เรื่องและภาพ : กัลยาณี แนวเล็ก

 เอสเธอร์ 

นักแสดงสาวสวยหน้าใสตีบทแตกมาแล้วทุกบท ล่าสุดกับบทคุณหนูมามิ จากซีรีส์ รักนะเป็ดโง่ ตอน Boy's Paradise เอสเธอร์-เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา พร้อมละครที่กำลังจ่อคิวออนแอร์ทั้ง ซีรีส์ The O.C. Thailand กรุงเทพ...มหานครซ้อนรัก เพื่อเธอ และเงาอโศก แต่ละเรื่องคาแรคเตอร์แทบไม่ซ้ำ ละครออนแอร์เมื่อไหร่นางเอกหน้าหวานคนนี้ฮิตติดลมบนแน่ ๆ

เรียนรู้จากหน้าเซท
ตอนนั้นเอสเธอร์น่าจะอายุประมาณ 10 ขวบค่ะ เริ่มแคสติ้งงานโฆษณามาเรื่อย ๆ และมีถ่ายพวกนิตยสารวัยรุ่นบ้างและก็มาประมาณอายุ 15 ได้มีโอกาสได้เข้าไปแคสละครเลยทำให้ได้แบบว่ามาได้เล่นละคร เรื่องแรกที่เล่นเป็นซิทคอมเรื่องหลวงตามหาชนค่ะ อยู่ดี ๆ ก็บอกว่าจะได้เล่นเรื่องนี้นะ ไปถึงปุ๊ปแอคติ้งก็ไม่เคยเรียน ก็ไปซูยเอาหน้ากองหมดเลย ซึ่งก็งงมากค่ะ มุมกล้องมันจะมีกล้องสามตัวปกติจะไม่เคยเจอ เคยเจอแต่กล้องเดียวเพราะว่าเป็นโฆษณา ก็เลยเดินไปก็บังคนอื่นเขาบ้างอะไรแบบนี้ แต่ว่ามันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีที่แบบว่า เอ้ย ทำให้เราเริ่มจับจุดได้แล้วว่า อ๋อ เล่นละครมันก็จะเป็นอะไรประมาณนี้ เรียนรู้จากหน้าเซทจริงสุดยอดมากค่ะ
 

ละครแจ้งเกิด
น่าจะเป็นเรื่องสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอนคุณชายรณพีร์ เป็นการพลิกบทบาทซึ่งเอสเธอร์เล่นเป็นตัวร้ายเป็นเรื่องแรกในชีวิต ตอนแรกรู้ว่าจะต้องไปแคสเรื่องนี้ก็เครียดนะคะ พอไปอ่านบทอีกทีก็เครียดหนักกว่าเดิม ด้วยความที่ตัวร้ายเรายังไม่เคยเล่น เลยยังไม่รู้ว่าตัวละครนี้มันจะยังไงและด้วยความที่ตัวละครนี้มันเป็นสองชั้น คือต่อหน้าทุกคนก็จะคิดว่าเฮ้ยเราเป็นผู้หญิงที่มีกิริยามารยาทที่เรียบร้อยเพียบพร้อม แต่ว่าพอลับหลังเราเป็นคนที่แอบโรคจิตเบาๆ สุดท้ายกลายเป็นสติแตกเป็นคนบ้าไปเลย
 

บทนี้เลยที่อยากเล่น
น่าจะเป็นบทบู๊นะคะ เอสเธอร์ยังไม่เคยได้เล่นเลยก็น่าลองแต่ว่ากำลังคิดอยู่ว่าด้วยความที่เราเป็นคนที่รูปร่างเก้งก้าง ถ้าไปต่อย ถ้าไปเตะอะไรแบบนี้คงจะเป็นอะไรที่ตลกและแบบต้องฝึกอีกเยอะค่ะ แต่ว่ามันก็น่าลองค่ะ (ชอบดูหนังแอคชั่น) หนังแอคชั่นพวกนี้ดูได้นะคะ มันเลยรู้สึกว่ามันส์อ่ะ อยากเตะอยากต่อยเป็นบ้าง แต่ว่าเคยมีเข้าฉากสั้น ๆ ในละครที่มียิงกันเตะกันบ้างดูท่าไม่รอดค่ะ คือต้องฝึกอีกเยอะถ้าต้องเล่นบู๊เนี่ย (ฮา)

(อยากเป็นตัวละครไหน) หนังก็ได้ใช่ไหมคะ เคยดูหนังเรื่อง Mr. & Mrs. Smith ที่แองเจลินา โจลีเล่น โอ้ย สวยมาก ยิงปืนสวยมากคืออยากเป็นอย่างนั้นได้บ้างแต่แบบเดี๋ยวนะขอเวลาอีกนิดหนึ่งนะคะแล้วค่อยไปฝึก
 

การทำงานทำให้โตขึ้น
งานอาชีพนี้เอสเธอร์รู้สึกว่าทำให้ได้ปรับนิสัยตัวเองมากขึ้น อย่างปกติเมื่อก่อนจะเป็นคนที่ขี้อายมาก ๆ เวลาเจอผู้ใหญ่ เจอคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเจอก็จะไม่คุยไม่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี แต่ด้วยการทำงานทำให้เราโตขึ้น ทำให้เรารู้ว่าอ๋อมันเป็นอย่างนี้นะ คือพอไปเจอสถานการณ์ใหม่ คนใหม่ ที่ใหม่หรืองานรูปแบบใหม่ มันทำให้เราปรับตัวและยืดหยุ่นตามมันได้มากขึ้น แต่ว่าเป็นธรรมชาติของมันได้มากขึ้น เริ่มพูดมากขึ้น เริ่มกล้าถาม กล้าแสดงออกจากที่ไม่เคยมาก่อนค่ะ
 

ไอดอลของเอสเธอร์
ชื่นชอบพี่นุ่น ศิรพันธ์ค่ะ เพราะว่าเอสเธอร์เคยร่วมงานกับพี่นุ่นในเรื่องบ่วง รู้สึกว่าเวลาเราร่วมฉากกับเขา เขาค่อนข้างที่จะเป็นตัวละครนั้นแบบเก่งมาก คือได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วสมาธิเขาเยอะมาก ๆ ตั้งใจมากกับ ณ ตอนนั้นได้ดี คือกลายเป็นเหมือนไอดอลในการทำงานของเรา คือเขาแบบทำการบ้านเยอะ ตีความบทตัวละครอะไรแบบนี้ค่ะ ล่าสุดผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด โอ้โห สุดยอดมากค่ะ (เอสเธอร์เล่นได้ไหม) อุ้ย หนูก็อยากเล่นอะไรที่แตกต่างจากตัวจริงอย่างฟ้ากับเหว น่าจะท้าทายดี
 

สิ่งสำคัญสำหรับการเป็นนักแสดง
เราทำอาชีพนักแสดงก็เป็นในเรื่องของการแสดงที่เราจะพัฒนาและก็ฝึกฝนตัวเองอยู่เรื่อย ๆ ทำตัวเหมือนน้ำที่ไม่เต็มแก้วค่ะ คือเหมือนเราไปในกองนี้เราก็เหมือนไปโรงเรียนนี้ ไปอีกกองหนึ่งเหมือนไปอีกโรงเรียนหนึ่ง เหมือนมีผู้กำกับเป็นครู พี่ทีมงานเป็นครู ทุกคนก็สอนเราเรื่อย ๆ ในสิ่งที่เรายังไม่เคยเรียนรู้ และได้ประสบการณ์ใหม่กลับมาค่ะ และในเรื่องของปกติการทำงานตรงต่อเวลา เพื่อนร่วมงานอะไรแบบนี้ค่ะ
 

อยากทำอะไรอีก
นักร้องก็อยากร้องนะคะ นึกภาพตัวเองที่มีอัลบั้มเป็นของตัวเองอย่างนี้ คุณแม่คงจะภูมิใจมาก ๆ เพราะแม่รู้ว่าเอสเธอร์เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบร้องเพลงเลย ก็เลยคิดว่ามันคงจะเป็นอะไรที่น่าลองและเป็นประสบการณ์ที่ดี อีกด้านหนึ่งที่อยากจะทำคือในด้านของธุรกิจ รู้สึกว่าอยากทำอะไรที่ไม่ใช่ด้านการแสดงแล้วค่ะเพราะว่าเอสเธอร์เป็นคนชอบชิมอาหาร ชอบกินและน้องก็เรียนเป็นกุ๊ก เลยอยากทำอะไรที่เกี่ยวกับธุรกิจด้านอาหาร เหมือนธุรกิจครอบครัวน่าจะดีค่ะ
 

instagram: esthersupree
twitter: supreeleela