www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




แนะแนว > บทความน่าอ่าน

ปัญหาเด็กติดเกมออนไลน์
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2014-08-20 12:04:03

กลายเป็นเรื่องที่น่าตกใจ กรณีที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟน โดนเรียกเก็บเงินค่าบริการจากผู้ให้บริการเครือข่ายถึง 6 แสนบาท รวมถึงอีกส่วนหนึ่งก็ถูกเรียกเก็บเป็นเงินหลายแสนบาท ต้นตอก็มาจากการเข้าไปเล่นเกมออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของบรรดาบุตรหลาน จนพ่อแม่ผู้ปกครองต้องตกที่นั่งลำบาก ก็ยังนับเป็นความโชคดีที่บริษัทผู้ให้บริการแสดงความรับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายและแก้ไขระบบ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีก


สิ่งที่เป็นปรากฏการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของเยาวชนที่หลงใหลไปบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะเกมที่เหล่าบรรดาผู้สร้างพยายามดึงดูดให้คนเข้าไปเล่น และเป้าหมายใหญ่ก็อยู่ที่เยาวชน จนกลายเป็นปัญหาของครอบครัวและของสังคมไปด้วย

สาเหตุการติดเกมออนไลน์ มีด้วยกันหลายสาเหตุ แต่หลักๆ ก็มาจากเนื้อหาของเกม ความสนุกของตัวเกม อีกทั้งผู้เล่นต้องแข่งขันกันให้ได้ขึ้นสู่ระดับของเกมชั้นสูงๆ ขึ้น จึงทำให้ผู้เล่นต้องแข่งขันและใช้เวลาไปอย่างมาก บางครั้งเล่นอยู่หน้าจอทั้งวันทั้งคืน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเด็กมีเวลาว่างมากเกินไป และไม่รู้จะไปทำอะไร นอกจากนี้การเล่นเกมออนไลน์ยังได้เพื่อนกลุ่มใหม่ จนที่สุดก็ติดเกมออนไลน์ ปัญหาที่ตามมาก็คือ เด็กหมกมุ่นกับเกมมากเกินไป ไม่ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์กับครอบครัวหรือสังคม โดยเฉพาะเด็กที่ไม่มีวุฒิภาวะพอหรือขาดการดูแลเอาใจใส่จะสร้างปัญหาสังคมด้วยการลักเล็กขโมยน้อยไปจนถึงการฉกชิงวิ่งราวทรัพย์สิน เพื่อจะหาเงินไปเล่นเกมออนไลน์ และมีไม่น้อยที่ก้าวเลยเถิดเข้าไปสู่เส้นทางอาชญากรรมแบบน่าเสียดายอนาคต


นอกจากนี้เด็กที่เข้าไปเล่นเกมออนไลน์อาจนำพฤติกรรมความรุนแรงจากเกมมาใช้ในชีวิตจริง เพราะขาดความยับยั้งชั่งใจ หรือบางส่วนก็ไม่สามารถแยกแยะโลกความเป็นจริงกับโลกในเกมออนไลน์ได้ นับเป็นเรื่องอันตรายมาก และเคยเกิดขึ้นเป็นข่าวมาแล้ว อีกทั้งปัญหาสภาพแวดล้อมที่เด็กเข้าไปใช้บริการเกมออนไลน์ ซึ่งก็คือร้านเกมทั่วๆ ไปนั้น แม้จะมีกฎหมายบังคับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของร้านว่าจัดการร้านได้ดีแค่ไหน มีการสอดส่องดูแลร้านและเด็กที่เข้ามาเล่นเกมดีเพียงพอหรือไม่ เพราะจำนวนไม่น้อยที่ร้านกลายเป็นแหล่งซ่องสุม มีทั้งยาเสพติดและสุราบุหรี่ จนเป็นสถานที่ทำลายเด็กและเยาวชนของประเทศไปโดยปริยาย ส่งผลให้ต้องสูญเสียทรัพยาบุคคลที่ควรมีประสิทธิภาพในอนาคตของประเทศไปอย่างไม่ควรจะเกิดขึ้น


จากสถิติของสถาบันสุขภาพจิตและวัยรุ่น กรมสุขภาพจิตกระทรวงสาธารณสุข เก็บข้อมูลเด็กและเยาวชนกลุ่มตัวอย่าง 2 หมื่นคน ทั่วประเทศ เมื่อปี 2556 พบว่า มีเด็กติดเกม 15% เล่นเกมออนไลน์ ไลน์ เฟซบุ๊ก 15% และเมื่อเปรียบเทียบกับสถิติจำนวนเยาวชนที่มีอยู่ในปัจจุบัน 18 ล้านคน ทำให้ทราบว่า มีเด็กไทยติดเกมแล้วมากกว่า 2.7 ล้านคน เป็นตัวเลขที่สูงมาก สำหรับพฤติกรรมก็จะก้าวร้าวถึงขั้นทำร้ายพ่อแม่ผู้ปกครอง พยายามฆ่าตัวตายเมื่อถูกห้ามไม่ให้เล่นเกม หนีเรียนเก็บตัวอยู่บ้านเพื่อเล่นเกม ไม่นอนในเวลากลางคืน การเรียนตกต่ำ อารมณ์แปรปรวนง่าย ดังนั้นปัญหาเยาวชนติดเกมออนไลน์ควรถึงเวลาที่ผู้ใหญ่และครอบครัว รวมทั้งหน่วยงานเกี่ยวข้อง ต้องเข้ามา จัดระเบียบและเปิดโลกใหม่คืนความสุขให้เด็กไทยในหนทาง ที่ถูกต้องเหมาะสม


ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก