ความหลงในสงสาร บทที่ 42
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2010-02-05 11:42:21
บทที่ ๔๒ ภิกษุณีสงฆ์
"พระอาจารย์ภิกษุณีกับแมีชีเหมือนกันรึเปล่าค่ะ อย่างฉันนี่จะเรียกว่าภิกษุณีสมัยพุทธกาลได้รึเปล่า" มีชีป่วนถามขึ้นเพราะอยากรู้จริงๆ อยากรู้ถึงขนาดยอมลงทุนเรียกพระเจริญว่าพระอาจารย์
"ภิกษุณีถือศีล ๓๑๑ ข้อ แม่ชีถือกี่ข้อล่ะ" พระมัคคุเทศก์ถาม
"ฉันถือแค่ ๘ ข้อ น้อยกว่าภิกษุณีตั้ง ๓๐๓ ข้อ" แมีชีตอบอาศัยที่เคยค้าขายมาก่อนจึงบวกลบได้รวดเร็วทันใจ
"แล้วเหมือนกันรึเปล่าล่ะ"
"ไม่เหมือนจ๊ะ แต่ฉันอยากฟังเรื่องของภิกษุณีว่ามีความเป็นมาอย่างไร ทำไมพระพุทธเจ้าถึงยอมให้ผู้หญิงบวช"
"ญาติโยมอยากฟังเรื่องภิกษุณีมั๊ย ถ้ามีแม่ชีป่วนอยากฟังคนเดียวจะยอมให้อาตมาเล่ารึเปล่า" ท่านขอความเห็นจากคนทั้งรถ
"อยากฟังครับ อยากฟังค่ะ" เสียงตอบรับดังขึ้น ฝ่ายอยากฟังครับนอกจากจะเป็นอุบาสกแล้ว ยังมีพระหนุ่มอีก ๓ รูปร่วมออกเสียงด้วย เมื่อเป็นความเห็นของผู้ฟังพระมัคคุเทศก์จึงเริ่มบรรยายถึงเรื่องความเป็นมาของภิกษุณี ท่านรู้เรื่องนี้ดี เพราะอ่านจากหนังสือพจนานุกรมพุทธศาตร์ฉบับประมวลศัพท์เขียโดยเจ้าคุณอาจารย์ประยุทธ ประยุทธโต ปราญช์ทางพระพุทธศาสนาของโลก ภิกษุณีก่อคือพระผู้หญิงในพระพุทธศาสนาคู่กับภิกษุซึ่งเป็นพระผู้ชาย ภิกษุณีสงฆ์เกิดขึ้นในศตวรรษที่ ๕ แห่งพุทธกิจ "ใครจะตอบอาตมาได้บ้างว่า ในพรรษาที่ ๕ พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญพุทธกิจอะไรบ้าง" พระมัคคุเทศก์ตั้งคำถาม
"ผมไม่ทราบคำตอบหรอกครับ ทราบแต่ว่าท่านอาการจะต้องทราบ" พระขุนทดพูดยวนนิดๆ ที่ไม่ได้มีเชื้อสายยวนแม้ซักน้อย
พระมัคคุเทศก์จึงช่วยเฉลยว่า "ในพรรษาที่ ๕ พระพุทธองค์ได้เสด็จไปจำพรรษา ณ ภูตาคาร................
ความหลงในสงสาร
ประพันธ์โดย สุทัสสา อ่อนค้อม