ความสุขสร้างได้ด้วยการ รู้จักตนเอง
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2014-05-02 15:05:53
บางครั้งที่เราส่งใจออกไปเปรียบเทียบ วุ่นสะสางชีวิตผู้อื่น เป็นการเสียเวลาอันมีค่ายิ่งในการสร้างสรรค์ตนเอง ให้มีชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวในโลกแบบที่มีเราเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถ เป็นได้
บางครั้งที่เราใช้ความกลัวเป็นเครื่องมือเดินนำชีวิต หากทำบ่อยๆ ครั้งจนขาดความกล้าหาญที่จะตั้งเป้าหมายค้นหาเอกลักษณ์ และมีชีวิตในรูปแบบของตนเองจริงๆ ที่ไม่ต้องพึ่งพาและต้องตกอยู่ภายใต้อิทธิพลการควบคุมของผู้อื่น เหตุการณ์ และสถานการณ์ใดๆ ภายนอก เพราะมีความเป็นตัวของตัวเองในทางที่ถูกต้อง งดงามที่หนักแน่น มั่นคง กล้าจริงใจและมอบความรักให้กับตนเองและผู้อื่น ฯลฯ จนสั่งสมเครื่องมือสำคัญ คือ การใช้ BRAVE HEART : ทำความรู้จักตนเองอย่างกล้าหาญ
มีผู้กล่าวว่าผู้รู้จักตนเองจะสามารถพัฒนาเป็นคนที่มีความสุขที่สุด คนที่รู้จักตนเองคือ คนที่รู้ว่าตนเองต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร รู้ว่าตนเองทำอะไรได้ดี และต้องพัฒนาศักยภาพด้านใด หากด้านนั้นๆ คือ ข้อจำกัดของตนเอง คนที่รู้จักตนเอง กล้าหาญในการตั้งเป้าหมายในชีวิต ไม่ใช้ชีวิตทำงานไปวันต่อวันในสถานที่ และสภาพแวดล้อมที่ขัดกับความต้องการเบื้องลึกของจิตวิญญาณตนเองอย่างมาก หรือปล่อยลมหายใจทิ้งไปกับความฝันในอนาคตที่พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะมาถึงจริงๆ ไหม คนที่รู้จักตนเองจะฝึกใจตนให้มีความมุ่งมั่นแต่ยืดหยุ่น เรียนรู้เข้าใจ และเข้าถึงตนเอง จึงเข้าใจผู้อื่นและเข้าใจโลก คนที่รู้จักตนเองไม่ใช้ชีวิตแบบเห็นแก่ตน และไม่เอาแต่ใจตัวเองจนเดือดร้อนตนเองและคนรอบข้าง เพราะเขารู้ดีว่าการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมของคนหมู่มากนั้น ความแตกต่างแต่ละปัจเจกเป็นเรื่องธรรมดา และผู้ที่รู้จักตนเองให้ความสำคัญและให้คุณค่าในเรื่องความสัมพันธ์กับตนเอง และผู้อื่นมากพอ เพราะสิ่งนี้คือด้านหนึ่งแห่งการเชื่อมโยงซึ่งการได้มาซึ่งความสำเร็จใน ชีวิต
คนที่รู้จักตนเองเข้าใจชีวิตว่าเปรียบเหรียญที่มีสองด้าน ไม่สุดโต่ง ตัดสินตนเองและผู้อื่นจนเป็นนิจ เพียงเพราะตนเองมีโอกาสมากกว่าจึงทำทุกสิ่งด้วยความมั่นใจเกินพอดีจนกลาย เป็นการสะสมพอกพูนอัตตาให้ตัวเอง ทว่าความเมตตาถ่อมตนที่แท้ค่อยๆ หนีหายจากความคิดและจิตใจพร้อมรับตัวมารร้ายเข้ามาแทนที่ทำให้ทิ้งผลลัพธ์ คือ ความเกรี้ยวกราด ความรัก ความสงบ สุขที่ลดน้อยลงในชีวิต
การเรียนรู้ที่จะรู้จักตนเองอย่างแท้จริง สามารถทำให้เจ้าของชีวิตเป็นคนมีความสุขได้ง่ายกว่าคนที่เฉลียวฉลาด ทำไมจึงมีการกล่าวเช่นนี้? เพราะหลายครั้งคนที่ฉลาดปราดเปรื่องรู้ไปหมดทุกเรื่องแต่ดูดีภายนอกกลับแก้ ปัญหาชีวิตของตนเองไม่ได้หรือไอคิวสูง อีคิวไม่สูงเท่าเพราะมีการรับรู้มาก เป็นที่คาดหวังจากผู้อื่นและสังคมมาก หากไม่จัดการอารมณ์ และจัดความสมดุลในด้านอื่นๆ จะเท่ากับการเพิ่มพูนภาระให้จิตใจตนเองมากขึ้น ยังไม่รวมกับการทำตนเองให้ดูดีเพื่อผู้อื่นแต่เพียงเปลือกนอกหากภาพภายนอก กับสภาพใจภายในขัดแย้งกัน จะทำให้ใจไม่มีความสงบ ความสุขในระดับที่เบิกบาน และไม่สามารถผ่อนคลายในชีวิตอย่างแท้จริง ดังนั้นคนที่รู้จักตนเองไม่ยอมเล่นบทบาทที่ผู้อื่นกำหนดให้จนหลงลืมตัวจริง ว่าตนเองเป็นใคร รักอะไร ชอบอะไร ไม่เก่งอะไร เก่งอะไร แต่ทำทุกอย่าง จับงานทุกชิ้น แทรกตัวอยู่ในองค์กร สังคมแบบขาดภาวะการเป็นตัวตนที่จริงแท้ หรืออีกนัยหนึ่งขาดความเป็นผู้นำ
เพราะความคิดและปกปิดจิตใจแห่งความศรัทธาในการกล้าหาญในการแสดงความเป็น ตัวตนของตัวเองออกมาให้ตัวตนได้รับบทเรียน เติบโตจากการเรียนรู้ถูก ผิดโดยกระบวนการธรรมชาติ
ชีวิตคือการเดินทางและทุกชีวิตมีจุดหมายปลายทางที่ผู้ที่รู้จักตนเอง กล้าเป็นตนเอง ค้นหา หรือสร้างสรรค์ตนเองอย่างกล้าหาญ และเข้าใจชีวิต จะมีความคิด มีพลัง และพฤติกรรมในการสร้างผลลัพธ์แห่งตนอย่างเป็นเอกอุกับความเป็นตนเองอย่าง เต็มที่ให้ดีที่สุดในสนามชีวิตแห่งนี้
ผู้เข้าใจตนเองจะทบทวนตนเอง หาทางทุกวิธี ที่จะเรียนรู้ความชอบ ความถนัด บุคลิก พฤติกรรมของตนโดยให้เวลาในการใช้เวลาอยู่กับตนเอง ฟังเสียงความคิดในหัวตนเอง หรือ วิเคราะห์คนที่เป็นไอดอล หรือ ฮีโร่ในชีวิตที่ตนชอบ เพื่อสำรวจตนและสร้างประสบการณ์ในการทำความรู้จักตนเองในแบบแผนของตนเองไปที ละขั้นๆ
แง่คิดเกี่ยวกับผู้ที่รู้จักตนเองสามารถเริ่มต้นได้จากขั้นตอนง่ายๆ คือ ยอมรับตนเอง และยินดีปรีดากับความทุกข์ ความสุข ของอารมณ์ตนเองในทุกแบบที่เราเป็นจริงๆ เข้าใจว่าทั้งสองสิ่งนี้คือธรรมดาที่เกิดสลับกันภายในการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ ของชีวิตมนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะฉลาด รวย จน เก่ง สวย หล่อ เพียงใด
การรู้จักตนเองต้องใช้ความกล้าตัดสินใจ กล้าเลือก กล้าเรียนรู้ กล้าทำในสิ่งที่บางครั้งเป็นการเปลี่ยนแปลง มีความแตกต่างแต่ถูกต้องและรอบคอบ คนที่รู้จักตนเองจะให้และรับอย่างผู้มีปัญญา กล้าทำความคิดในปัจจุบัน และลงมือทำความฝันอย่างต่อเนื่องให้เป็นผลลัพธ์รูปธรรมอย่างแท้จริง
โดยตั้งใบเรือแห่งความคิด ความเชื่อ และเลือกความสนใจของตนให้อยู่ในกระแสพลังบวกอยู่เสมอ กูรูชีวิตมากมายทั่วโลกกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งใดที่เราเพ่งจ้องให้ความสำคัญหรือให้ความสนใจ สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น ขยายตัวขึ้น ชัดเจน มีมากขึ้นในชีวิตเรา ประเด็นคือ หากเราเชื่อหมดใจว่าเราหาตนเองไม่เจอ ไม่ดี ไม่สวย ไม่รวย ไม่เก่ง สารพัดไม่ สิ่งที่เราเชื่อก็จะขยายเป็นรูปธรรมในชีวิตให้เราเห็นว่า แม้อายุผ่านมาเท่าไหร่ เราก็ยังค้นหาตนเองไม่พบและไม่กล้าสร้างสรรค์ตัวเราในเอกลักษณ์แบบหนึ่ง เดียว เราคือเราที่ดีที่สุด
สำหรับเราทุกคนที่สนุกสนานกับการทำความรู้จักตนเองคือ รู้ว่าเราคือใคร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เกิดมาเป็นอะไรในเวอร์ชั่นใดที่ดีที่สุดโดยการใส่ความเชื่อ ความศรัทธาในตนเองอย่างลึกซึ้งจากภายใน มองโลกเหมือนทุกวันเป็นวันใหม่ ทุกวินาทีคือการเกิดใหม่
ที่สำคัญโปรแกรมความคิดในหัวทุกวันบอกตัวเองว่าเราเกิดมาเพื่อเป็น ประโยชน์ต่อตนและคนอื่นอย่างมั่นคง สุขใจ สร้างสรรค์ ซึ่งการที่จะทำได้เต็มที่นั้น ต้องเริ่มให้ความสำคัญต่อการรู้จักตนเองให้ชัดเจนและกล้าหาญตั้งเป้าหมาย และดำรงชีวิตในแบบของตนเองอย่างแท้จริงอย่างมุ่งมั่น ว่าเรารู้เป็นใครในโลกใบใหญ่นี้
สำหรับผู้ที่ค้นหาตนเองไม่เจอ ลองหาสิ่งดีๆ ที่น่าชื่นชมในตนเอง สร้างทัศนคติที่ปราศจากอคติต่อตนเอง สะสมในความคิดไว้ แล้ววันหนึ่งพลังงานสร้างสรรค์จะออกมาหลอมรวมกับพลังบวกที่สะสมไว้ในใจจน เป็นผู้ที่รู้จักตนเอง และกล้าหาญในการเป็นตนเองในเวอร์ชั่นที่ความสุขที่สุดในแบบของเรา
ขอพลังแห่งสถิตในหัวใจคุณในการสร้างสรรค์และค้นหาตนเอง
ที่มา : ดร.วรัญญา สะอาดเอี่ยม หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
http://www.thaihealth.or.th/Content/19472