เรื่องและภาพ : กัลยาณี แนวเล็ก

 ฮอน สันติ 

 Automotive Design and Manufacturing
 Engineering CU 

วิศวะยานยนต์เรียนอะไร...มีแต่งรถไหม? มีโมฯเครื่องป่ะ? คำถามอยากรู้ของน้อง #AdGang59 ที่ชื่นชอบในด้านนี้เป็นพิเศษ ศิษย์เก่าสาขาวิชาการออกแบบและการผลิตยานยนต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ (Automotive Design and Manufacturing Engineering: ADME) จุฬาฯ ฮอน-สันติ วจนพานิช หรือ ฮอน Yes!Music เจ้าของซิงเกิ้ล “พยายามไม่คิด” ในฐานะรุ่นพี่สปอร์ตเสียงดีจะช่วยตอบคำถามคาใจให้น้อง ๆ ได้รู้จักสาขาวิชานี้กันมากขึ้น

เรียนเพื่อต่อยอดธุรกิจทางบ้าน

ตอนแรกเลือกเรียนวิศวะเพราะคุณพ่อคุณแม่อยากให้เรียน และที่เลือกสาขายานยนต์เพราะว่าที่บ้านคุณพ่อทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์ เกี่ยวกับรถยนต์อยู่แล้วก็เลยคิดว่าตรงจุดนี้น่าจะมาต่อยอดได้ครับ โดยหลักสูตรนานาชาติจะเลือกตั้งแต่สอบเข้า แต่ถ้าเป็นหลักสูตรปกติจะเลือกไม่ได้ต้องเอาคะแนนมาแข่งกัน ว่าปีสองคุณจะได้ไปสาขาไหน พอได้เรียนก็รู้สึกว่าโอยทำไมมันยากได้ขนาดนี้ เพราะว่าตอนมัธยมฮอนเป็นคนที่อ่านแปปเดียวก็จะเข้าใจครับ ก็เลยคิดว่ามันน่าจะง่ายพอมาเรียนจริง ๆ ยากมาก

หลักสูตรการออกแบบและการผลิตยานยนต์

ปีหนึ่งทุกคนเรียนด้วยกัน เรียนฟิสิกส์ เคมี แคลคูลัสคือเรียนทั่วไปครับ ก็เลยยังไม่ยาก ซึ่งจริง ๆ แล้วในข้อสอบจะต่างจากแบบฝึกหัดเยอะมาก ๆ ตอนนั้นฮอนได้ทุนการศึกษาเพราะสอบเข้ามาได้อันดับหนึ่งของหลักสูตรนานาชาติครับ เราก็เลยคิดว่ามันน่าจะง่าย ตอนสอบได้เกือบมีน(คะแนนเฉลี่ย) ของห้อง ก็ตกใจมากคิดว่าทำได้ แต่พอเฉลยมาก็เลยรู้ว่า อ๋อ เราเขียนแต่คำตอบไปแต่เราไม่ได้เขียนวิธีทำด้วย เลยไม่ได้คะแนนวิธีทำ คืออาจารย์จะมีคะแนนให้ด้วยเพราะเขาต้องการดูเรื่องระบบความคิด

ตอนปีสองมีอยู่วิชาหนึ่งครับที่ทำให้เรารู้ว่าเราจะทำงานในสายไหน เป็นวิชาที่เอาวิศวะกับธุรกิจมาร่วมกัน คือสอนให้เรามองในแง่ของธุรกิจด้วย ครูเริ่มสอนแค่คาบเดียวเรารู้สึกเลยว่ามันน่าเรียนจนเราเอาหนังสือมาอ่านจบทั้งเล่มเลยครับ ภายในอาทิตย์เดียว วิชานั้นก็เลยทำได้ดีมากจริง ๆ

ปีสามเน้นเรียนคำนวณจริง ๆ ว่าช่างเขาจะคิดอะไรยังไงก่อน ความสนุกอยู่ที่ว่าต้องทำคะแนนให้ดีหน่อยเพื่อจะได้เลือกที่ฝึกงานได้ ฮอนได้ไปฝึกงานที่ญี่ปุ่นเป็นแล็บวิจัยของมหาวิทยาลัยหนึ่งซึ่งเขาจะวิจัยระบบความปลอดภัยของรถ ต้องมานั่งรีเสิร์ชข้อมูลเรื่อย ๆ ทุกวัน และก็อยู่แต่กับเครื่องจักร คอมพิวเตอร์ และมีเรียนวิชา Vibration เป็นวิชาคำนวณแรงสั่นสะเทือนของโช้คอัพรถ คือเรียนเจาะลึกเฉพาะเกี่ยวกับยานยนต์เลยครับ

ปีสี่จะเป็นแนวปฏิบัติหมดเลย ในส่วนของวิชาออกแบบจะได้เรียนที่ฝั่งสถาปัตย์ครับ ออกแบบดรออิ้ง โดยต้องคิดว่าการออกแบบนี้จะตอบโจทย์ฟังก์ชันคนใช้ยังไง คำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก และจะมีเวิร์กช็อปที่เป็นเหมือนช่างเลยครับ คือไปซ่อมรถที่เขาเสีย ถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนล้ออะไรประมาณนี้ครับ
 

วิศวะให้ระบบความคิด

ด้วยความที่ข้อสอบมันยาก อาจารย์เขาก็เลยจะดูแนวคิดเราเป็นหลัก ตอนนั้นก็ยังไม่รู้หรอกครับว่าเพราะอะไร จนพอจบออกมามองกลับไป อ๋อเลย คือสุดท้ายแล้วอาจารย์ต้องการให้เราเป็นคนคิดมีระบบจริง ๆ คือถึงแม้คำตอบถูก คำนวนตัวเลขถูก แต่คือในชีวิตจริงพวกสูตรที่มันยากมาก แล้วในชีวิตจริงคอมพิวเตอร์มันคิดให้หมดแล้ว สุดท้ายที่เขาต้องการฮอนว่ามันน่าจะเป็นระบบความคิดอย่างเดียวเลย คือให้เราเข้าใจว่าทำไมเขาถึงคิดสูตรนี้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ขึ้นมา ก็เลยเริ่มเข้าใจครับว่าการคิดเป็นระบบมันเป็นยังไง แล้วมันก็ติดตัวเราไปเลย เอาไปใช้ได้กับทุกเรื่อง

รถแข่ง FSAE ซีเนียร์โปรเจ็คต์

โปรเจ็คจบของฮอน เราสร้างรถแข่ง FSAE (Formula SAE or Formula Student) ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าคันแรกของประเทศไทย เป็นโจทย์ที่ยากมาก ๆ จับกลุ่มกันสามคนแบ่งพาร์ทว่าดูแลส่วนไหนบ้าง อย่างของฮอนจะดูเบรกกับระบบพวงมาลัย งานนี้ก็หินมากแต่กลับกันก็สนุกมากครับ สุดท้ายเสียดายที่มันเสร็จไม่ทันไปแข่งที่ญี่ปุ่น ก็เลยส่งต่อรถคันนี้ให้รุ่นน้องทำต่อ

สิ่งสำคัญของวิศวะยานยนต์

ความปลอดภัยครับ ไม่ใช่แค่ยานยนต์นะครับ เป็นทุกอย่างเลยเพราะว่าสุดท้ายแล้วถ้าเราสร้างอะไรให้มันดีแค่ไหนแต่ว่ามันอันตรายต่อมนุษย์ มันก็ไม่สมควรอยู่แล้ว วิศวะเกิดจากการต้องสร้างอะไรมาให้ใช้งาน ซึ่งเราต้องคำนึงถึงเยอะ ๆ ในปัจจุบันฮอนว่าหลายๆ บริษัทครับคำนึงถึงเรื่องนี้น้อยลง ไม่ได้มองถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นหลักอันนี้สำคัญสุดแล้วครับ

CU Band

มีกิจกรรมเปิดมหาวิทยาลัยให้เด็กเฟรชชี่เข้าไปดูแต่ละกิจกรรม แล้ว CU Band จัดเป็นแบบตอนกลางคืนที่เป็นเวทีเลย ตอนนั้นเราชอบร้องเพลง แต่เราไม่รู้จัก CU band ปรากฏว่าตอนไปดูงานแรก โอ้โหคนเยอะมาก และคือบนเวทีนั่น ตอนแรกเราคิดว่าเป็นมือโปรเป็นนักร้องซะอีก ทุกอย่างคือยิ่งใหญ่มาก นักร้องก็เสียงดีมาก ดนตรีแน่นมากไฟ ทุกอย่างมาเต็มมาก ก็เลยคิดว่าโอเคจะไปสมัครปีแรกตกรอบ หลังจากนั้นเราก็เลยคิดว่าเราต้องเข้าให้ได้ ก็เลยฝึกเรื่อย ๆ ครับ พอปีสองก็ตั้งใจไปและได้เป็นนักร้องเพลงสากลของ CU Band ครับ

ตลาดงานวิศวกรยานยนต์

จบออกมาเป็นวิศวกรเป็นช่างครับ และก็อาจจะแตกไลน์ไปทางโรงงานเพราะจะมีบางส่วนที่เรียนคล้าย ๆ กับอุตสาหการเหมือนกันก็คือมีความรู้เรื่องโรงงานเหมือนกัน แต่แค่ความเป็นเครื่องยนต์มันก็หลายบริษัทแล้วครับ เพราะมันก็ไม่ได้จำกัดแค่เครื่องยนต์รถมันก็ยังมีมอเตอร์ไซค์ มีรถแทรคเตอร์ รถปิกอัพใหญ่ ๆ ก็เยอะไปหมดเลยครับ ก็ไปได้หลายทางเหมือนกัน