วิจัยพบเดินจงกรม สร้างสมรรถภาพทางกาย
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2015-11-30 17:50:13
(26พ.ย.2558) นางนงนุช แย้มวงศ์ หัวหน้างานการพยาบาลด้านตรวจรักษาพิเศษ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เปิดเผยงานวิจัย เรื่อง “ผลของการเดินจงกรมสมาธิต่อสมรรถภาพทางกาย ระดับความจำระยะสั้นและความฉลาดทางอารมณ์ผู้สูงอายุ” ในการประชุมวิชาการกิจกรรมทางกายระดับชาติ ครั้งที่ 1 ว่า
ตนและคณะได้ทำการวิจัยนี้ เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง โดยศึกษาผลของการเดินจงกรมสมาธิต่อสมรรถภาพกาย ระดับความจำระยะสั้นและความฉลาดทางอารมณ์ของผู้สูงอายุที่ปฏิบัติธรรม ใน จ.นครนายก
กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุ 2 กลุ่ม คือ
- กลุ่มผู้สูงอายุที่ปฏิบัติธรรมด้วยการเดินจงกรมสมาธิและ
- กลุ่มผู้สูงอายุที่ปฏิบัติธรรมด้วยการนั่งสมาธิ
กลุ่มละ 50 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย
1 คอร์สการฝึกปฏิบัติธรรม ภาวะนาแบบอานาปานสติ
2 แบบประเมินสมรรถภาพทางกายของผู้สูงอายุ
3 แบบคัดกรองสมองเสื่อมเบื้องต้น และ
4 แบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ และนำมาวิเคราะห์เชิงสถิติก่อนและหลังการทดลอง
ภาพประกอบ : ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock
ลิขสิทธิ์ภาพขอสงวนเฉพาะสำหรับใช้งานในสื่อต่างๆ ของทรูปลูกปัญญา เท่านั้น
นางนงนุช กล่าวอีกว่า ผลการศึกษา พบว่า
กลุ่มผู้สูงอายุที่ปฏิบัติธรรมด้วยการเดินจงกรมสมาธิมีคะแนนเฉลี่ยสมรรถภาพทางกาย 7 ด้าน คือ
การทรงตัว ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน ความอดทนด้านแอโรบิก ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา ความอ่อนตัวด้านล่าง ความอ่อนตัวด้านบน และความว่องไว
หลังการทดลอง12สัปดาห์ พบว่าก่อนและหลังการทดลอง มีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ พบว่า
ค่าเฉลี่ยสมรรถภาพทางกายกลุ่มผู้สูงอายุที่ปฏิบัติด้วยการเดินจงกรม สูงกว่ากลุ่มที่นั่งสมาธิในทุกด้าน และกลุ่มที่ปฏิบัติธรรมด้วยการเดินจงกลม ยังมีค่าคะแนนความจำมากกว่ากลุ่มที่นั่งสมาธิ
ส่วนค่าเฉลี่ยความจำนั้น พบว่าก่อนทดลองมีคะแนนค่าเฉลี่ยของความจำแตกต่างกัน แต่เมื่อทดลองด้วยทั้ง2วิธีแล้ว คะแนะเฉลี่ยนั้นไม่มีความแตกต่างกัน
ภาพประกอบ : ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock
ลิขสิทธิ์ภาพขอสงวนเฉพาะสำหรับใช้งานในสื่อต่างๆ ของทรูปลูกปัญญา เท่านั้น
“การออกกำลังกายด้วยการเดินอย่างสม่ำเสมอ และมีการปฏิบัติภาวนาสมาธิ ควบคู่กันสามารถเพิ่มสมรรถภาพทางกาย ทั้งระดับความจำ และความฉลาดทางอารมณ์ จึงควรมีการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีการปฏิบัติในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ1ในการประชุมวิชาการกิจกรรมทางกายระดับชาติ ครั้งที่1ภายใต้หัวข้อActive Living for all หรือ กิจกรรมทางกายเพื่อทุกคน” นางนงนุช กล่าว
ขอบคุณที่มาจาก คม ชัด ลึก ออนไลน์
ภาพประกอบ : ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Shutterstock