รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตชี้ฉากเลิฟซีนในละคร ตัวการทำวัยรุ่นแสดงบทรักที่สาธารณะไม่อายใคร มองความรักเด็กยุคนี้มาเร็ว จึงมีการแสดงออกทางเพศโจ่งแจ้ง แนะวิชาการเด็กต้องพัฒนา วิ่งตามปัญหาให้ทัน

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีเด็กวัยรุ่นแสดงพฤติกรรมทางเพศอย่างโจ่งแจ้งในที่สาธารณะว่า สิ่งที่ส่งผลให้เด็กวัยรุ่นมีพฤติกรรมดังกล่าวมีอยู่ 2 ส่วน คือ 1.เด็กไม่ได้อยู่กับผู้ปกครอง ซึ่งขณะนี้จะพบเด็กวัยรุ่นเริ่มตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนปลายออกมาอยู่เองลำพังในหอพักมากขึ้นกว่า 50% ทำให้ต้องดูแลและตัดสินใจใช้ชีวิตด้วยตัวเองมากกว่าเด็กที่อยู่กับครอบครัว และ 2.สังคมและสื่อ โดยเฉพาะสื่อละครและภาพยนตร์ที่มีฉากเลิฟซีนชัดเจนมากกว่าเดิม ส่งผลเด็กมีพฤติกรรมเลียนแบบ และมีแนวโน้มพฤติกรรมไม่สนใจใคร ทุกอย่างสามารถทำได้ และต่างคนต่างไม่สนใจกัน ทุกอย่างนี้อาจจะนำไปสู่พฤติกรรมทางเพศที่ไม่ได้ป้องกัน เกิดปัญหาท้องไม่พร้อม แม่วัยใส และติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นต้น

พญ.พรรณพิมลกล่าวว่า เด็กวัยรุ่นเป็นวัยที่ตามหาความหมายของชีวิต และตามหาความหมายของคำว่ารัก เพราะฉะนั้นเมื่อถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้าต่างๆ ความรักจะมาเร็ว มีการเปลี่ยนคู่รักเร็ว และแต่ละครั้งที่มีคู่รักจะมีเพศสัมพันธ์เข้ามาร่วมด้วย นอกจากนี้ ความผิดหวังในเรื่องความรักยังนำไปสู่ภาวะเหงา ซึมเศร้าในเด็กตามมาถึง 20% แต่ยังไม่พบร้ายแรงถึงขั้นฆ่าตัวตายมากนัก การฆ่าตัวตายส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มวัยทำงาน อย่างไรก็ตาม ตรงนี้เป็นสิ่งที่เด็กต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง

"ประเด็นสำคัญคือเด็กวัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องวางเป้าหมายให้กับตัวเอง มีความฝัน มีความหวัง แต่จากความสัมพันธ์ 2 ข้อที่บอกทำให้หลายคนมัวสาละวนอยู่กับเรื่องความรัก เรื่องเพศ บางคนสามารถพาตัวเองกลับมาได้ บางคนก็กลายเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการดำรงชีวิต" รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว และว่า เราทำงานเรื่องนี้ทำให้พบว่าเด็กมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก เป็นหนุ่มเป็นสาวเร็ว เราต้องพัฒนาให้เร็วกว่านี้เยอะ จะได้ตามเขาทัน