นารีผลบทที่ 2
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2010-02-08 15:31:29
บทที่ ๒ หลวงตาเฟื่อง
เมื่อพระเจริญกลับมาถึงกุฎิของท่านก็พบภิกษุรูปหนึ่งนั่งรออยู่ที่ชั้นล่าง สามัญสำนึกบอกทันทีว่าเป็นหลวงตาเฟื่องแน่นอน เพราะดูหน้าตาแล้วคงจะอายุประมาณ ๖๐ เศษ เดินเข้ามานั่งยังอาสนะแล้วจึงถามขึ้นก่อนว่า "ท่านคือหลวงตาเฟื่องใช่มั๊ยครับ"
"ครับแล้วท่านคือพระเจริญจากวัดพรหมบุรีที่จะมารักษาการเจ้าอาวาสวัดนี้ใช่รึเปล่า" เมื่อท่านตอบว่าใช่หลวงตาเฟื่องจึงคุกเข่าแล้วกราบท่าน ๓ ครั้งอย่างไม่เต็มใจนัก เหตุเพราะถูกทิฐิยุยงว่า เด็กเมื่อวานซืนที่ถูกส่งให้มาปกครองเรา ภิกษุหนุ่มยกมือขึ้นไหวภิกษุที่ถือตนว่าแก่กว่า สังเกตเห็นทิฐิที่ฉายออกมาของอีกฝ่าย ก็คิดว่าจะต้องกำจัดทิฐิพระของหลวงตาเฟื่องกับหลวงตาอ้อนออกไปให้ได้ มิฉนั้นก็มิสามารถจะพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองดังที่ได้ตั้งปนิทานเอาไว้ การจะพัฒนาวัดจะต้องพัฒนาที่คนก่อนและการพัฒนาคนก็จะต้องพัฒนาที่ใจของเค้า พระพุทธองค์ตรัสสอนไว้ชัดเจนว่า ธรรมทั้งหลายมีใจนำหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จด้วยใจ ใครจะสร้างสรรค์สิ่งดีงามหรือจะก่อกรรมทำเข็ญก็จะมีใจอยู่เป็นจุดเริ่มต้น ฉะนั้นถ้าพัฒนาใจให้ดีก่อนอะไรอะไรก็จะดีตามไปด้วย
"หลวงตาบวชมากี่พรรษาแล้วครับ" พระหนุ่มเริ่มการสนทนา..............
นารีผล
ประพันธ์โดย สุทัสสา อ่อนค้อม