www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




ธรรมะ > บทความธรรมะ

แม้ที่สุดของวิชาทางโลกก็ไม่สำคัญ หากขาดการเจริญสติ อุทธาหรณ์จากชีวิตคุณหมอวิสุทธิ์
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2016-01-21 18:19:07

 

เรียนรู้สัจธรรมแห่งชีวิต ที่ทุกคนมีโอกาสพบเจอ จากชีวิตของคุณหมอวิสุทธิ์ ที่สะท้อนถึงจุดสูงสุดของชีวิตทางโลกโด่งดังระดับเอเซีย กลับประมาทพลั้งเผลอ ขาดสติ หลงตามกิเลสตัณหา จนต้องตกต่่ำเป็นนักโทษประหารชีวิต กว่าจะได้เรียนรู้หลักธรรมที่แท้ผ่านบทผิดพลาดของชีวิตตน และได้เผยแพร่ชีวิตตนเป็นอุทธาหรณ์ ถึงความสำคัญของการเจริญสติ เรียนรู้ธรรมแต่ยังเยาว์ เพื่อนำธรรมะ มากำกับความรู้ทางโลก

...  มาย้อนหลังบทสัมภาษณ์คุณหมอวิสุทธิ์ กับชีวิตในเรือนจำ เมื่อ 2 ปีก่อน กับชีวิตดั่งเกิดใหม่ ในแดนธรรม หลังออกจากเรือนจำ ในปัจจุบันกันค่ะ 

 

 

 ภาพ : กระปุกดอทคอม

 
            เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 14 ปีก่อน (พ.ศ. 2544) หลายคนยังคงจำได้ถึงคดีอาชญากรรมในตำนาน ที่สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการแพทย์ ในคดีฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ อดีตสูตินรีแพทย์ ซึ่งมือสังหารก็คือ นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ หรือ หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อดีตสูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำกิ๊ฟมือหนึ่งของประเทศ และโด่งดังระดับเอเซีย ซึ่งเป็นคู่ชีวิตของเธอ 


            โดยหลังจากที่คดีดังกล่าวได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามลำดับชั้นมาเป็นเวลาหลายปี ในที่สุด นพ.วิสุทธิ์ ก็ถูกส่งตัวเข้าคุมขังในเรือนจำกลางบางขวาง ในฐานะนักโทษประหาร ด้วยความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้ตายให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน


          และเป็นเวลานานถึง 9 ปีแห่งการจองจำ จากสูตินรีแพทย์ฝีมือดีระดับเอเชีย สู่นักโทษประหาร จนกระทั่งเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม และเป็นเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือแพทย์อยู่ในแดนพยาบาล เรือนจำกลางบางขวาง โดยมีหน้าที่ดูแลและรักษาเพื่อนผู้ต้องขัง จากรายการคนค้นฅน ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 56  กับเรื่องราวหลังเรือนจำของหมอวิสุทธิ์ ซึ่งได้เรียนรู้และได้มีโอกาสในการทบทวนความผิดพลาดที่ผ่านมาในชีวิตในตอน โลกหลังกำแพง...ของ หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ
 

           สิ่งที่มีส่วนสร้างกำลังใจให้ได้มากที่สุดในช่วงหลังของการอยู่ในเรือนจำ ก็คือการที่ หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ได้เข้าร่วมเขียนสารคดี เรื่องเล่าจากแดนประหาร ซึ่งทำให้ตัวเขาได้ทบทวนถึงเรื่องที่ผ่านมา ทบทวนชีวิตตนเองอย่างจริงจัง และทำความเข้าใจต่อชีวิตของตนเองให้ถ่องแท้ที่สุด จนเขาได้รู้จักกับตัวเองมากมากขึ้น

           โดย หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ได้เล่าว่า เมื่อได้ลองทบทวนตัวเองอย่างจริงจัง ก็ทำให้เขาได้รู้ว่า
           ชีวิตก่อนหน้านี้ ตัวของเขาเป็นคนที่ประมาท ปล่อยให้ความโลภและความโกรธเข้าครอบงำจนไร้อิสระ ปล่อยให้อิทธิพลของลาภยศ คำสรรเสริญ เข้ามามีอำนาจเหนือตนเอง


           และนั่นทำให้ในตอนที่ถูกจำคุก เขาได้แต่คิดว่าตัวเองสูญเสียอะไรไปบ้าง โดยไม่เคยคิดว่าจะได้รับอะไร แต่ในตอนนี้หลังจากที่ได้ทบทวนตัวเอง แม้ว่าจะต้องเสียสิ่งต่าง ๆ ไปมากมาย แต่เขากลับรู้สึกว่าตอนนี้เขา ได้เรียนรู้ตัวเองมากขึ้น ได้มองโลกในอีกมุมมองหนึ่ง มีการเจริญเติบโตของจิตวิญญาณ และมีความสุขจากการให้ เข้าใจคำว่าจิตอาสามากขึ้น

 


ภาพ : กระปุกดอทคอม
 

         นอกจากนี้ หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ยังได้เผยถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้จากรูปภาพที่เขาได้วาดในเรือนจำว่า
           ตัวของเขานั้นก็เปรียบเหมือนธุลีเล็ก ๆ ในโลกใบใหญ่ ไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือสลักสำคัญอะไร หากเราหาความสุขได้จากการที่ตัวเองเป็นเพียงฝุ่นผง ความสุขนั้นก็จะอยู่กับเราอย่างยั่งยืน

           เมื่อก่อนเป็นคนมีอัตตา คิดว่าควบคุมทุกอย่างได้ ทำให้โกรธง่าย แต่ตอนนี้ตัวเองเป็นเพียงฝุ่นเล็ก ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องโกรธใครแล้ว


            และหากจะมองย้อนไปถึงเรื่องของ พญ.ผัสพร ในอดีต หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ก็เผยว่า เมื่อมองย้อนกลับไป เขาไม่ได้ตำหนิตัวเอง และกลับรู้สึกว่าเข้าใจความคิดอ่าน ของภรรยามากขึ้น ตัวเองไม่ติดใจอะไรแล้ว ไม่โกรธแค้นขุ่นเคือง รู้สึกให้อภัยภรรยา ให้อภัยแก่ตัวเอง และก็อยากให้ภรรยาอภัยให้เช่นกัน

           ทั้งนี้ สำหรับการที่ หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อนุญาตให้ทางรายการเข้ามาถ่ายทำเกี่ยวกับตัวเขาได้ หลังจากที่ไม่เคยออกมาพูดอะไรนานเป็นสิบปีนั้น หมอวิสุทธิ์ เผยว่า เกิดจากการที่เขาคิดว่า คนเราจะมีคนรู้จักหรือไม่นั้นขึ้นอยู่ กับการดูแลตนเอง ตราบใดที่เราทำตัวเป็นประโยชน์ ไร้อัตตา เราก็ไม่ทุกข์ร้อน การที่มัวแต่ห่วงว่าจะเสียหน้า หรือเสียชื่อเสียงหรือไม่ ล้วนแล้วแต่เป็นอัตตา และรายการนี้ก็เป็นรายการที่มอบประโยชน์แก่ผู้อื่น 



ภาพ : เฟซบุ๊ก  Kanlayanatam 
พระถิระปุญโญ (หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ)  บวชเมื่อ 27 ธันวาคม 2558 ที่วัดปทุมวนาราม


ชีวิตใหม่ ในเส้นทางธรรม หลังออกมาจากเรือนจำ


            ล่าสุด วันที่ 21 มกราคม 2559 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก จิตอิสระ หยดน้ำบนใบบัว สุพรรัตน์ ศิรวงศกร ที่ระบุว่า เป็นบทความจาก พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ที่กล่าวถึงชีวิตของหมอวิสุทธิ์ หลังถูกปล่อยตัวในฐานะนักโทษประหาร จากคดีฆ่าหั่นศพภรรยา   
           

          ซึ่งเมื่อหมอวิสุทธิ์ ได้มีโอกาสแก้ตัวอีกครั้ง ก็ได้ตัดสินใจปฏิบัติธรรม จนสุดท้าย หมอวิสุทธิ์ ก็ตัดสินใจก้าวสู่เส้นทางธรรม ด้วยการออกบวชเป็นพระ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2558 ณ วัดปทุมวนาราม โดยได้รับฉายาว่า "ถิระปุญโญ"
 

บางส่วนจากบทความจาก พระอาจารย์ไพศาลวิสาโล ได้กล่าวว่า

             อุทาหรณ์ที่หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ได้เรียนรู้จากโรงเรียนชีวิตแห่งนี้ก็คือ
             มนุษย์เราควรจะต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิต ไม่ประมาท ต้องรู้สึกฝึกจิตตั้งแต่อายุน้อย ไม่จำเป็นต้องรอให้อายุมากแล้วจึงเข้าวัด ควรฝึกจิตอย่างประมาทให้กิเลส ความโลภ โกรธ หลง ครอบงำจิตใจ เพราะเมื่อไหร่ที่เราถูกครอบงำเราก็ทำผิดพลาดได้

             หากมองย้อนชีวิตที่ผ่านมาแล้ว เสียดายที่ทุ่มเทกับงานการจนละเลยเรื่องการปฏิบัติธรรม แต่ก่อนในหัวมีแต่งาน ตำรา งานวิชาการ จึงไม่สนใจเรื่องของการฝึกจิตใจ ไม่ใส่ใจเรื่องการครองสติ
 
             แต่ตอนนี้พบว่าการเจริญสติ การฝึกจิตใจสำคัญกว่าวิชาความรู้เสียอีก ถ้าท่านรู้ความจริงข้อนี้ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มก็คงจะรีบปฏิบัติธรรมเสียตั้งแต่ตอนนั้น ไม่รอให้แก่ก่อน

 

 
ภาพ : เฟซบุ๊กคุณ จิตอิสระ หยดน้ำบนใบบัว สุพรรัตน์ ศิรวงศกร

 

              นี่เป็นข้อคิดที่น่าสนใจว่า สุดท้ายคนที่ประสบความสำเร็จวิชาทางโลกแล้ว กลับพบว่าวิชาทางโลกไม่สำคัญเท่ากับการปฏิบัติธรรมและการเจริญสติ นี่เป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับคนจำนวนมากที่มารู้ว่า วิชาชีวิตหรือการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องสำคัญก็ต่อเมื่อพลั้งเผลอพลั้งพลาดไปแล้ว

             หมอวิสุทธิ์ยังโชคดีที่มีโอกาสแก้ตัว รอดชีวิตกลับมาปฏิบัติธรรม บางคนอาจจะไม่มีโอกาสแก้ตัวเพราะถูกประหารชีวิตไป หรือบางคนอาจจะทำบาปกรรมยิ่งกว่านั้น

           ส่วนเราโชคดี ที่มีโอกาสให้เวลาใส่ใจกับเรื่องนี้  
พวกเราส่วนใหญ่ยังไม่แก่ ยังหนุ่มยังสาว มีกำลังวังชาที่จะทำ ที่จะศึกษาเรื่องนี้ ก็ขอให้ทุ่มเทกับวิชาชีวิตแต่ก็อย่าไปละเลยวิชาทางโลก เพราะยังมีประโยชน์ในการช่วยเสริมงานของเราหรือการปฏิบัติธรรมของเราได้ด้วย

บางส่วนจากบทความโดย พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล

 

 

 

เรียบเรียงเนื้อหาและภาพประกอบจากที่มา : 
http://hilight.kapook.com/view/87626

https://www.facebook.com/kim.supornrat/posts/821598611320353

https://www.facebook.com/parents.school/photos/a.397120833675263.96380.304681216252559/524811044239574/?type=3&theater