www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




แนะแนว > พี่แนะน้อง

เทคนิคพิชิต Admissions โดย เจมมี่ อันดับ 1 คณะเกษตร
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2015-09-25 15:24:16

 เทคนิคพิชิต Admissions โดย เจมมี่
 คะแนน
Admissions สูงสุดของคณะเกษตร 


เจมมี่-เกียรติสุดา ชัยสุนทร


เจมมี่-เกียรติสุดา ชัยสุนทร สาวน้อยชอบงานศิลปะ แต่ความชอบอย่างเดียวอาจไม่ตอบโจทย์ชีวิตในระยะยาว จึงต้องค้นหาตัวเองเพิ่ม ว่าสนใจอะไรอีกบ้าง ที่เรียนจบมาแล้วมีงานที่ทำค่อนข้างมั่นคง ในที่สุดก็เลือกที่จะเรียนทางด้านอาหาร และสามารถทำคะแนน Admissions ได้สูงสุด ของคณะเกษตร สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พี่เจมมี่มีเทคนิคการเรียนและพิชิตข้อสอบมาฝากน้อง ๆ กันด้วย วิธีการเรียน ในห้องเรียนเป็นยังไง 

แต่ละวิชา ก็จะจดทุกอย่างที่ครูสอนไว้ กลับไปบ้าน เราต้องอ่านทบทวนสิ่งที่เราจดมาให้เข้าใจ สรุปเนื้อหา ก็จะมีการหาข้อมูลเพิ่มจากเว็บไซต์ต่าง ๆ จากหนังสือที่เรียนพิเศษ และเรียบเรียงให้เป็นภาษาของตนเอง เพื่อที่เรากลับมาอ่านอีกครั้งเราจะได้เข้าใจในเนื้อหา ถ้าเกิดไม่เข้าใจ ก็จะไปถามครูในวันถัดไปได้ วิธีการจด ทำให้สามารถจดจำมากกว่าการอ่านหนังสืออย่างเดียว จึงใช้วิธีการนี้กับทุกวิชา

การค้นหาตัวเอง

ฝันไว้อยากเรียนคณะตามที่ตนเองชอบ ตามที่ตนเองถนัด ซึ่งความถนัดของตนเองจะไปทางสายศิลปะ แต่ก็คิดว่าทางด้านสายศิลปะค่อนข้างหางานที่มั่นคงยาก จึงเปลี่ยนทิศทางจากสิ่งที่ตนเองฝันไว้ เป็นสิ่งที่ตนเองสนใจรองลงมา สิ่งที่สนใจก็คือการทำอาหาร จึงได้หาข้อมูลเกี่ยวกับคณะที่เรียนเกี่ยวกับการทำอาหาร จึงเลือกคณะเกษตร สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ และก็ดูตลาดแรงงานในปัจจุบันว่า ทางด้านนี้มีความต้องการหรือไม่ ซึ่งได้ผลตอบรับในทางที่ดี เพราะอาหารถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่เราต้องกินต้องใช้ทุกวัน ประเทศไทยได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “ครัวของโลก” ดังนั้นต่างชาติจึงอยากมาลงทุนกับประเทศไทยในด้านอาหาร ดังนั้นจึงตัดสินใจเรียนในคณะนี้ และได้ศึกษาหลักสูตร ว่ามีการเรียนการสอนในวิชาอะไรบ้าง ศึกษาข้อมูลตาม Open House ค่ายต่าง ๆ ห้องแนะแนว ครูที่ปรึกษา และเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ ศึกษาจนละเอียดแล้วจึงตัดสินใจเลือกเรียนในคณะนี้
 

เตรียมตัว Admissions

เริ่มจากหาข้อมูลเกี่ยวกับคณะที่เราอยากเรียน ดูรายละเอียดการสอบเข้า ว่าต้องใช้คะแนนในวิชาอะไรบ้าง สัดส่วนเท่าไหร่ มีเกณฑ์การคัดเลือกอย่างไร และเริ่มอ่านหนังสือ ซึ่งเริ่มอ่านจากวิชาที่ถนัดมากที่สุด อ่านจนเข้าใจ แล้วไปทำแบบฝึกหัด แรก ๆ จะไม่กดดันตัวเองมาก ทำแบบฝึกหัดไปเรื่อย ๆ หลัง ๆ ก็จะเริ่มจับเวลาในการทำข้อสอบ ส่วนในวิชาที่ไม่มีความถนัด พยายามดูว่าในปีที่เราสอบนั้นจะมีข้อสอบออกมาในแนวไหน ก็จะไปเน้นอ่านในบทที่มีใจความสำคัญ

เจมมี่-เกียรติสุดา ชัยสุนทร 

เทคนิดพิชิตข้อสอบ Admissions

เริ่มจาก O-NET เตรียมตัวค่อนข้างน้อย เพราะเป็นการสอบในวิชาที่เราเคยเรียนผ่านมาแล้ว ตั้งแต่ ม.4 – .6 จึงหาอ่านบทสรุปที่สำคัญ ๆ ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ อ่านทบทวนเอง สำหรับ GAT ความถนัดทั่วไป เริ่มจากการซื้อหนังสือแนวข้อสอบมาอ่านทบทวนเอง และรู้สึกว่าความรู้ไม่พอ จึงไปหาทำแบบฝึกหัดตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่สอน GATเชื่อมโยง GAT ภาษาอังกฤษ สำหรับ PAT 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีทั้ง ชีวะ ฟิสิกส์ เคมี ซึ่งวิชาที่ถนัดคือ ชีวะกับเคมี เพราะฉะนั้นจึงเลือกอ่านเฉพาะชีวะกับเคมีก่อน ทบทวนให้แม่น ส่วน ฟิสิกส์ก็ไม่ได้ทิ้งนะคะ เลือกอ่านเฉพาะบทที่ออกสอบ เอาเท่าที่ได้

วิธีขจัดความเครียด และให้กำลังใจตัวเอง

ตอนนั้นเราติดโทรศัพท์มาก เล่นโซเชียลตลอด แชทกับเพื่อนทุกวัน ทำให้เกรดตก เริ่มแบ่งเวลาไม่เป็น เริ่มเครียด เครียดมาก จนมาถึงจุดหนึ่ง ก็ทำให้เราคิดได้ว่าเราเสียเวลากับโทรศัพท์ กับโซเชียล มันทำให้ชีวิตของเรามาอยู่ในช่วงที่ตกต่ำที่สุดได้ ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าที่เรามาเรียนนั้น เราไม่ได้มาเรียนเพื่อตัวเอง อย่างน้อยเราต้องเรียนเพื่อจบมาแล้วมีงานทำ เพื่อดูแลพ่อแม่ จึงตัดสิ้นใจ ลบโซเชียลต่าง ๆ และตั้งใจอ่านหนังสือ ถ้าเหนื่อยก็หากิจกรรมอย่างอื่นทำ เช่น วาดรูป ออกกำลังกาย เล่นดนตรี ดูหนัง พยายามผ่อนคลายให้มากที่สุด ให้กำลังใจตัวเองด้วยการบอกตัวเองว่า เราต้องอ่านหนังสือ เหลือเวลาอีกไม่มาก เราต้องสู้ พอเราเข้าสู่มหาวิทยาลัยได้สำเร็จแล้วถึงตอนนั้นเราอยากทำอะไรก็ได้

ฝากถึงน้อง ๆ #AdGang59

ฝากถึงน้องที่จะแอดมิชชั่นปี 59 หรือปีต่อ ๆ ไป ควรที่งดการเล่นโซเชียลต่าง ๆ ในตอนที่เราใกล้จะสอบ เพราะถ้าเราติดจริง ๆ เราจะกู่ไม่กลับ พยายามงดเรื่องเที่ยว งดเล่นเกม การพบปะสังสรรค์กับเพื่อน ไม่ควรทำตัวว่างทั้ง ๆ ที่เราไม่ว่าง เพราะ ม.ปลาย การบ้าน รายงาน โครงงานจะเยอะ เวลาในการอ่านหนังสือจะมีน้อยมาก และไม่ควรเอาการบ้านที่เก็บสะสมมาทำส่งในเวลาก่อนสอบปลายภาค เรื่องแอดมิชชั่น ก็ควรเริ่มอ่านหนังสือ เริ่มตั้งแต่วันนี้ไม่ควรนึกไปว่าเหลือเวลาอีกเยอะ ซึ่งเวลาจริง ๆ มันคือน้อยมาก การเลือกคณะควรเลือกในคณะที่เราชอบ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม เราต้องมั่นใจ เราเลือกคณะนี้ เราสามารถทำให้มันดีได้ เพราะเชื่อว่าไม่ว่าเราจะเลือกเรียนคณะอะไร มหาวิทยาลัยไหน มีชื่อเสียงหรือไม่มีชื่อเสียง ถ้าเราจบมามีเกรดดี มีคะแนนที่ดี เชื่อได้เลยว่ายังไงเราก็ต้องมีงานทำ ตั้งใจเรียน รู้จักแบ่งเวลา แบ่งการทำกิจกรรม ถ้าเราสามารถทำได้จริง ๆ ความสำเร็จก็จะมาอยู่ในมือเรา