เรื่องและภาพ: กัลยาณี แนวเล็ก

 กัส ณัฐชา 
 Jewelry Design SU 

“ปีนี้เทรนด์จะออกเป็นฮิปปี้ค่ะ จะเป็นโทนสีสันแบบฉูดฉาด แต่ก็จะมีแบบโทนสีที่ตุ่น ๆ ด้วย” คำตอบของ กัส-ณัฐชา แซ่ตั้ง รุ่นพี่ปี 4 ภาควิชาออกแบบเครื่องประดับ คณะมัณฑนศิลป์ ม.ศิลปากร เมื่อถามถึงแนวโน้มเทรนด์ปี 2016 นอกจากเรื่องแฟชั่นแล้ว ออกแบบเครื่องประดับจะได้เรียนรู้อะไรบ้าง สไตล์ไหนกำลังมา ออกแบบแบบไหนถึงติดตลาด พี่กัสพร้อมตอบทุกคำถามชาว #AdGang59 ที่รักการออกแบบจิวเวลรี่ไม่ควรพลาด

เรียนเพราะชอบเครื่องประดับ
เป็นคนชอบแอกเซสเซอรีอยู่แล้ว พอมาศึกษาว่าเครื่องประดับในศิลปากรเรียนอะไรบ้าง เราก็เลยไปติวทางด้านออกแบบเครื่องประดับโดยเฉพาะ แล้วก็รู้สึกชอบ พอมาสอบมาเรียนก็ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่เลยค่ะ

คณะเราจะเป็นสอบตรงอย่างเดียว สอบทั้งหมด 3 อย่าง ก็คือมีสอบความถนัดทางด้านการวาดเส้นก็คือ ดรออิ้ง ความถนัดทางด้านการออกแบบเครื่องประดับ และวิชาการมี คณิตศาสตร์ อังกฤษ สังคมค่ะ โดยคะแนนจะต้องถึงเกณฑ์ค่ะ

ดรออิ้งนี่แต่ละปีก็จะไม่เหมือนกัน บางปีก็จะให้วาดหุ่นนิ่ง หรือบางปีก็จะให้วาดมือ เช่น ถือช้อน หรือแก้วน้ำพลาสติก ซึ่งน้ำหนักแสงเงาก็ต้องครบถ้วนไม่งั้นคะแนนก็จะได้น้อย

พอเข้ามาเรียนดี ดีกว่าที่คิดด้วยซ้ำ เพราะว่าอยู่กันเป็นแบบครอบครัวแล้วก็สนุก แต่ว่าก็เรียนหนัก แทบจะไม่ได้นอนเลย เพราะว่าเราต้องทำโปรเจ็กต์ส่งตลอด แล้วก็อยู่กับเพื่อนก็สนุก ไม่ได้เครียด เป็นชีวิตมหา'ลัยที่รู้สึกสนุกที่ได้มาเรียนที่นี่ค่ะ
 

หลักสูตรออกแบบเครื่องประดับ
ปีหนึ่ง เราจะเรียนพื้นฐานทางด้านดรออิ้งก่อน เพื่อให้แน่นทางด้านดรออิ้ง และเรียนเครื่องประดับ คือในทุกอาทิตย์ต้องมีเรียนเครื่องประดับทุกวัน แต่ว่าเราก็จะมีเรียนทางด้านปรัชญาทางสุนทรียศาสตร์เกี่ยวกับศิลปะและก็จะมีการเข้าช็อปเพื่อทำชิ้นงานจริง จะเรียนพวกการเชื่อม การฉลุ ก่อนเป็นพื้นฐานของการทำเครื่องประดับ ฉลุ เชื่อม ถัก เรียนรู้วัสดุในการทำเครื่องประดับที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่เป็นทองเหลือง ไม่ใช่แค่เป็นเงิน แต่เราสามารถเอาวัสดุที่อยู่รอบตัวมาทำเป็นเครื่องประดับได้ ตอนแรกที่เข้ามาเรียนเราก็คิดว่าเป็นเงินเป็นทองอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย เครื่องประดับมันเป็นสิ่งที่อยู่รอบกายเราและมันก็สามารถที่จะเป็นแบบปรัชญาในการสอนเรา หรือยึดเหนี่ยวจิตใจเราก็ได้ค่ะ

ปีสอง เป็นรูปแบบการพัฒนาโปรเจ็กต์ ซึ่งเราเรียนทั้งหมด 2 เทอม แล้วก็จะมีชิ้นงานทั้งหมด 2 ชิ้น ซึ่งวิธีการเรียนมันจะเป็นระบบ คือเราจะเริ่มคิดโปรเจ็กต์ วิเคราะห์โปรเจ็กต์และก็ทำชิ้นงานจริง แต่เราต้องคิดวิธีการคิดชิ้นงานให้จบ ต้องคิดอย่างเป็นระบบว่าทำไมเราถึงทำในรูปแบบนี้ ทำไมเราถึงเลือกใช้วัสดุนี้ ทำไมเราถึงทำออกมาแล้ววางในตำแหน่งนี้ค่ะ อย่างจิวเวลรี่บอดี้ ว่าเครื่องประดับมันสัมพันธ์กับร่างกาย มีผลต่อจิตใจและก็มีผลต่อร่างกายของเราด้วยค่ะ เราก็จะเรียนรู้ทางด้านบอดี้ส่วนต่าง ๆ ว่ามันแบบสัมพันธ์ยังไงกับชิ้นงานเครื่องประดับหรือเปล่า

ปีสาม ก็จะเป็นโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ขึ้นเป็นโปรเจ็กต์ที่เราทำเครื่องประดับให้กับบุคคลที่มีชื่อเสียง กัสออกแบบให้พี่พลอย จริยะเวชค่ะ คือเขาจะชอบฟลามิงโก ชอบทำกิจกรรมในสวนของเขา ซึ่งมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนมาก ในตอนนั้นก็ทำออกมาเป็นรูปแบบของสวนของเขา แต่ว่าทำเป็นชุดเขียนหนังสือ ซึ่งประกอบไปด้วยปากกา ดินสอ แว่นขยาย ซึ่งเครื่องประดับด้านบนของปากกา ก็สามารถดึงเป็นเครื่องประดับได้ อาจจะเป็นสร้อยดึงออกมาเป็นแหวนอะไรแบบนี้ค่ะ ก็สนุกดี และมีเรียนการตลาด ว่าจะต้องขายในกลุ่มลูกค้าลักษณะไหนหรือว่ากลุ่มเป้าหมายในการทำชิ้นงานชิ้นนี้ เราให้ใครกลุ่มลูกค้าเด็กหรือวัยรุ่นหรือคนวัยทำงาน ซึ่งเครื่องประดับออกมามันก็จะมีความแตกต่างกันในกลุ่มลูกค้าค่ะ อย่างมีช่วงหนึ่งที่เราต้องตามหินสี ว่ากลุ่มลูกค้าตอนนี้เทรนด์หินสีกำลังมานะ แต่ตอนนี้เทรนด์นั้นก็เงียบไปและจะค่อนข้างเป็นมินิมอลมากขึ้นเราก็ต้องตามไปเรื่อย ๆ ค่ะ

แล้วปีสี่ ก็จะเป็นธีสิสที่เป็นการบูรณาการตั้งแต่ปี 1 ถึง ปี 3 ออกมาเป็นชิ้นงานที่ ที่เผยแพร่ออกมาให้กับคนอื่นได้เห็นว่าในสามสี่ปีที่เราเรียนมาเราได้อะไรบ้าง
 

วิชาสุดหิน
จริงๆ ก็ยากทุกวิชานะคะ แต่ยากที่สุดคือเครื่องประดับ เพราะว่าเหมือนเราต้องเข้าช็อปทำชิ้นงานจริง ไม่สามารถที่จะไปจ้างคนอื่นแล้วมาทำชิ้นงานได้ตรงตามใจเรา ฉะนั้นเราต้องทำชิ้นงานเอง วิธีที่เราไม่รู้ก็ต้องศึกษาเองว่ากระบวนการในการทำแบบนี้นะ เราต้องเรียนรู้เองยากตรงที่ต้องไปเรียนรู้ใหม่จากสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนค่ะ แล้วทำออกมาให้ได้
 

ตั้งแต่เรียนมาคิดว่าวัสดุไหนเอามาทำเป็นเครื่องประดับยากที่สุด
แก้วค่ะ ยากมากเพระว่าเราไม่สามารถควบคุมฟอร์มได้ เราไม่ได้ชำนาญ แก้วพอเราทำออกมาเป็นเครื่องประดับมันสวยมากเลยนะ แต่ว่าด้วยความที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านเป่าแก้วมา พอได้ทดลองทำเรารู้สึกว่ามันยากมากในการควบคุมฟอร์ม มันไม่เหมือนทองเหลืองที่เราควบคุมฟอร์มเองได้ แต่แก้วค่อนข้างจะคุมยากแต่เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากในการทำเครื่องประดับค่ะ
 

มีโปรเจ็กต์ทุกเทอม
เทอมหนึ่งเราจะทำโปรเจ็กต์ทั้งหมด 2 ครั้ง จะมีโจทย์กำหนดมาให้ อาจจะเป็นเครื่องประดับ บอดี้จิวเวลรี่ หรือทำให้บุคคลสำคัญหรือทำให้อาเซียน อย่างปี 3 เทอม 2 ก็ทำอาเซียน ซึ่งเขาจะกำหนดมาว่าเราอยากทำประเทศอะไร บางคนกำหนดว่าทำประเทศไทย บางคนทำมาเลเซีย แต่ว่าเราก็ต้องดึงจุดเด่นของทางประเทศของเขามา ไม่ใช่แค่ดึงประเพณีมา ไม่ใช่แค่ดึงการแต่งกายของเขามา แต่ดึงลึกเข้าไปกว่านั้น เช่น เราดึงชนพื้นเมืองของเขาเข้ามาทำลวดลายที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนซึ่งน่าสนใจมาก ตอนที่ทำโปรเจ็กต์นี้ เราก็เห็นว่าประเทศเพื่อนบ้านมีอะไรบ้าง ซึ่งเราก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะว่า เพื่อนๆ เขาก็ทำหลากหลายกัน

ตอนนั้นกัสทำมาเลเซียค่ะ รู้สึกว่ามาเลเซียน่าจะมีความเป็นแขกผสมกับความเป็นจีน และรู้สึกว่าลายเขาน่าจะสวยก็เลยเลือกทำมาเลเซีย ทำเป็นกระเป๋าคลัทช์ แต่ว่ากระเป๋าคลัทช์ตรงฝาเปิดที่สอดมือถือเราก็ดึงออกเป็นเครื่องประดับได้ แล้วก็เหมือนเป็นจิวเวลรี่ที่เป็นพวงกุญแจ พอหมุนหัวออกมาก็จะเป็นแหวนที่ซ่อนอยู่ มันก็เป็นดีเทลของกระเป๋าแต่ว่าเราก็สามารถเป็นเครื่องประดับได้เช่นเดียวกัน เป็นการบูรณาการไปค่ะ
 

โปรเจ็กต์จบ
ทำในรูปแบบของการปฏิรูปรัสเซียคือหลังการล่มสลายของรัสเซีย วิธีการปรับตัวของคนค่ะ เหมือนเราก็จะดึงรูปแบบวิถีชีวิตกับเรื่องของการแต่งกายที่เปลี่ยนไปจากพื้นเมืองเป็นทหารแบบโซเวียตที่ต้องออกรบอะไรประมาณนี้ ก็จะทำเป็นเครื่องประดับ คือมันมีอะไรที่มากกว่าสิ่งที่เราเห็น เราทำชิ้นงานออกมามันอาจจะมีประวัติศาสตร์ที่แทรกอยู่นั้นมันอาจจะเป็นคติที่เรามองแล้วรู้สึกว่าอดีตของเขาเป็นแบบนี้นะแล้วปัจจุบันเป็นลักษณะนี้ค่ะ
 

ฝึกงาน เรียนรู้จริง
เราสามารถเลือกสายฝึกงานได้ว่าจะฝึกทางโรงงานหรือด้านแฟชั่นไปเลย แต่ว่ากัสฝึกทางด้านแฟชั่นคือแบรนด์พอชค่ะ เป็นแนว คอสตูมจิวเวลรี่ จะได้เห็นว่าดาราที่ใส่ถ่ายรูปเขามีกระบวนการให้ยืมสินค้ายังไง เป็นเหมือนวิธีการโฆษณาของเขาลักษณะไหน ซึ่งเครื่องประดับของแบรนด์พอชน่าสนใจมากตรงที่มันไม่ใช่เครื่องประดับแบบแมสทั่วไป แต่ว่าเป็นคราฟท์คือทำด้วยมือทุกชิ้น ซึ่งเราก็จะเห็นวิธีกระบวนการในการทำเครื่องประดับที่ไม่ใช้โลหะแต่ว่าใช้วัสดุแบบพลาสติกเพื่อน้ำหนักเบามากขึ้น
 

Jewelry Designer
ต้องเป็นคนละเอียดนิดหนึ่ง เพราะเครื่องประดับเป็นชิ้นงานที่เล็กแล้วทุกอันมีรายละเอียดในตัวค่ะ ฉะนั้นถ้าเราเป็นคนละเอียดเราก็จะเก็บรายละเอียดในทุกสัดส่วนและมันยิ่งจะทำให้ชิ้นงานดูสวย หรือว่าแค่เราชอบศิลปะมันก็สามารถที่จะเรียนอะไรได้แล้วค่ะ จริง ๆ คนธรรมดาที่ไม่ได้เรียนศิลปะก็สามารถทำเครื่องประดับได้เหมือนกัน แค่ว่าคุณชอบในสิ่งที่แบบสวยงามที่มาประดับร่างกายหรือเปล่า แค่นั้นคุณก็สามารถมาทำเครื่องประดับได้ ใช้เองได้แล้ว
 

สิ่งสำคัญของนักออกแบบเครื่องประดับ
ต้องควบคุมเวลาให้ได้เพราะว่าเหมือนเราต้องทำงานให้ลูกค้า ถ้าเราควบคุมไม่ได้เขาก็จะเสียงานและก็จะทำให้เราเสียชื่อเสียง เหมือนเวลาเราทำงานส่งค่ะถ้าเราไม่ทำตามเวลาที่กำหนดเราก็จะไม่ได้คะแนนตรงจุดนั้น ซึ่งกัสว่ามันเป็นสิ่งสำคัญกับนักออกแบบทุกอย่างเรื่องเวลาค่ะ แล้วก็เราก็ต้องตามเทรนด์อยู่ตลอดเพราะว่าเทรนด์มันไปเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่ามันจะไปแต่มันก็วนกลับมาในรูปแบบเดิม เหมือนกระแสของแฟชั่นเปลี่ยนไปเร็วมาก เราก็ต้องศึกษาตลอดค่ะ ต้องเป็นคนแบบว่าใฝ่รู้นิดหนึ่ง
 

เทรนด์แฟชั่นของประเทศไหนที่ชอบมากที่สุด
อังกฤษค่ะ เขามีชื่อเสียงทางด้านเทรนด์แฟชั่นอยู่แล้ว ถ้าอังกฤษกับฝรั่งเศสทำแฟชั่นโชว์ออกมาหรืออย่างแบรนด์ Chanel หรือว่าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเทรนด์เขาออกมาเป็นยังไง กลุ่มประเทศอื่นก็จะตาม แบรนด์เล็ก ๆ ก็จะตามในลักษณะนั้น จริง ๆ มันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องของประเทศ อาจจะเป็นแบรนด์ที่ใหญ่อย่างเทรนด์จิวเวลรี่เราก็ต้องดู Swarovskiเป็นหลักแบบเทรนด์ปีนี้เป็นอย่างนี้นะ แต่ว่าเวลาเขาทำแบรนด์เขาจะมองถึงปีหน้าเลย สมมติต้นปีนี้แต่เขามองเทรนด์ไปถึงปีหน้าแล้ว แต่ว่ารูปแบบเทรนด์มันจะเป็นลักษณะไหน เราก็ต้องมองล่วงหน้าไปก่อนค่ะ
 

ไอดอลนักออกแบบ
มีหลายท่านมากเลยนะ แต่ว่าก็ไม่ได้เอามาเป็นแบบตัวอย่างในการเป็นตัวเองค่ะ ไม่ได้เอาชิ้นงานที่เขาทำมาเป็นรูปแบบงานสไตล์ตัวเอง เราชอบแค่บุคลิก เราชอบแค่ลักษณะภายนอกเขา เราชอบแค่อุปนิสัยเขา สไตล์งานเราก็ชอบเหมือนกัน แต่ว่าเราไม่ได้เอาสไตล์งานเขามาเป็นสไตล์งานเราค่ะ ก็เลยค่อนข้างที่จะเป็นแบบตัวเองมากกว่าในสิ่งที่เราชอบ
 

ตลาดงานสายออกแบบเครื่องประดับ
เราเรียนออกแบบมามันสามารถบูรณาการได้หมดเสื้อผ้าก็ได้ เครื่องประดับก็ได้หรือว่าเราไปเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านอัญมณีก็ได้เพราะว่าเราก็มีสาขาทางด้านอัญมณีเหมือนกันไม่ใช่แค่ทางอาร์ตหรือเครื่องประดับที่ทำงานมืออย่างเดียว เราก็เรียนทางด้านเครื่องประดับอัญมณีเหมือนกันถ้าใครชื่นชอบทางด้านนั้นก็ไปเป็นนักวิเคราะห์ทางด้านอัญมณีได้เช่นเดียวกัน หรือว่าทำงานโรงงานรู้กระบวนการในการทำเราก็สามารถเราทำงานในการควบคุมกระบวนการนั้นได้ หรือว่าเป็นนักออกแบบที่ทำแบรนด์ตัวเองได้ ทำให้กับโรงงานที่เป็นดีไซน์เนอร์ในการออกแบบก็ได้เช่นเดียวกัน
 

ADMISSIONS UNLOCKED
 - ต้องรู้ก่อนว่าจะเรียนสาขาไหน
 - เวางแผนการเรียนล่วงหน้า
 - ต้องตั้งใจ
 - ต้องมุ่งมั่นจริง ๆ ไม่ใช่แค่ตามกระแส
 - ต้องควบคุมเวลาของตัวเราให้ได้ แบ่งเวลาให้เป็น
 - สิ่งสุดท้ายคือ เราต้องไม่เครียดมากจนเกินไป