www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




แนะแนว > บทความน่าอ่าน

วัยรุ่นวุ่นเพราะ......
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2014-05-29 15:56:05



วัยรุ่นเป็นช่วงที่เราทุกคนทราบดีว่าเป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะครอบคลุมหลายด้านของชีวิต จนบางครั้งผู้ใหญ่มักเรียกว่าเป็น “ วัยวุ่น ” เนื่องมาจากผลการปรับตัวที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของวัยรุ่นนั่นเอง การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ของวัยรุ่น ทำให้เขาต้องเผชิญกับหลายสิ่งในชีวิต หากเขาปรับตัวได้ก็ทำให้เขามีพัฒนาการในทางที่เหมาะสม แต่หากมีวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยสามารถจัดการสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตได้อย่างเหมาะสม จนก่อให้เกิดความผิดพลาดที่ไม่มีวันลืมชั่วชีวิต


“ เนตรนภา ” หญิงสาววัยรุ่นเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เนตรนภาอยู่ในครอบครัวที่แตกแยก พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เธอเป็นเด็ก พ่อเป็นคนใจดี พูดน้อยแต่ก็เข้มงวดกับเรื่องระเบียบภายในบ้านพอสมควร ส่วนแม่เป็นคนหงุดหงิดง่าย และเข้มงวดกับกิจวัตรประจำวันของเธอไปไม่น้อยกว่าพ่อ แต่ทั้งสองก็ไม่เคยดุด่าหรือลงโทษเนตรนภาอย่างรุนแรงเลยสักครั้ง แม่ของเนตรนภาขอแยกทางกับด้วยเหตุผล คือ ไม่เข้าใจกัน และไม่สามารถปรับตัวเข้าหากันได้ แม่ของเธอจึงไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศและแต่งงานใหม่กับชาวต่างชาติ ส่วนพ่อแต่งงานใหม่ในช่วงที่เนตรนภาอายุประมาณ 13-14 ปี ในช่วงที่เนตรนภาอยู่กับพ่อ เนตรนภารู้สึกโดดเดี่ยวและเหงา เพราะพ่อเป็นผู้ชายเก่งที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานสูง มีเวลาได้พูดคุยกับเนตรนภาในแต่ละวันไม่กี่คำ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องที่สำคัญเท่านั้น “ เนตรนภา ” หญิงสาววัยรุ่นเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เนตรนภาอยู่ในครอบครัวที่แตกแยก พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เธอเป็นเด็ก พ่อเป็นคนใจดี พูดน้อยแต่ก็เข้มงวดกับเรื่องระเบียบภายในบ้านพอสมควร ส่วนแม่เป็นคนหงุดหงิดง่าย และเข้มงวดกับกิจวัตรประจำวันของเธอไปไม่น้อยกว่าพ่อ แต่ทั้งสองก็ไม่เคยดุด่าหรือลงโทษเนตรนภาอย่างรุนแรงเลยสักครั้ง แม่ของเนตรนภาขอแยกทางกับด้วยเหตุผล คือ ไม่เข้าใจกัน และไม่สามารถปรับตัวเข้าหากันได้ แม่ของเธอจึงไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศและแต่งงานใหม่กับชาวต่างชาติ ส่วนพ่อแต่งงานใหม่ในช่วงที่เนตรนภาอายุประมาณ 13-14 ปี ในช่วงที่เนตรนภาอยู่กับพ่อ เนตรนภารู้สึกโดดเดี่ยวและเหงา เพราะพ่อเป็นผู้ชายเก่งที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานสูง มีเวลาได้พูดคุยกับเนตรนภาในแต่ละวันไม่กี่คำ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องที่สำคัญเท่านั้น


เมื่อเริ่มศึกษาในมัธยมศึกษาปี่ที่ 4 เนตรนภาได้พบกับเพื่อนชายคนหนึ่งซึ่งเอาใจใส่และดูแลเนตรนภาเป็นอย่างดี “ อรรณพ ” เด็กชายวัยรุ่นมาจากครอบครัวข้าราชการ เขาเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว พ่อแม่ค่อนข้างตามใจเขา ไม่ว่าอรรณพต้องการอะไรพ่อแม่ไม่เคยขัดใจ อรรณพค่อนข้างเป็นคนเจ้าอารมณ์หงุดหงิดง่ายเมื่ออรรณพกับเนตรนภาได้ตกลงคบกันเป็นคู่รัก ทั้งสองคนก็จะมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอๆ ทำให้เนตรนภาเริ่มห่างเหินจากกลุ่มเพื่อนผู้หญิงไป จนกระทั่งวันหนึ่งอรรณพและเนตรนภามีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งถึงแม้ว่าเนตรนภายอมมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับอรรณพ แต่ไม่ได้หมายความว่าเนตรนภามีความเจนจัดเรื่องเพศเนตรนภาไม่ได้คบเพื่อนชายหลายคน และไม่มีค่านิยมในการเก็บ คะแนนการมีเพศสัมพันธ์เหมือนกับผู้หญิงบางกลุ่มใสปัจจุบันซึ่งเป็นนิยมการแข่งขันมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายไม่ว่าจะเป็นคู่รักหรือไม่ก็ตาม แต่เนตรนภามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับอรรณพได้ และเนตรนภากลัวอรรณพจะทิ้งเธอไปและไม่เอาใจใส่รักเธอเหมือนที่เคยปฏิบัติต่อเธอหากเธอปฏิเสธความต้องการของเขา


หลังจากทั้งสองมีคนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ่ง อรรณพเริ่มมีท่าทีเปลี่ยนไปจากเดิมความโมโหร้ายของอรรณพูดจะรุนแรงเพิ่มมากขึ้น อรรณพหงุดหงิดง่ายและใช้กำลังตบตีเนตรนภาเสมอเมื่อไม่พอใจ และบังคับให้เนตรนภาพูดคุยกับเขาเพียงคนเดียว ไม่ยอมให้เนตรนภาพูดคุยกับเพื่อนคนอื่นๆ ในห้อง โดยเฉพาะเพื่อนชายเนตรนภาก็ยอมปฏิบัติตามโดยดีด้วยความรักและเชื่อฟังอรรณพส่วนการเรียนเนตรนภาซึ่งเคยอยู่ในระดับดีมาตลอดในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ปัจจุบันดูเหมือนการสอบให้ผ่านก็เป็นสิ่งที่เพียงพอสำหรับเธอแล้ว


2 ปีผ่านไป ทั้งสองคนยังคบกันในฐานะคู่รัก และเมื่อเริ่มเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เนตรนภาผิดพลาดเรื่องการคุมกำเนิดทำให้เธอตั้งครรภ์ และต้องหาทางเอาเด็กออก ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงสอบปลายภาค ทำให้เธอต้องหยุดเรียนและไม่สามารถจบการศึกษาพร้อมกับเพื่อนได้เนตรนภาเสียใจและรู้สึกการกระทำของตนเองหลังจากเพื่อนๆ ซึ่งร่วมถึงอรรณพ จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็สอบเข้ามหาวิทยาลัย ในขณะที่เนตรนภาต้องเรียนอีก 1 ภาคการศึกษาและเลิกคบกับอรรณพ ด้วนเหตุที่อรรณพไม่ยอมคบเธออีกหลังจากที่เข้าสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ ส่วนเนตรนภาเมื่อจบการศึกษาชั้นมัธยมปี่ที่ 6 เธอไม่ได้เข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยเพราะเกิดความรู้สึกไม่อยากเรียน ขาดแรงจูงใจ ไม่มีเป้าหมายในชีวิตปัจจุบันเมื่อเธอเดินไปพบเด็กๆ น่ารักตามท้องถนนหรือสถานที่ต่างๆ เธอจะนึกถึงวันที่เธอเอาเด็กออก และรู้สึกเศร้า บางครั้งเมื่อเธอเดินไปกับและเห็นผู้ชายมีลักษณะคล้ายกับอรรณพเธอจะหลบอยู่ด้านหลังเพื่อนและตัวสั่นด้วยความกลัว เรื่องที่เกิดขึ้นกับเนตรนภานับว่าเป็นบาดแผลในใจของเธอไม่น้อย


จากเรื่องของเนตรนภาท่านผู้อ่านจะเห็นได้ว่า ปัจจุบันมีเด็กวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยที่มีความรักและคบกับเพื่อนต่างเพศฉันท์คู่รัก และส่วนใหญ่มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ซึ่งพบว่ามีปัญหาที่ตามมาหลากหลายรูปแบบโดนเฉพาะวัยรุ่นผู้หญิง บางครั้งก็ตั้งครรภ์ในช่วงที่ยังเรียนไม่จบ ทำแท้ง หรือมีเหตุต้องออกจากโรงเรียน หมดอนาคตไปเลยก็มี ในกรณีเช่นนี้ดูเหมือนวัยรุ่นชายจะได้เปรียบและปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนไม่มากเท่ากับฝ่ายหญิง


การคบกับเพื่อนต่างเพศในช่วงวัยรุ่น เป็นสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงพัฒนาการตามวัย วัยรุ่นมักจะมีความรู้สึกสนใจต่อเพศตรงข้ามและเริ่มมีความรัก แต่ความรักในวัยนี้มักเป็นความรักแบบไม่ยั่งยืนและเป็นความรักที่เกิดเพียงระยะสั้นๆ ซึ่งทำให้เกิดความสุขและความตื่นเต้นเพียงชั่วครู่ วัยรุ่นชายจะมีความสนเกี่ยวกับความต้องการทางเพศและความอยากทดลองในสิ่งแปลกใหม่ที่เข้ามาในชีวิต ซึ่งเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกอยากทดลอง ในอดีตที่ผ่านมาเรามักวัยรุ่นชายบางกลุ่มมักนิยมการเก็บคะแนนการมีเพศสัมพันธ์กับวัยรุ่นหญิงทั้งในโรงเรียนเดียวกันและต่างโรงเรียน แต่ในปัจจุบันเราพบว่าค่านิยมนี้ก็มีอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นหญิงเช่นกัน ค่านิยมนี้เป็นค่านิยมที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากพัฒนาการของวัยรุ่นอีกเช่นกันวัยรุ่นจะคบเพื่อนเป็นกลุ่มและมีการเปรียบเทียบระหว่างตนเองกับเพื่อนๆ ในกลุ่มเกี่ยวกับเอกลักษณ์ส่วนตนด้านต่างๆ แต่หากไม่ใช่วัยรุ่นทุกคนที่มีค่านิยมเกี่ยวกับเรื่องเพศเช่นนี้ มีวัยรุ่นบางกลุ่มก็มีค่านิยมที่ยึดเอาความสำเร็จด้านการเรียนเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับเขา


ดังนั้นเด็กวัยรุ่นที่มีพัฒนามาถึงช่วงวัยนี้ ควรมีโอกาสได้สำรวจและทบทวนค่านิยมและความต้องการของตนอย่างไตร่ตรอง ค่านิยมบางอย่างควรมีการพิจารณาว่าเป็นสิ่งที่ดีในชีวิตอย่างแท้จริงหรือไม่ มีวัยรุ่นหญิงหลายคนที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันสมควรและทำแท้งทำให้เกิดความรู้สึกผิดภายในใจ มองตนเองอย่างไร้ค่า และฝังใจถึงแม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะผ่านมานานเพียงใดก็ตาม เพราะอย่างน้อยค่านิยมไทยในเรื่องเพศก็เป็นสิ่งที่แฝงอยู่ในครอบครัวไทยเพียงแต่อาจจะเบาบางหรือเข้มแตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัว วัยรุ่นควรให้คุณค่ากับค่านิยมที่คนในสังคมยึดถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงาม เช่นการเป็นคนรับผิดชอบ การเป็นคนซื่อสัตย์ การเอาใจใส่ต่อการเรียนการปฏิบัติหน้าที่ลูกที่ดีของพ่อแม่เป็นต้น


ในกรณีของเนตรนภา สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากค่านิยมการมีเพศสัมพันธ์เนื่องจากการสมยอม และทำตามสิ่งที่อรรณพผู้ซึ่งเป็นคู่รักของตนต้องการ เด็กวัยรุ่นหญิงที่มีค่านิยมเรื่องที่เหมาะสม แต่ถูกคู่รักบังคับหรือขอร้องให้มีเพศสัมพันธ์กับเขา ควรได้ตระหนักและประเมินความรักระหว่างตนเองกับคู่รักอย่างถ้วนถี่ว่า หากทำตามที่คู่รักของตนต้องการแล้วจะเกิดอะไรขึ้นภายหลัง หากความรักหรือคู่รักของตนเปลี่ยนแปลงไป ตนจะยอมรับได้หรือไม่ จะเกิดอะไรกับชีวิตของตนบ้างหากผิดพลาดไป นอกจากนั้นการมองตนเองอย่างมีค่าเป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้วัยรุ่นสามารถยับยั้งชั่งใจได้เพราะจะเปรียบเสมือนเข็มทิศที่คอยควบคุมการกระทำของตนเอง ไปในทางที่เหมาะสม ตามความรู้สึกที่ดีที่มีต่อตนเอง


หากวัยรุ่นที่มีการตัดสินใจผิดพลาดดังเช่นกรณีของเนตรนภาการให้อภัยต่อการกระทำของตนเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราพึงให้กับตนเองรับรู้ว่าการผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นตราบาปที่บ่งบอกว่าเราเป็นคนไม่ดี หรือเป็นคนที่ไม่มีคุณค่าแต่อย่างใด แต่ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกตัวบุคคล เรียนรู้ที่จะรักและสงสารตนเอง ให้โอกาสตนเองที่จะทำสิ่งที่ดีให้กับชีวิตของตนต่อไป ปฏิบัติตามหน้าที่และบทบาทของตนในปัจจุบันให้ดีที่สุด การคิดคำนึงถึงอดีตที่ผิดพลาดไม่ได้ช่วยให้ชีวิตของเราก้าวไปข้างหน้าได้ มีแต่จะคอยบั่นทอนกำลังใจและการปิดกั้นการรับรู้ต่อสิ่งที่ดีที่เข้ามาในชีวิต


ครอบครัวมีส่วนสำคัญอย่างมากตั้งแต่การพัฒนาการในช่วงวัยเด็ก ที่จะปลูกฝังในเรื่องจริยธรรม ความถูกต้อง ตลอดจนค่านิยมที่ดีงามต่างๆ ในสังคม นักจิตวิทยาพัฒนาการพบว่าการปลูกฝังค่านิยมที่ดีตั้งแต่วัยเด็ก รวมถึงการสร้างความรู้สึกว่าตัวเด็กมีคุณค่าและเป็นคนดี เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เขายึดมั่นในค่านิยมที่สังคมยอมรับเมื่อเขาเติบโตขึ้น และมีการปรับตัวอย่างเหมาะสมเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นรอบตัว โดยเฉพาะเมื่อเขาอยู่ในช่วงวัยรุ่น การที่พ่อแม่เข้มงวดหรือห้ามไม่ให้วัยรุ่นคบเพื่อนต่างเพศ ไม่ใช่หนทางป้องกันหรือแก้ปัญหาที่ดีนัก เพราะนั่นคือความสนใจที่เกิดขึ้นตามช่วงวัยของเขา


เมื่อเด็กพัฒนาเข้าสู่การเป็นวัยรุ่น พ่อแม่ควรปฏิบัติตนให้เป็นเสมือนที่พึ่งและที่ปรึกษาให้แก่เขา มีความเข้าใจถึงพัฒนาการและความต้องการของเขา คอยชี้แนะแนวทางการปฏิบัติและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง ปัจจุบันเราพบว่าครอบครัวส่วนใหญ่ไม่มีเวลาพูดคุยและปรึกษาให้กับวัยรุ่น เด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่มักบอกว่า มีปัญหาอะไรไม่เคยเล่าให้พ่อแม่ฟัง เพราะบางครั้งรู้สึกไม่กล้าหรือรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจ มักห้ามปรามและตำหนิพวกเขามากกว่าที่จะรับรู้ถึงความต้องการของเขา ด้วยในช่วงวัยที่มีความสนใจและคล้อยตามเพื่อนทำให้วัยรุ่นส่วนใหญ่เชื่อฟังเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ และหากพ่อแม่ไม่เป็นที่พึ่งและที่ปรึกษาที่ดีแล้ว วัยรุ่นก็จะระบายความรู้สึกและรับฟังแนวทางการแก้ปัญหาจากกลุ่มเพื่อน ซึ่งบางครั้งก็เป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่ไม่เหมาะสมนัก


จะเห็นได้ว่าปัญหาวัยรุ่นที่เกิดขึ้นแท้จริงแล้วมิใช่เพียงตัววัยรุ่น สภาพแวดล้อม หรือสื่อต่างๆ เท่านั้นที่มีผลต่อพฤติกรรมทางเพศและปัญหาปรับตัวอื่นๆ แต่ครอบครัวเป็นปัจจัยหลักที่เสริมสร้างและชี้แนะแนวทางการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กวัยรุ่นนั่นเอง


ทัศไนย วงศ์สุวรรณ
นักจิตวิทยา
ที่มา http://www.jvkk.go.th/jvkkfirst/story/health/43.htm 
ภาพประกอบจาก http://www.clipmass.com/