www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




แนะแนว > คนต้นแบบ

อ. ดร. ธนิก เลิศชาญฤทธ์ : โบราณคดี ศึกษาอดีตเพื่อเรียนรู้ปัจจุบัน
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2012-10-29 14:03:59

 

  "โบราณคดีเป็นเรื่องที่ควรจะอยู่ในสายเลือดของมนุษย์  เพราะมนุษย์มีที่มาที่ไปมีหลักฐานที่สามารถย้อนไปได้ไกลว่าเราเป็นใครมาจากไหน ไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถและก็น่าจะเป็นเรื่องที่สนุกโดยธรรมชาติของมัน"

 

อยากเป็นนักโบราณคดีต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

 

                   โบราณคดีถือเป็นสาขาที่มีการศึกษามีแนวทางในการศึกษาของตัวเองมานานแล้ว นักโบราณคดีที่มีอยู่ในโลกปัจจุบันนี้ก็จะไม่มีลักษณะพิเศษอะไรมากนัก ผู้หญิงก็ทำงานโบราณคดีได้ ผู้ชายก็ทำงานโบราณคดีได้ แต่ในอดีตส่วนมากจะเป็นผู้ชาย อาจจะเป็นเพราะว่าธรรมชาติของโบราณคดีคืองานภาคสนาม เช่น การไปสำรวจ การไปขุดค้น ใต้ดินใต้น้ำ ส่วนมากผู้ชายก็จะสนใจ แต่ตอนหลังก็มีผู้หญิงเข้ามาทำงานมากขึ้น ถ้าพูดถึงปัจจุบันสัดส่วนของผู้หญิงมากกว่าผู้ชายด้วยซ้ำไป และงานโบราณคดีก็ยังต้องการความละเอียด การคิดวิเคราะห์ที่เป็นเหตุเป็นผลไม่เน้นจินตนาการความคิดเห็นส่วนตัว หรือพื้นฐานทางวัฒนธรรมตัวเองในการตัดสิน หรือในการวิเคราะห์ตีความ แปลความหมายของหลักฐานที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต  เพราะว่าหลักฐานทางโบราณคดีหลายอย่างเกิดขึ้นเมื่อหลายหมื่นหลายแสนล้านปี คนที่จะเรียนโบราณคดีก็ไม่ได้มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากคนที่เรียนสาขาอื่นมากนัก  แต่ว่าส่วนหนึ่งก็คือต้องมีความสนใจใคร่รู้อยู่สม่ำเสมอ เพราะหลักฐานทางโบราณคดีมีการค้นพบใหม่อยู่เสมอ ต้องสนใจติดตามความเคลื่อนไหวทางด้านโบราณคดีหรือหลักฐานใหม่ๆ พิเศษนิดหน่อยก็คือเรื่องของการรักษาสุขภาพเพราะการทำงานภาคสนามบางพื้นที่ก็อยู่ในทะเลทราย บางพื้นที่ก็อยู่ในป่าฝนเขตร้อน บางที่ก็อยู่เขตหนาวเย็นมาก สุขภาพร่างกายและความแข็งแรงก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้งานโบราณคดีประสบความสำเร็จ

                    นอกจากนี้แล้วยังต้องมีทักษะในเรื่องของการคิดการวิเคราะห์การเขียนการติดต่อประสานงานกับผู้อื่น จริงๆโบราณคดีไม่ใช่เรื่องที่ทำเองโดยกลุ่มนักโบราณคดีเท่านั้น เดียวนี้โบราณคดีทำงานกับคนอื่นมากมาย เช่นนักวิชาการหรือประชาชน ชาวบ้าน อื่นๆที่คนเริ่มสนใจโบราณคดีมากยิ่งขึ้น ทักษะเรื่องของการพูดคุย การเจรจาต่อรอง การทำงานร่วมกับคนอื่นไม่ใช่มองในงานของตัวเองเท่านั้นอันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ  ปัจจุบันโลกเราเชื่อมต่อกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น สำหรับผมโดยส่วนตัวภาษาก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน โดยเฉพาะภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาสากล  เพราะเป็นภาษาที่เราใช้ติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นเพราะว่างานส่วนมากทางโบราณคดีที่มีการศึกษาแล้วตีพิมพ์ หรือเวลามีการจัดสัมมนา ประชุม เขามักจะมีการนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นถ้าเราอยากจะติดตามความเคลื่อนไหวทักษะทางภาษาอังกฤษก็จะมีความสำคัญมากๆ เลย

วิชาการทางโบราณคดีคืออะไร ศึกษาเรื่องอะไรบ้าง

                    โบราณคดีเป็นงานที่ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับคนในอดีต นักโบราณคดีได้ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการศึกษาในการตีความหลักฐาน  หลักฐานทางโบราณคดีใช้มันเกินขึ้นเมื่อหลายๆหมื่นหลายแสนล้านปีมาแล้ว เราไม่มีทางรู้แน่ชัดว่าคนในอดีตเขากินอยู่กันอย่างไงหรือเขาคิดเขาเชื่ออย่างไรเราพยายามจะหาหลักฐานและวิธีการศึกษาให้มันน่าเชื่อถือที่สุด อย่าง เช่นการบอกอายุเราไม่ได้ดูที่รูปแบบรูปทรงอย่างเดียว  เราใช้เทคนิคทางวิทยาศาสตร์ให้ได้ค่าอายุที่สมบูรณ์หรืออายุที่แน่นอนว่ากี่หมื่นปีมาแล้วกี่พันปีมาแล้ว  ไม่ใช่แค่บอกว่าเก่ากว่าใหม่กว่าเฉยๆ ต้องมีวิธีการพิสูจน์ให้น่าเชื่อถือ

                    เราจะใช้กระบวนการศึกษาที่เป็นวิทยาศาสตร์ การขุดค้นเราก็ต้องขุดค้นที่เป็นระบบขุดตามระดับพื้นดิน ดูการเปลี่ยนแปลงของพื้นดิน ดูหลักฐานที่เปลี่ยนแปลงตามระยะเวลาตามชั้นดิน ไม่ใช้จิตนาการของตัวเองไม่ใช้การนึกคิดใช้การคิดวิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นเป็นผลเป็นระบบ อีกแง่หนึ่งโบราณคดีก็เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์เกี่ยวข้องกับสังคมมนุษย์เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมมนุษย์    หลายๆ คนจึงมองว่าโบราณคดีเป็นสาขาหนึ่งทางด้านสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์เพราะโบราณคดีศึกษาในเรื่องของคน คนมีความหลากหลายมีความคิดมีความสนใจมีพื้นฐานทางวัฒนธรรมมีความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป

                     ฉะนั้นเวลาเราจะศึกษาเราต้องเข้าใจพื้นฐานของคนเหมือนกันบางทีเราก็ต้องแนะนำให้รู้จักธรรมชาติของมนุษย์ศึกษาให้เข้าใจวัฒนธรรมของมนุษย์เวลาศึกษาเราจะศึกษาเปรียบเทียบกับวัฒนธรรมของคนกลุ่มต่างๆเพื่อที่จะเข้าใจว่าคนทำไมถึงแต่ต่างกันถึงมีความหลากหลายด้านความคิดด้านวิธีคิดด้านวัฒนธรรมมันส่งผลถึงหลักฐานที่เป็นวัตถุที่เราค้นพบ โบราณคดีเป็นเรื่องของการศึกษาคนไม่ใช้ศึกษาสิ่งของเราศึกษาเพื่อเข้าใจคนจากสิ่งของที่คนเขาทิ้งไว้จากร่องรอยจากโบราณสถานจากสิ่งก่อสร้างทั้งหมดที่คนผลิตคนสร้างคนใช้และคนทิ้งไว้  รวมทั้งบางอย่างที่คนไม่ได้ผลิตแต่ใช้ เช่นกระดูกสัตว์ ฉะนั้นหลักฐานที่มันเกี่ยวข้องกับคนทั้งที่คนทำขึ้น คนไม่ได้ทำขึ้นแต่คนนำมาใช้เราก็ศึกษาหมด

 

วิชาโบราณคดีแขนงต่างๆ

                     โบราณคดีแบ่งออกได้หลากหลายแขนงมากขึ้นอยู่กับความสนใจ ขึ้นอยู่กับลักษณะ ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ ขึ้นอยู่กับช่วงยุคสมัย เช่นถ้าสนใจเรื่องยุคสมัยก็จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆคือโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์หรือโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์  และโบราณคดียุคประวัติศาสตร์ โบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์คือยุคที่มนุษย์ยังไม่มีการใช้ตัวอักษรยังไม่มีการบันทึกเรื่องราวเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่มีศิลาจารึก  ไม่มีแผนที่ไม่มีบันทึกที่เขียนด้วยลายมือ อีกกลุ่มหนึ่งคือโบราณคดียุคประวัติศาสตร์ คือยุคที่มีการผลิตคิดค้นการเขียนบันทึกด้วยลายลักษณ์อักษร ในแง่ความสนใจเฉพาะทางอาจจะเลือกโบราณคดีทางด้านสิ่งแวดล้อม  หรือลักษณะของโบราณคดีใต้น้ำ  โบราณคดีที่เน้นการศึกษาวิเคราะห์กระดูกสัตว์  หรือโบราณคดีที่สนใจทางด้านโครงกระดูกมนุษย์  แล้วแต่ความสนใจมีหลากหลายมาก  แล้วแต่ความถนัดของนักโบราณคดี

โบราณคดีรอบตัวเรา เรียนรู้ได้ง่ายๆ หลากหลายอาชีพรองรับ

                    โบราณคดีความหมายของมันก็คือวิชาที่ว่าด้วยการศึกษาเรื่องอดีตเรื่องของความเก่าแก่ โบราณคดีเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเรามองไปรอบตัวเราจะเห็นสิ่งที่เป็นของเก่าแก่เยอะเลย ฉะนั้นโบราณคดีเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวเป็นเรื่องที่อยู่กับเราตลอดเวลา ถ้าคนที่สนใจโบราณคดีสนใจเรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบตัวสนใจว่าตัวเองเป็นใครมาจากหนหรือสนใจเรื่องผู้อื่นว่าผู้อื่นเป็นใครมาจากไหน แค่มีมุมมองหรือคิดอย่างนี้ก็สามารถเรียนโบราณคดีได้อย่างมีความสุขได้อย่างสบาย ได้อย่างประสบความสำเร็จแน่นอน จริงๆแล้วโบราณคดีไม่ใช่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เสมอไป บางประเทศเขาเปิดสอนเรื่องโบราณคดีตั้งแต่อนุบาล

                    โบราณคดีเป็นเรื่องที่ควรจะอยู่ในสายเลือดของมนุษย์  เพราะมนุษย์มีที่มาที่ไปมีหลักฐานที่สามารถย้อนไปได้ไกลว่าเราเป็นใครมาจากไหน ไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถและก็น่าจะเป็นเรื่องที่สนุกโดยธรรมชาติของมัน ฝึกคิดถ้าคนชอบแนวนี้ก็อยากให้มาเรียนโบราณคดี ไม่ต้องห่วงเรื่องงานทำเพราะว่าถ้ามีความสุขสามารถคิดเรื่องราววิเคราะห์ต่างๆ ได้  ผมคิดว่าไปทำงานในองค์กรไหนก็ได้เดียวนี้องค์กรต่างๆ ทั่วโลกก็สนใจคือนำความรู้ทางด้านโบราณคดีไปใช้ในการทำงาน เดียวนี้มีองค์กรที่เราไม่นึกว่าเขาจะต้องการนักโบราณคดีก็มีเยอะนะคับ ไม่เฉพาะองค์กรที่เกี่ยวข้องกับโบราณคดีโดยตรงอย่างเช่นกรมศิลปากรหรือกระทรวงวัฒนธรรม ขึ้นอยู่กับตัวเองว่าเราอยากจะเป็นนักวิชาการ อยากเป็นอาจารย์ อยากเป็นนักโบราณคดีของกรมศิลปากร อยากจะเป็นนักธุรกิจหรืออยากจะทำงานในองค์กรนานๆชาติอื่นๆก็ได้