www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




ธรรมะ > บทความธรรมะ

พระมหาผ่อง สังฆราชลาว พระเถระ 2 แผ่นดิน ไทย-ลาว ละสังขารแล้ว สิริอายุ 100 ปี
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2015-10-08 11:44:06

ภาพจากคมชัดลึกออนไลน์

 

‘พระมหาผ่อง’สังฆราชลาวละสังขารแล้ว สิริอายุ 100 ปีศาสนกิจสุดท้ายที่กัมพูชา

              7ต.ค.2558 พระชัยเดช เอกัคคจิตโต พระเลขานุการพระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่อง ปิยะทีโร (สะมาเลิก) ประธานศูนย์กลางการพระพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว(อพส) (พระสังฆราชลาวรูปที่ 4) เจ้าอาวาสวัดองค์ตื้อ นครเวียงจันท์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เปิดเผยว่า
 

              เมื่อเวลา 17.11 น.พระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่อง ได้ละสังขารลง หลังจากมีอาการอาพาธและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลได้ไม่กี่วันที่ผ่านมา สิริอายุ 100 ปี 6 เดือน 81 พรรษา  
 

               ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ.2558 ได้มีพิธีมหาเถราพิเษกพระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่อง ที่วัดองค์ตื้อ นครเวียงจันท์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีพระสงฆ์และชาวพุทธลาวร่วมเป็นจำนวนมาก

              สำหรับชาติภูมิพระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่องนั้นพบว่า ท่านเป็นคนไทยโดยกำเนิด  กิดที่บ้านกุงน้อย ตำบลกุศกร อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี  เมื่อปี พ.ศ..2459  ติดตามบิดามารดาไปอยู่ บ้านโพนทอง เมืองโพนทอง แชวงจำปาสัก สปป.ลาว ตั้งแต่เป็นเด็กเล็ก  และได้รับการเป็นลูกบุญธรรมของเจ้าฟ้าเพชรราช(วีระบุรุษของชาวลาวอิสระ ปลดแอกจากการปกครองฝรั่งเศส) และได้เป็นบุตรบุญธรรมของโฮจิมินห์ ประธานพรรคคอมมิวนิสต์อีกด้วย

              พระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่อง อุปสมบทเมื่ออายุครบ 20 ปี ที่วัดโพธิ์สระปทุม บ้านกุศกร (ที่บ้านเกิด) จากนั้นก็เดินทางไปศึกษาพระปริยัติธรรม ที่วัดชนะสงคราม กรุงเทพมหานคร เป็นพระที่สนิทสนมกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เพราะศึกษาร่วมสำนักเดียวกัน ได้รับพระราชทานประกาศนียบัตรเปรียญธรรม 6 ประโยค  จากนั้นก็ได้นำความรู้มาสอนมัธยมสงฆ์หลายแห่งในประเทศลาว 

ท่านเป็นสหายธรรม มีอายุสมัยร่วมกันกับ
เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช

ภาพ ; alittlebuddha.com


              พระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่องนั้นทางมาประเทศไทยเสมอใจกิจการคณะสงฆ์สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับลาว อย่างเช่นในวาระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการพระราชทานเพลิงศพ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ ป.ธ.9) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช และเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ในวันที่ 9 มีนาคม 2557 พระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่องก็ได้เดินทางมาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากพระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่องกับเจ้าประคุณสมเด็จนั้นถือว่าเป็นสหายธรรมกันมามีอายุสมัยร่วมกัน
 

              ในโอกาสที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานครกำหนดการประชุมสัมมนาพระธรรมทูตไทยทั่วโลกเพื่อเป็นการบูชาคุณเจ้าประคุณสมเด็จ  ที่ มจร อ.วังน้อยเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 นั้น พระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่องก็ได้เดินทางไปร่วมงานด้วย โดยการประสานของพระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดี มจร ฝ่ายกิจการต่างประเทศ
 

              และเมื่อปีที่แล้วพระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่องก็ได้นำญาติโยมจำนวนหนึ่ง มาร่วมทำบุญ ที่ วัดพระโต บ้านที่วัดพระโต บ้านปากแซง ตำบลพะลาน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี  ด้วยการทำบุญตักบาตร ถวายเครื่องไทยทาน และปล่อยปลาดุกลงสู่แม่น้ำโขง จำนวน 99 ตัว ครบตามอายุ 99 ปี โดยมีพระครูพุทธวราธิคุณ เจ้าคณะอำเภอนาตาลและเจ้าอาวาสวัดพระโต บ้านปากแซง นำพระภิกษุสงฆ์พร้อมพุทธสาสนิกชนถวายการต้อนรับคับคั่ง
 

              พร้อมกันนี้พระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่อง ได้กล่าวว่า “ข้อยดีใจหลายเด้อ ที่ได้มาทำบุญในมื้อนี่” พร้อมบอกต่อไปว่า

                การทำบุญในครั้งนี้นับเป็นการที่ทำบุญที่มีความสำคัญมา เพราะเป็นการเชื่อมสัมพันธ์พุทธศาสนาไทย ลาว ให้ได้เป็นแบบอย่างในการที่ได้ร่วมกันทำบุญเพื่อเป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป 

                และเห็นว่า วัดแห่งนับเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์อีกวัดหนึ่ง ในแถบลุ่มแม่น้ำโขง ที่สำคัญ ชื่อพระประธานในวัด ที่เวียงจันทร์  ก็ชื่อเดียวกันกับที่นี่ คือ ชื่อ “พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ” เช่นเดียวกัน แต่ที่พระเจ้าองค์ตื้อ ที่เวียงจันทร์นั้น ก่อสร้างขึ้นมาได้เพียง 450 ปี แต่พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ ที่ฝั่งไทยแห่งนี้ อายุ กว่า 1 พันแล้ว นับเป็นพระพุทธรูปที่มีคนเลื่อมใสกันมาก


ภาพจากเว็บไกด์อุบลดอทคอม 

              ศาสนากิจสุดท้ายของพระอาจารย์ใหญ่ดร.มหาผ่องคือเดินทางไปร่วมงานเสวนา "พุทธพลิกสุวรรณภูมิ : สามัคคีธรรม แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง"   จัดโดยสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย และมูลนิธิวีระภุชงค์  ที่โรงแรมโซพิเทล อังกอร์ โภคีธรา กอล์ฟ @ สปา รีสอร์ท จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 9-13 กันยายน พ.ศ.2558  ที่มีคณะสงฆ์อาเซียน 5 ประเทศ ประกอบด้วยไทย เมียนมาร์ เวียดนาม กัมพูชา และลาว เข้าร่วม   โดยทำหน้าที่แสดงสัมโมทนียกถาและกล่าวเปิดงาน  

              โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ย้อนยุค ปลุกอุดมการณ์ ดูงานพระอริยสงฆ์ สานตรงต่อพุทธปณิธาน โดยตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ความมุ่งหวังของการจัดโครงการฯ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อพระสงฆ์ที่เข้าร่วมโครงการ ให้เกิดศรัทธาอย่างลึกซึ้ง เติมความรู้ เพิ่มมุมมอง สร้างเสริมจริยวัตรที่งดงามต่อสายต่อสังคมโลก และปฏิบัติธรรมในสถานที่จริง จนความศรัทธา สามารถนำความรู้ที่เพิ่มพูนด้วยความเข้าใจที่มากขึ้น กลับสู่การพัฒนาสังคมไทย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมแห่งความสงบ และมุ่งหวังเชื่อมโยงมิติทางศาสนา สู่การพัฒนาการเผยแผ่พระพุทธศาสนา