www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




ธรรมะ > บทความธรรมะ

อยู่ไปทำไม ? เมื่อพระชยสาโรปลอบใจโยมแม่
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2015-11-09 18:08:23

 

         ลายมือบันทึกของพระชยสาโร เล่าถึงเหตุการณ์ต้องปลอบใจโยมแม่ที่แก่เฒ่าและหมดกำลังใจมีชีวิตต่อ ให้กลับมีกำลังใจและรู้ว่า ตนจะอยู่ไปเพื่ออะไร นับเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ล้ำค่าที่สุดที่บุตรคนหนึ่งจะพึงตอบแทนต่อผู้มีพระคุณ  

       ท่านได้ชื่อว่าเป็นพระฝรั่งที่ถ่ายทอดความลึกซึ้งทางธรรมฉบับภาษาไทยได้สละสลวย และเป็นที่ประทับใจต่อพุทธศาสนิกชนทั่วโลก 

  


ภาพ : เฟซบุ๊กเพจธรรมะ โดย พระอาจารย์ชยสาโร/ Dhamma by Ajahn Jayasaro

ตั้งแต่โยมพ่ออาตมาเสีย โยมแม่อยู่คนเดียว หลังๆ อาตมาจึงโทรไปคุยบ่อยๆ
วันหนึ่ง โยมแม่ถอนใจใหญ่ แล้วพูดว่า
"ไม่รู้อยู่ทำไม อยู่ไปวันๆ ไปไหนก็ไปไม่ได้ เป็นภาระของคนอื่น ไม่รู้อยู่ทำไม"
เสียงสั่นเครือของท่านน่าสงสารจริงๆ


อาตมาจึงสั่งโยมแม่ว่า
"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอให้แม่ทำความดีวันละข้อ อะไรก็ได้ ไม่ต้องเป็นเรื่องใหญ่
เรื่องเล็กๆ ก็ได้ แต่ขอให้เป็นเรื่องที่ทำแล้วรู้สึกภูมิใจได้"

โยมแม่ถามว่าอยู่ไปทำไม

คำตอบของอาตมาคือ
"อยู่ไปเพื่อทำความดี วันไหนคนเราทำความดี วันนั้นไม่ว่างเปล่า วันนั้นไม่เป็นหมัน
ความดีคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีความหมายและมีความสุข"


ภาพ : เฟซบุ๊กคุณไพโรจน์ วุฑฒนานนท์‎


ทุกวันนี้เมื่ออาตมาโทรไปที่บ้าน ก่อนอื่นต้องถามโยมแม่ว่า
"วันนี้ทำความดีแล้วหรือยัง"
ถ้าทำแล้ว อาตมาก็ชื่นชมให้กำลังใจ โยมแม่มีความสุข

การตอบแทนบุญคุณ ไม่ได้อยู่ที่การปรนนิบัติ หรือการรับใช้อย่างเดียว
การให้โอกาสให้ท่านทำบุญทำกุศล และรู้จักอนุโมทนาในความดีที่ท่านได้ทำไว้แล้ว
คือการช่วยสุขภาพจิตของผู้สูงอายุที่สำคัญมาก

พระอาจารย์ ชยสาโร

 


ภาพ : http://board.postjung.com/923322.html


ประวัติพระชยสาโร

พ.ศ.๒๕๐๑ : เกิดที่ประเทศอังกฤษ เมื่อยังเล็กมีสุขภาพไม่ดี มีอาการหอบหืด ต้องหยุดโรงเรียน บ่อย จึงใช้เวลาในการศึกษาด้วยตนเอง

ท่านสนใจว่าอะไรคือสิ่งสูงสุดที่เราจะได้จากการ เป็นมนุษย์อะไรคือความจริงสากลที่ไม่ขึ้นอยู่กับสมมุติของแต่ละสังคม ทำไมคนเรา อยากจะอยู่อย่างเป็นมิตรแต่กลับรบราฆ่าฟันกันอยู่เรื่อยไป

เมื่อไปโรงเรียน เป็นนักเรียนที่ช่างคิด ช่างค้นคว้า และมีผลการเรียนที่ดีเยี่ยมจนโยมบิดามี ความหวังให้เข้าสอบชิงทุนเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษ

เมื่อศึกษาอยู่ได้อ่านหนังสือมากมายหลากหลาย จนกระทั่งพบ คำสอนของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา ว่าเป็น "สัจธรรมความจริง " ที่กำลังแสวงหาอยู่ จึงสนใจการฝึกจิต และศึกษาหาความรู้ทางพุทธศาสนาตั้งแต่อยู่ในวัยรุ่น

ท่านทำงานเก็บเงินระหว่างที่กำลังเรียนและออกเดินทางหาประสบการณ์ในประเทศต่างๆ ตั้งแต่อายุ ๑๗ ปี ใช้เวลา ๒ ปี จนแน่ใจว่าการศึกษาและปฏิบัติธรรม เป็นหนทางที่ต้องการ แทนการเรียนต่อใน มหาวิทยาลัย โดยเริ่มปฏิบัติกับ ท่านพระอาจารย์สุเมโธ (พระราชสุเมธาจารย์ ในปัจจุบัน และ เป็นพระชาวต่างชาติรูปแรก ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา) ที่ประเทศอังกฤษ เป็น "ปะขาว" ถือศีล ๑๐ เป็นเวลา ๑ พรรษา


พ.ศ. ๒๕๒๑ : เดินทางมาประเทศไทยเพื่อฝึกปฏิบัติกับ หลวงพ่อชา สุภัทโท ( พระโพธิญาณเถร ) ที่วัดหนองป่าพง จังหวัด อุบลราชธานี

พ.ศ. ๒๕๒๒ : บรรพชาเป็นสามเณร อยู่ที่วัดหนองป่าพง

พ.ศ. ๒๕๒๓ : อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีหลวงพ่อชา สุภัทโท เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ. ๒๕๒๙ - ๒๕๓๙ : เป็นรองเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ โดยมี ท่านพระอาจารย์ปสันโน เป็นเจ้าอาวาส

พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๕ : เป็นเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ แทนท่านพระอาจารย์ปสันโน ซึ่งได้รับ นิมนต์ไปตั้งวัดสาขาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

ก่อนเดินทางมาประเทศไทยได้ตั้งใจว่าจะอยู่ที่วัดหนองป่าพงให้ครบ ๕ ปี โดยไม่มีเงื่อนไขเพื่อศึกษาปฏิบัติธรรม เมื่อมาพบ หลวงพ่อชา ก็เกิด ความเลื่อมใส ศรัทธา ในปฏิปทาและความเป็นครูที่มีทั้งเมตตาและปัญญา





ที่มา:
-- เฟซบุ๊กคุณมัทนา อ่ำมีลาภ 
--
เฟซบุ๊กคุณไพโรจน์ วุฑฒนานนท์‎

-- เฟซบุ๊กธรรมะ โดย พระอาจารย์ชยสาโร/ Dhamma by Ajahn Jayasaro