นิวรณ์ .... เครื่องกางกั้นการบรรลุธรรม
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2010-08-23 13:20:53
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ........
นิวรณ์เครื่องกางกั้น ๕ ประการนี้ ครอบงำจิตแล้ว ทำปัญญาให้ทุรพล ๕ ประการเป็นไฉน
นิวรณ์เครื่องกางกั้น คือ กามฉันทะ ๑
นิวรณ์เครื่องกางกั้น คือ พยาบาท ๑
นิวรณ์เครื่องกางกั้น คือ ถีนมิทธะ ๑
นิวรณ์เครื่องกางกั้น คือ อุทธัจจกุกกุจะ ๑
นิวรณ์เครื่องกางกั้น คือ วิจิกิจฉา ๑
*************************************************
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ..........
นิวรณ์เครื่องกางกั้น ๕ ประการนี้แล ครอบงำจิตแล้ว ทำปัญญาให้ทุรพล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุนั้นไม่ละนิวรณ์เครื่องกางกั้น ๕ ประการนี้ ........
............อันครอบงำจิต ทำปัญญาให้ทุรพลแล้ว
............จักรู้จักประโยชน์ของตน
............ประโยชน์ของผู้อื่น
............ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
............หรือจักทำให้แจ้งซึ่งญาณทัสสนะอันวิเศษ สามารถกระทำความเป็นอริยะ
............ยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์ด้วยปัญญาที่ไม่มีกำลังทุรพล
ข้อนี้มิใช่ฐานะที่จะมีได้
ปรียบเหมือนแม่น้ำที่ไหลลงจากภูเขา ไปสู่ที่ไกล
มีกระแสเชี่ยว พัดสิ่งที่จะพัดไปได้
บุรุษพึงเปิดปากเหมืองแห่งแม่น้ำนั้นทั้งสองข้าง เมื่อเป็นเช่นนี้
............ กระแสน้ำในท่ามกลางแห่งแม่น้ำนั้น ก็ซัด ส่าย ไหลผิดทาง
............ ไม่พึงไหลไปสู่ที่ไกล
............ ไม่มีกระแสเชี่ยว
............ ไม่พัดสิ่งที่พอจะพัดไปได้ ฉันใด
ภิกษุนั้นก็ฉันนั้นเหมือนกันแลหนอไม่ละนิวรณ์ เครื่องกางกั้น ๕ ประการนี้
อันครอบงำจิต ทำปัญญาให้ทุรพลแล้วจักรู้ประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
หรือจักทำให้แจ้งซึ่งญาณทัสสนะอันวิเศษ สามารถกระทำความเป็นอริยะ
ยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์ด้วยปัญญาอันไม่มีกำลังทุรพล
ข้อนั้น ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
********************************************************
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุนั้นละนิวรณ์ เครื่องกางกั้น ๕ ประการนี้
อันครอบงำจิต ทำปัญญาให้ทุรพลแล้ว จักรู้ประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น
ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย หรือจักทำให้แจ้งซึ่งญาณทัสสนะอันวิเศษ
สามารถกระทำความเป็นอริยะ ยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์ด้วยปัญญาอันมีกำลัง
ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้
เปรียบเหมือนแม่น้ำที่ไหลลงจากภูเขาไปสู่ที่ไกล พัดสิ่งที่พอจะพัดไปได้
บุรุษพึงปิดปากเหมืองแห่งแม่น้ำนั้นทั้งสองข้าง
เมื่อเป็นเช่นนี้ กระแสน้ำในท่ามกลางแม่น้ำนั้น ก็จักไม่ซัด ไม่ส่ายไหลไม่ผิดทาง
พึงไหลไปสู่ที่ไกลได้ มีกระแสเชี่ยว และพัดในสิ่งที่พอพัดไปได้ ฉันใด
ภิกษุนั้นก็ฉันนั้นเหมือนกันแลหนอ
ละนิวรณ์เครื่องกางกั้น ๕ ประการนี้
อันครอบงำจิต ทำปัญญาให้ทุรพลแล้ว
............ จักรู้ประโยชน์ตน
............ ประโยชน์ผู้อื่น
............ ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
............ หรือจักทำให้แจ้งซึ่งญาณทัสสนะอันวิเศษ
สามารถกระทำความเป็นอริยะ ยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์ ด้วยปัญญาอันมีกำลัง
ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ฯ
ที่มา : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔