนการดำเนินโครงการ มีการทำนโยบายทั้งบนลงล่าง และล่างสู่บน (top-down และ bottom up) การใช้ทรัพยากรอย่างหลากหลายนอกเหนือจากที่อยู่ภายในโรงเรียน เช่น การสร้างความร่วมมือกับธุรกิจในพื้นที่ และการสร้างความร่วมมือกับธุรกิจระดับชาติเพื่อช่วยขับเคลื่อน

“แนวทางการดำเนินงาน โครงการ E2STEM ในเบื้องต้นควรทำเป็นกิจกรรมนอกหลักสูตร เพื่อให้เห็นความสำเร็จในช่วงแรก โดยมีการออกแบบกิจกรรมที่เน้นทักษะที่อยากให้นักเรียนพัฒนา ก่อนนำไปสู่การขับเคลื่อนการเปลี่ยนหลักสูตร ให้ความสำคัญต่อความสำเร็จของนักเรียนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนรู้ต่ำหรือสูง ซึ่งจะต้องมองเห็นและรับรู้ความสำเร็จร่วมกัน นอกจากนั้นควรมีการทำกรณีศึกษา หรือ case study เพื่อเผยแพร่ความสำเร็จของโรงเรียนที่มีบริบทต่างกัน” ผู้อำนวยการ สสวท. กล่าว

ทั้งนี้ การดำเนินงานโครงการ E2STEM ได้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมธุรกิจใหม่ หรือ นโยบาย “สตาร์ทอัพ” เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากรัฐบาลต้องการเสริมสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพในด้านต่างๆ ให้คนไทยสามารถสร้างธุรกิจเองได้โดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเสริม ที่สำคัญต้องมีความคิดสร้างสรรค์ และต้องเห็นช่องทาง กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจนั้นๆ ซึ่งจำเป็นต้องมีการให้ความรู้พัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อเข้าถึงแก่นของการธุรกิจอย่างแท้จริง โดยเริ่มต้นตั้งแต่การส่งเสริมการเรียนรู้ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานนั่นเอง